ฝุ่นพิษ กทม.พุ่งติดอันดับโลก แนะบริษัทเอกชนเวิร์กฟรอมโฮม-ลดการใช้รถยนต์ ชาวกรุงป่วยเพิ่ม 45% เชียงใหม่พุ่งอันดับ 1 โลก เหนือแนวโน้มเกินมาตรฐาน นักท่องเที่ยวยกเลิกที่พักม่อนแจ่ม 50% เร่งจัดโปรดึงคนเที่ยว ‘เลย’ลักลอบเผาป่า-ไร่อ้อย

17จว.เหนือกระอักฝุ่นพิษ

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ทั่วประเทศ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีมากถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ค่าฝุ่นระหว่าง 11-156 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ตรวจวัด ค่าฝุ่นเฉลี่ย 40-79 มคก./ลบ.ม. พบเกินค่ามาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม. จำนวน 47 พื้นที่ ภาคเหนือ ค่าฝุ่นเฉลี่ย 67-156 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐานใน 17 จังหวัด รวม 32 พื้นที่ มี 19 พื้นที่อยู่ในระดับสีแดงกระทบต่อสุขภาพ อาทิ ใน ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ค่าฝุ่น 93 มคก./ลบ.ม., ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ค่าฝุ่น 120 มคก./ลบ.ม., ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ค่าฝุ่น 110 มคก./ลบ.ม., ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น 100 มคก./ลบ.ม., ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น 122 มคก./ลบ.ม., ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น 108 มคก./ลบ.ม., ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่น 99 มคก./ลบ.ม., ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ค่าฝุ่น 97 มคก./ลบ.ม., ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน ค่าฝุ่น 96 มคก./ลบ.ม., ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน ค่าฝุ่น 103 มคก./ลบ.ม., ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน ค่าฝุ่น 102 มคก./ลบ.ม., ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ค่าฝุ่น 106 มคก./ลบ.ม., ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ค่าฝุ่น 109 มคก./ลบ.ม., ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย ค่าฝุ่น 136 มคก./ ลบ.ม. ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮองสอน ค่าฝุ่น 114 มคก./ลบ.ม., ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่น 105 มคก./ลบ.ม., ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่น 156 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดค่าฝุ่นระหว่าง 49-136 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐานใน 11 จังหวัด รวม 11 พื้นที่ พบเป็นพื้นที่สีแดง 2 พื้นที่ ได้แก่ ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย ค่าฝุ่น 128 มคก./ลบ.ม. และ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม ค่าฝุ่น 136 มคก./ลบ.ม. ภาคกลาง ตรวจวัดค่าฝุ่นระหว่าง 38-80 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐาน 9 พื้นที่ ภาคตะวันออก ตรวจวัดค่าฝุ่นระหว่าง 30-70 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐาน 3 พื้นที่

เชียงใหม่พุ่งอันดับ1ของโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์ สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ในวันที่ 12 มี.ค.66 อาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้ในบางพื้นที่และหลังวันที่ 13 มี.ค.66 เป็นต้นไปสถานการณ์มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเนื่องจากลมทางใต้ช่วยพัดพา ฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ แต่ช่วงระหว่างวันที่ 15-18 มี.ค. ควรเฝ้าระวังพื้นที่เนื่องจากมีแนวโน้ม ที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่ได้ ส่วนพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงในพื้นที่ภาคเหนือทั้งตอนบนและล่างระหว่างวันที่ 12-13 มี.ค.66 และ 16-18 มี.ค.66 ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควร หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานเว็บไซต์ IQAir รายงานผลการตรวจวัดดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) และมลพิษทางอากาศ PM2.5 เวลา 12.00 น. พบว่า ค่าฝุ่น PM2.5 ใน จ.เชียงใหม่ พุ่งสูงถึง 191 สหรัฐ AQI อยู่ในระดับสีแดงและขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วนกรุงเทพมหานคร ขึ้นเป็นอันดับ 10 วัดค่าฝุ่น PM2.5 ได้ 153 สหรัฐ AQI

