กทม.ดำเนินการทางวินัยเจ้าหน้าที่เขตเรียกรับสินบนเลี่ยงภาษี – กำชับฝ่ายรายได้ประเมินและจัดเก็บภาษีตามกฎหมาย
นายณันทพงศ์ สินมา ผู้อำนวยการเขตราชเทวี กทม.กล่าวกรณีกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี เรียกรับเงิน เพื่อช่วยเลี่ยงจ่ายภาษีโรงเรือนและที่ดินว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่เขตรายดังกล่าว เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและเป็นธรรม ตามกฎ ก.ก.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.๒๕๖๕ พร้อมทั้งได้นำเรียนปลัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หรือได้รับรายงานเห็นว่าเป็นกรณีการกระทำผิดวินัยร้ายแรง เพื่อสอบสวนกรณีการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต ตามมาตรา ๘๕ (๑) และ/หรือ กระทำการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง มาตรา ๘๕ (๔) และ/หรือ ละเว้นการกระทำ หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๘๒ หรือฝ่าฝืนข้อห้ามตามมาตรา ๘๓ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามมาตรา ๘๕ (๓) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติมตามแต่กรณี พร้อมทั้งการพิจารณาสั่งพักราชการ หรือการสั่งให้ออกจากราชการ
ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้กำชับเน้นย้ำการปฏิบัติงานของฝ่ายรายได้ในการประเมินและจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยจัดประชุมชี้แจงข้อราชการและนโยบายของผู้บริหาร กทม.และภารกิจที่ต้องปฏิบัติของเขตราชเทวีทุกเดือน ขณะเดียวกันได้กำชับข้าราชการ กทม.สามัญและบุคลากรในสังกัดให้รักษาวินัยและปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด เช่น การชี้แจงหลักเกณฑ์การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ให้ที่ประชุมทราบและมอบแนวคิด เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพและคุณภาพ รวมทั้งเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการและบุคลากรในสังกัดให้เป็นไปตามกฎระเบียบ กฎหมาย และสอดคล้องกับนโยบายของผู้บริหาร กทม.โดยตระหนักถึงการปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และคำนึงถึงการบริการประชาชนเป็นสำคัญ อีกทั้งได้ประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ เพจเฟซบุ๊ก และติดป้ายโปสเตอร์ที่จุดรับบริการประชาชนทั้ง 10 ฝ่าย ภายในอาคารสำนักงานเขตฯ เพื่อให้ประชาชนผู้มาติดต่อราชการสามารถประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของข้าราชการสำนักงานเขต หากพบเจ้าหน้าที่ทุจริตสามารถแจ้งผ่านระบบ Traffy Fondue
นางสาวอำภา นรนาถตระกูล ผู้อำนวยการสำนักการคลัง (สนค.) กทม.กล่าวว่า สนค.ได้กำชับการปฏิบัติงานของฝ่ายรายได้ สำนักงานเขต ในการประเมินและจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยมีหนังสือแจ้งสำนักงานเขตให้ถือปฏิบัติตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 23 ธ.ค.2565 ซักซ้อมขั้นตอนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประจำปี พ.ศ.2566 ส่วนการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน กทม.ได้มีคำสั่ง เรื่องวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการจัดเก็บและเร่งรัดภาษีโรงเรือนและที่ดิน เพื่อให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปโดยถูกต้อง เรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ มีวิธีปฏิบัติที่รัดกุมและเป็นแบบฉบับเดียวกันง่ายต่อการควบคุม ตรวจสอบ และติดตามผล นอกจากนั้น ยังได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและพิจารณาการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมต่อผู้เสียภาษี รวมทั้งได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและพิจารณากำหนดค่ารายปีและค่าภาษี เพื่อให้การประเมินค่ารายปีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
กทม.พร้อมบรรเทาความเดือดร้อนชาวชุมชนท่าเรือแดงระหว่างการก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำยังไม่แล้วเสร็จ
นายสัมฤทธิ์ สุมาลี ผู้อำนวยการเขตพระนคร กทม.กล่าวถึงกรณีชาวชุมชนท่าเรือแดง ซอยท่าเตียน ขอให้รื้อถอนรั้วสังกะสี ทำให้น้ำไม่ระบายและเกิดน้ำท่วมสูงเวลาน้ำขึ้น หรือฝนตกหนักว่า บริเวณดังกล่าวเจ้าของที่ดินไม่ได้ยกที่ดินให้เป็นทางสาธารณะทั้งแปลง จึงจำเป็นต้องให้กรมที่ดินดำเนินการรังวัด เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณะ รวมถึงกำหนดขอบเขตพื้นที่ที่เจ้าของที่ดินประสงค์ยกให้เป็นทางสาธารณะให้ถูกต้องชัดเจนก่อนดำเนินการใด ๆ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในการเข้าไปดำเนินการในที่ดินส่วนบุคคลที่เจ้าของที่ดินไม่ได้ยกให้ ซึ่งอาจทำให้ กทม.ถูกฟ้องละเมิดได้ ส่วนรั้วสังกะสีดังกล่าวอยู่ในที่ดินส่วนบุคคลและไม่มีส่วนปิดกั้นทางน้ำแต่อย่างใด นอกจากนี้ หากรื้อถอนรั้วดังกล่าวออก บริเวณนั้นจะไม่มีอุปกรณ์ หรือเครื่องป้องกันใด ๆ สำหรับป้องกันคนพลัดตกน้ำ อาจเกิดอันตรายกับประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ร่วมกับสำนักการระบายน้ำ กทม.ดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อยู่บริเวณจุดฟันหลอและประสบปัญหาน้ำท่วมระหว่างที่การก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำยังไม่แล้วเสร็จ โดยจัดเรียงกระสอบทรายเป็นแนวกั้นน้ำชั่วคราว รวมทั้งเฝ้าระวังบริเวณดังกล่าวเป็นพิเศษ หากประชาชนมีข้อสงสัย หรือประสงค์จะขอรับการสนับสนุนอื่นใดในช่วงฤดูน้ำหลาก สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระนคร โทร. 0 2281 8125 และ 0 2281 5370 ต่อ 6563-6564
นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อนแบบถาวร หรือแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณจุดฟันหลอท่าเรือแดง ความยาวประมาณ 20 เมตรว่า สนน.ได้สำรวจ ออกแบบ และประมาณราคางานก่อสร้างเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าเรือแดงไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก่อน ที่จะดำเนินการก่อสร้างเขื่อนบริเวณดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเดินเรือในน่านน้ำไทยได้กำหนดไว้ว่ากรุงเทพมหานครจะต้องยื่นขออนุญาตและจะต้องได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าก่อน จึงสามารถเข้าดำเนินการก่อสร้างเขื่อนได้ นอกจากนี้ ยังต้องมีหนังสือจากเจ้าของที่ดินที่ติดริมแม่น้ำยินยอมให้ก่อสร้าง เพื่อนำไปประกอบการขออนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำพร้อมกันในคราวเดียว ทั้งนี้ บริเวณพื้นที่ที่จะก่อสร้างเขื่อนแบบถาวรดังกล่าว ปัจจุบันมีการฟ้องร้องระหว่างเจ้าของท่าเรือแดงกับกรมเจ้าท่า ทำให้กรุงเทพมหานครยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการก่อสร้างเขื่อนบริเวณพื้นที่ดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ยังไม่มีเขื่อนกั้นน้ำถาวร ในช่วงฤดูน้ำเหนือหลากและน้ำทะเลหนุนสูง สนน.ได้ก่อสร้างผนังกั้นน้ำชั่วคราวและจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปเรียงกระสอบทราย เสริมความสูงของแนวคันกั้นน้ำ ป้องกันน้ำเอ่อล้นไหลเข้าพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชุมชนท่าเรือแดง
กทม.ตรวจสอบความพร้อมเครื่อง AED ในสวนสาธารณะทุกแห่ง พร้อมฝึกทักษะช่วยชีวิตให้เจ้าหน้าที่หากเกิดเหตุฉุกเฉิน
นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม.กล่าวถึงการตรวจสอบความพร้อมของเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ในสวนสาธารณะของ กทม.ว่า เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุฉุกเฉิน สสล.ได้กำชับให้ผู้ดูแลสวนสาธารณะทุกแห่งตรวจสอบความพร้อมของเครื่อง AED ที่ติดตั้งภายในสวนสาธารณะของ กทม.ทุกเครื่อง หากพบว่าชำรุด ไม่พร้อมใช้งาน ให้เร่งประสานศูนย์บริการหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน กทม.เพื่อตรวจสอบและซ่อมแซมให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ รวมทั้งตรวจสอบจุดติดตั้งเครื่อง AED ให้อยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นชัดเจน หยิบใช้งานได้สะดวก ขณะเดียวกันได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนให้ทราบถึงตำแหน่งที่ติดตั้งเครื่อง AED พร้อมจัดทำแผนผังแสดงจุดติดตั้งและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มาใช้บริการทราบโดยทั่วกัน
นอกจากนั้น ยังได้จัดอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสวนสาธารณะทุกแห่ง โดยเชิญเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้และฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการช่วยเหลือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เช่น อบรมวิธีการทำ CPR การสอนใช้เครื่อง AED อบรมวิธีการกู้ชีพในสถานที่สาธารณะให้กับประชาชน เป็นต้น รวมทั้งประสานสำนักการแพทย์และสำนักอนามัยมาอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสวนสาธารณะเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและฝึกฝนทักษะการช่วยชีวิตอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
ส่วนกรณีมีประชาชนที่ออกกำลังกายในสวนสาธารณะแล้วเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่อง AED มาอำนวยความสะดวก แต่เครื่องดังกล่าวชำรุดนั้น สสล.ได้นำเครื่อง AED สำรองมาทดแทนแล้ว จำนวน 1 เครื่อง รวมถึงสอบถามติดตามอาการของผู้ประสบเหตุเป็นระยะ โดยขณะนี้ปลอดภัยและออกจากโรงพยาบาลแล้ว
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบสถานที่จะกำหนดแผนการตรวจสอบเครื่อง AED และของบประมาณเพื่อใช้ซ่อมบำรุง เช่น เปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือแผ่นแปะหน้าอก หากผู้ใช้งานพบว่า มีการชำรุดเสียหายก่อนครบกำหนดการซ่อมบำรุง สามารถแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการได้ สำหรับการสอนอบรมการกู้ชีพเบื้องต้นให้แก่ประชาชน มีหลายหน่วยงานที่ร่วมรับผิดชอบ ได้แก่ ศูนย์เอราวัณ โรงพยาบาลสังกัด กทม. โรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน มูลนิธิ สมาคมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงศูนย์บริการสาธารณสุข ซึ่งแต่ละหน่วยงานรับผิดชอบจะฝึกอบรมในกลุ่มเป้าหมายต่างกัน เช่น สำนักการศึกษาฝึกอบรมให้เด็กนักเรียน ศูนย์บริการสาธารณสุขฝึกอบรมให้อาสาสมัครสาธารณสุข เป็นต้น