กทม.เตรียมพร้อมมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางบก – ทางน้ำช่วงเทศกาลลอยกระทงปี 65
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทั้งทางบกและทางน้ำ รวมถึงอุบัติภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2565 ว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้อนุมัติแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทงของ กทม.ประจำปี 2565 เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบแนวทางปฏิบัติงานและเตรียมความพร้อมป้องกันและระงับเหตุสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้นบริเวณสถานที่จัดงานลอยกระทงของ กทม.และสถานที่ต่าง ๆ ที่จัดงานลอยกระทง ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ลงนามในประกาศ กทม.เรื่องมาตรการป้องกันอันตรายจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันในช่วงวันลอยกระทง ประจำปี 2565 เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัยแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทงในปีนี้ อาทิ ห้ามมิให้ผู้ใดจุดและปล่อยหรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขตพื้นที่นั้น หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ผลิต สะสม หรือจำหน่ายดอกไม้เพลิง ต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมาย ซึ่งสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) ได้จัดตั้งชุดเฉพาะกิจเข้มงวดกวดขันและตรวจตราสถานประกอบการที่ผลิต สะสม และจำหน่ายดอกไม้เพลิงให้ดำเนินการตามกฎหมายกำหนด
นอกจากนั้น สปภ.ยังได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่จะมีการจัดงานลอยกระทง ประกอบด้วย (1) จุดพื้นที่ลอยกระทงบริเวณสวนสาธารณะ 34 แห่ง และริมคลอง จัดเจ้าหน้าที่จุดละ 2 นาย พร้อมรถดับเพลิง รถไฟฟ้าส่องสว่าง และเครื่องดับเพลิงชนิดยกหิ้ว (2) จุดกองอำนวยการร่วมฯ ตามที่ได้รับการประสานจากสำนักงานเขต จัดตั้งศูนย์วิทยุสื่อสารและเจ้าหน้าที่จุดละ 5 นาย พร้อมรถดับเพลิง รถไฟฟ้าส่องสว่าง และเครื่องดับเพลิงชนิดยกหิ้ว (3) จัดเจ้าหน้าที่จุดละ 2 นาย ประจำจุดท่าเทียบเรือและโป๊ะ ตามที่ได้รับการประสานจากสำนักงานเขต พร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิต เสื้อชูชีพ ห่วงยางช่วยชีวิต และเชือกช่วยชีวิต และ (4) จัดเรือดับเพลิงขนาด 38 ฟุต พร้อมอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำและเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำ 3 ชุด ออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยทางน้ำตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7 – สะพานพระราม 9 รวมทั้งจัดเตรียมรถดับเพลิง รถกู้ภัย เครื่องมือเครื่องใช้ เรือเจ็ทสกี 2 ลำ อุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน้ำ และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ตลอดจนร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กรมเจ้าท่า กองเรือลำน้ำ (กองทัพเรือ) ตำรวจน้ำ หน่วยแพทย์กู้ชีวิต อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และมูลนิธิต่าง ๆ เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบเหตุเหตุสาธารณภัยสามารถขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 199 หรือ 1555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รร.สังกัด กทม.เตรียมพร้อมจัดการเรียนการสอนออนไลน์ช่วงการประชุม APEC 2022 พร้อมสร้างความเข้าใจเป็นเจ้าบ้านที่ดี
นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมแผนจัด การเรียนการสอนกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้สถานศึกษาทุกสังกัดในเขตกรุงเทพฯ จ.นนทบุรี และสมุทรปราการ หยุดการเรียนการสอนในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) 2022 ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการศึกษา ได้เตรียมความพร้อมแผนจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ หรือการสอนชดเชยของโรงเรียนในสังกัด กทม. ในช่วงการประชุม APEC ระหว่างวันที่ 16 – 18 พ.ย.65 โดยทุกโรงเรียนในสังกัด กทม. ได้จัด การเรียนการสอนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ซึ่งมีการจัดการเรียนการสอนที่ตอบสนองกับความต้องการของผู้เรียนทุกช่วงวัยตามความถนัด ความสนใจ และความต้องการของผู้เรียนในรูปแบบ Onsite ทั้งนี้ เมื่อเกิดสถานการณ์ หรือเหตุการณ์พิเศษอื่น ๆ ที่ส่งผลทำให้ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนแบบปกติได้ เช่น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ซึ่งการปิดการจราจรในช่วงการประชุม APEC ถือเป็นสถานการณ์พิเศษที่ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนแบบปกติได้ เนื่องจากครูและนักเรียนไม่สะดวกในการเดินทาง สำนักการศึกษา จึงให้โรงเรียนเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบอื่น ๆ ไว้รองรับสถานการณ์ดังกล่าว ได้แก่ การสอนในรูปแบบ Online On Hand On Air และ On School Line โดยให้โรงเรียนเลือกใช้ให้เหมาะสมตามบริบทและความพร้อมของแต่ละโรงเรียน
ขณะเดียวกันได้ส่งเสริมให้โรงเรียนสังกัด กทม.ทุกโรงเรียนจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์สร้างความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการจัดประชุม APEC ที่มีต่อกรุงเทพฯ และประเทศไทย ได้แก่ การจัดบอร์ดนิทรรศการ การบูรณาการร่วมกับการเรียนการสอนในห้องเรียน เช่น การวาดภาพระบายสีในวิชาศิลปะ การให้ข้อมูลพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมประชุม APEC ในวิชาสังคมศึกษา รวมถึงสร้างความเข้าใจเป้าหมายของการจัดประชุม APEC ให้เด็กนักเรียน ตลอดจนสร้างความตระหนักถึงการเตรียมตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี แสดงออกถึงความมีมิตรไมตรีและมีทัศนคติที่ดี ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมเกิดความประทับใจในการต้อนรับอย่างอบอุ่น เพื่อให้เกิดความร่วมมืออันดีต่อไป