ม่อนแจ่มยกเลิกห้องพัก50%

นายเอกรินทร์ นทีไพรวัลย์ ประธานวิสาหกิจชุมชนเชิงเกษตรท่องเที่ยวม่อนแจ่ม ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหาหมอกควัน ฝุ่น PM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานเริ่มส่งผลกระทบการท่องเที่ยวม่อนแจ่ม เนื่องจากมีการยกเลิกจองที่พักกว่า 50% จากที่พัก 116 แห่ง กว่า 1,200 ห้อง อยากสร้างความเข้าใจว่าม่อนแจ่มตั้งอยู่บนที่สูงกว่า 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ใกล้เคียงกับดอยสุเทพ อ.เมือง ทำให้อากาศโปร่ง ถ่ายเทมากกว่าในตัวเมืองเชียงใหม่ ฝุ่น PM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานส่วนใหญ่ปกคลุมในตัวเมืองเชียงใหม่ ส่วนม่อนแจ่มได้รับผลกระทบ บางส่วนเท่านั้น บางพื้นที่ค่า PM2.5 ต่ำกว่ามาตรฐานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กลุ่มวิสาหกิจฯได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ พักฟรี 1 คืน แต่ต้องเข้าเวรป้องกันและเฝ้าระวังไฟป่าครึ่งวัน เพื่อให้ นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วม สร้างจิตสำนึกฟื้นฟูอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ พร้อมจัดชุดลาดตระเวน ทำแนวกันไฟ ทำฝายชะลอน้ำ เพื่อสร้างความชุ่มชื้นด้วย

นางละเอียด บุ้งศรีทอง ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทย อดีตนายกสมาคมโรงแรมไทย ภาคเหนือ (ตอนบน) กล่าวว่า ปัญหาค่าฝุ่น PM2.5 ไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงกับการ ท่องเที่ยวในพื้นที่มากนัก อาจจะแค่ช่วง 10 วันที่ผ่านมาแต่เพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มตลาดคนไทยที่ชะลอตัวลงในการเดินทางขึ้นมาเชียงใหม่ ส่วนตลาดต่างประเทศอื่นๆ ถือว่าทรงตัว ยอดเข้าพักเดือนมีนาคมเฉลี่ย 55% จาก 85% ของเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนที่พักในแถบม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ถือว่ามีผล กระทบเพราะเป็นกลุ่มตลาดคนไทย และที่พักส่วนใหญ่อยู่กลางแจ้ง นักท่องเที่ยวอาจจะกลัวปัญหาฝุ่นที่เกิดขึ้น แต่โรงแรมในเมืองไม่มีผลอะไร เพราะนักท่องเที่ยว หรือผู้เข้าพักจะอยู่ในโรงแรมเป็นส่วนใหญ่ และทางโรงแรมติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีการล้างลานจอดรถวันละ 3 รอบเพื่อลดฝุ่นลง ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะกลางและระยะยาวต้องไปดูว่าวิธีการแก้ไขอย่างไรให้ตรงจุด

ลักลอบเผาป่า-ไร่อ้อยเมืองเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.เลย สภาพอากาศหลายพื้นที่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควัน ท้องฟ้าขมุกขมัว ทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำ และลมนิ่ง ส่งผลให้ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งแตะระดับสีแดง หรือมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนการลักลอบเผาป่าเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น ป่าในพื้นที่ภูหอ อ.ภูหลวง จ.เลย เสียหายเกือบ 10 ไร่ และยังมีป่าอีกหลายแห่งรอบเมืองเลยที่ถูกลักลอบเผา รวมถึงเกษตรกรยังลักลอบการเผาอ้อยเร่งส่งโรงงาน และการเผาตอซังอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวด้วย ส่วนที่ จ.บึงกาฬ ฝุ่น PM2.5 เริ่มกลับมาเป็นสีส้มเกินค่ามาตรฐาน ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ มีค่า 67 มคก./ลบ.ม. และ จ.นครราชสีมา คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ค่าฝุ่น PM2.5 สูงขึ้นวัดค่า 61 มคก./ลบ.ม. อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั่วไป

ที่ จ.กาญจนบุรี ปัญหาหมอกควันจากไฟป่าในพื้นที่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของ อ.สังขละบุรี มีคำเตือนจาก ปภ.จ.กาญจนบุรี ให้ประชาชนในพื้นที่ระวังพายุฝนฟ้าคะนองที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ในช่วงวันที่ 12-14 มีนาคมนี้ หากมีฝนตกลงมาในช่วงเวลาดังกล่าวจะส่งผลดีต่อปัญหาหมอกควันจากไฟป่า

