(28 ก.พ.66) นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 พ.ศ. … เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ พิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมของสำนักงานเขตมีนบุรี 28 รายการ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(สปภ.) 2 รายการ สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว(สวท.) 8 รายการ สำนักสิ่งแวดล้อม(สสล.) 3 รายการ และสำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) 4 รายการ โดยมี คณะกรรมการวิสามัญฯ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและชี้แจงเหตุผลความจำเป็นการใช้จ่ายงบประมาณ ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา กทม.2
ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี กล่าวชี้แจงเหตุผลความจำเป็นของการขอรับจัดสรรงบประมาณครั้งนี้ ว่า เขตมีนบุรีเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ในผังเมืองเขียวลาย ขนาดเนื้อที่ 63.645 ตร.กม. จำนวนประชากร 141,092 คน มีถนนสายหลัก 11 สาย สายรอง 9 สาย ซอย 271 ซอย และคลอง 62 คลอง ในปีที่ผ่านมาได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย และมีผู้ประสบภัยที่ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ กว่า 1,420 ราย โดยเขตได้ดำเนินการปรับปรุงกายภาพไปแล้วบางส่วน แต่เนื่องจากความเสียหายเป็นวงกว้างจึงจำเป็นต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน โดยรายการดังกล่าว ได้แก่ ปรับปรุงถนนบึงขวางจากซอยบึงขวาง3 ถึงคลองสามประเวศ แขวงแสนแสบ ปรับปรุงซอยคุ้มเกล้า ปรับปรุงซอยราษฎร์อุทิศ ปรับปรุงถนนเลียบคลองแยกคลองลำหิน ปรับปรุงซอยสุวินทวงศ์ ปรับปรุงซอยหทัยราษฎร์ ปรับปรุงซอยโรงเรียนมิฟตาฮุ้ลคอยรอน
คณะกรรมการวิสามัญฯ ได้ให้คำแนะนำเพื่อให้เขตสามารถใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ปรับปรุงขนาดของท่อระบายน้ำ และเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายการปรับปรุงผิวจราจรเป็นแอสฟัลต์แทนคอนกรีตเพื่อประหยัดงบประมาณ รวมถึงให้พิจารณาเรื่องไฟฟ้าส่องสว่างไปพร้อมๆกันด้วย นอกจากนี้ขอให้เขตติดตามคุณภาพการก่อสร้างให้ได้มาตรฐานเพื่อประโยชน์ในระยะยาว อย่างไรก็ตามคณะอนุกรรมการจะได้ลงพื้นที่จริงเพื่อดูความเหมาะสม จัดลำดับความสำคัญของแต่ละรายการ และติดตามรายละเอียดตามข้อสังเกตของคณะกรรมการวิสามัญฯ ต่อไป
จากนั้นคณะกรรมการวิสามัญฯได้พิจารณารายการของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซี่งขอจัดซื้อชุดดับเพลิงในอาคาร 400 ชุดที่ชำรุดเสื่อมสภาพ และเครื่องดับเพลิงยกหิ้วชนิดเคมีแห้งให้กับชุมชนแออัดเพื่อให้สามารถระงับเหตุเบื้องต้นก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะมาถึง โดยมี 40 เขตพื้นที่เป้าหมายชุมชนแออัด 451 ชุมชน ขอจัดสรร จำนวน 9,979 เครื่อง ภายใต้หลักเกณฑ์ 5 หลังคาเรือนต่อ 1 ถัง ทั้งนี้เนื่องจากชุมชนแออัดมีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุอัคคีภัยได้ง่ายและหากเกิดอัคคีภัยแล้วมีแนวโน้มที่จะเกิดเป็นเหตุเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ที่มีความรุนแรงได้ โดยคณะกรรมการวิสามัญฯ ได้ขอให้สปภ.สำรวจความต้องการของชุมชนใหม่อีกครั้งและดูแลประชาชนที่อยู่นอกชุมชนเพื่อความเท่าเทียมด้วย
สำหรับสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว ได้ของบประมาณเพื่อก่อสร้างสนามวอลเลย์บอลชายหาด บริเวณศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานครไทย-ญี่ปุ่นดินแดง ปรับปรุงศูนย์สร้างสุขทุกวัยทวีวัฒนา ศูนย์สร้างสุขทุกวัยเขตบางขุนเทียนซึ่งเดิมใช้เป็นศูนย์พักพิงผู้ป่วยโควิด-19 และมีสภาพทรุดโทรมเสียหายหลายจุดก่อสร้างหลังคาคลุมสระว่ายน้ำศูนย์เยาวชน 3 แห่ง คือ คลองสามวา จตุจักรและดอนเมือง ก่อสร้างเส้นทางผจญภัย บริเวณถนนสวรรคโลก พื้นที่เขตดุสิต ปรับปรุงศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น
ทั้งนี้คณะกรรมการวิสามัญฯ ได้สอบถามรายละเอียดประเด็นของแต่ละรายการและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับหน่วยงานเพื่อให้สามารถใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานครได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
——–