วอนเอกชนสั่งเวิร์กฟรอมโฮม

นายประพันธ์ พงษ์เกียรติกุล นายกสมาคมส่งเสริมคุณภาพอากาศในอาคาร กล่าวถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ในหลายพื้นที่ของไทยว่า จากสถานการณ์ฝุ่นอยากให้ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนช่วยกัน การจะให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งคงไม่ได้ และสิ่งที่ต้องเพิ่มเติมคือเรื่องของความตระหนัก เพราะปัจจุบันคนเริ่มไม่สวมหน้ากากอนามัยทั้งที่ค่าฝุ่นในกรุงเทพมหานคร ในภาคเหนือขึ้นสูง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะโควิด-19 เริ่มซาลง แต่ลืมคิดไปว่าขณะนี้ค่าฝุ่นอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลต่อสุขภาพ เดิมค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานจะอยู่แค่ในช่วงเดือนมกราคม แต่กลายเป็นว่าในช่วงนั้นกลับไม่มีฝุ่นสะสมเลย เป็นเพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงของมวลอากาศเย็นที่เข้ามา ทำให้ในเดือนมีนาคมสภาพอากาศหยุดนิ่ง ค่าฝุ่น สะสมเลยสูงขึ้น ประกอบกับกิจกรรมกิจการต่างๆ กลับมาเปิดเต็มรูปแบบเมื่อพ้นโควิด ทำให้การใช้รถใช้ถนนกลับปกติ แม้ว่าตอนนี้โรงเรียนจะเริ่มปิดเทอมแล้ว แต่ก็อยากให้ภาคเอกชนนำ องค์ความรู้เรื่องโควิด หรือฝุ่น กลับมาใช้ ทั้งการทำงานจากที่บ้าน (WFH) เพื่อลดการเดินทาง การใช้รถใช้ถนน ออกไปนอกสถานที่ในช่วงเช้าที่มีค่าฝุ่นสูงควรสวมหน้ากากอนามัย งดการออกกำลังกาย ทำกิจกรรมในช่วงเช้า ปิดประตูหน้าต่างให้สนิทในช่วงเช้า และค่อยเปิดในช่วงสายที่ค่าฝุ่นเริ่มมีปริมาณลดลง

พิษฝุ่นกทม.ป่วยเพิ่ม45%

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่าฝุ่นมาจาก 3 ส่วน คือ 1.จากไอเสียรถยนต์ 2.สภาพอากาศปิด และ 3.การเผาชีวมวล ถ้าสามปัจจัยนี้เจอพร้อมกันจะทำให้ฝุ่นสูงเกือบ 100 มคก./ลบ.ม. เหมือนช่วงที่ผ่านมา ส่วนการคาดการณ์ช่วงสัปดาห์หน้า ลมทางทิศใต้จะพัดเข้ามาแรงขึ้น ไม่นำควันเผาชีวมวลจากทิศตะวันออกเข้ามาและสภาพอากาศเปิด จะทำให้สถานการณ์ฝุ่นในช่วง 4-5 วันนี้เบาบางลง โดย 7 วันหลังจากนี้จะมีสถานการณ์ฝุ่นที่ดีขึ้น โดย กทม.มีแผนดำเนินการทำได้หลักๆ คือควบคุมควันดำจากรถยนต์และโรงงาน มีการตรวจอยู่ต่อเนื่อง ทั้งยังกำชับไม่ให้มีการเผาในพื้นที่เขตหนองจอก เขตมีนบุรี ส่วนเรื่องรถยนต์มีตัวอื่นที่ต้องทำระยะยาว ควบคุมไอเสียจากรถยนต์ เรื่องนี้จะเป็นภาพรวมระดับประเทศ อาจจะจำกัดรถเก่าวิ่ง คงต้องเป็นแผนวาระ แห่งชาติที่ทุกหน่วยงานมีอยู่แล้ว

“ผู้ป่วยจากฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ กทม.ประกอบด้วยโรคทางเดินหายใจ โรคเยื่อบุตาอักเสบ โรคผื่นลมพิษ รวมไปถึงโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เมื่อช่วงปลายปีมีจำนวนผู้ป่วยเฉลี่ย 400 คนต่อวัน แต่ตอนเดือนมกราคมกุมภาพันธ์ จำนวนสูงขึ้นอาจจะสูงถึง 700-800 คน ตัวเลขเพิ่มขึ้นประมาณ 45% กทม.มีการให้บริการที่ศูนย์สาธารณสุข และเปิดคลินิกมลพิษทางอากาศ อย่างไรก็ต้องขอความร่วมมือให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อช่วยกรองฝุ่นด้วย” ผู้ว่าฯกทม.กล่าว และว่า ส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ขอความร่วมมือให้ทำงานที่บ้าน ทาง กทม.มีมาตรการอยู่แล้ว ถ้าค่าฝุ่นเกินมาตรฐานสามวันติดต่อกันจะประกาศให้มีการทำงานที่บ้าน แต่ในขณะนี้ยังไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะขอเป็นกรณีพิเศษก็สามารถทำได้

ที่มา:  นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 12 มี.ค. 2566