ศาลาว่าการกทม. – เมื่อวันที่ 8 ก.พ. พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาเหตุเดือดร้อนจากการเปิดเพลงหรือแสดงดนตรีเสียงดัง โดยมี นายสุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกทม. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. ผู้บริหารกทม. ผู้บริหารเขตพระนคร สน.ชนะสงคราม ผู้แทนสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ผู้แทนสถานประกอบการถนนข้าวสาร 30 ราย ผู้แทนชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม โดยที่ประชุมรายงานสถิติเรื่องร้องเรียนในพื้นที่ถนนข้าวสารในปี 2565 โดยเดือนต.ค. 4 ครั้ง เดือนพ.ย. 5 ครั้ง เดือนธ.ค.65 4 ครั้ง และเดือนม.ค.2566 จำนวน 2 ครั้ง
นายสุขสันต์กล่าวว่า กทม.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและชุมชนใกล้เคียงถนนข้าวสารว่าได้รับเหตุเดือดร้อนจากการเปิดเพลงหรือแสดงดนตรีเสียงดัง จึงประชุมร่วมกันเพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งที่ประชุมมีฉันทามติร่วมกันในการขอความร่วมมือสถานประกอบกิจการประเภทร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มควบคุมระดับเสียงเพลงหรือการแสดงดนตรีที่ดัง โดยให้ปรับปรุงแก้ไขภายใน 15 วัน ประกอบด้วย
1.สถานประกอบกิจการที่เปิดเพลงหรือแสดงดนตรีควรเป็นอาคารที่ปิดมิดชิด ผนังต้องทำด้วยวัสดุที่สามารถป้องกันเสียงดังและความสั่นสะเทือนอย่างมีประสิทธิภาพไม่ก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนแก่ผู้พักอาศัยข้างเคียง 2.ควบคุม ระดับเสียงภายในสถานประกอบการ โดยค่าเฉลี่ยของระดับเสียงตลอดระยะเวลาทำการต้องมีค่าไม่เกิน 90 เดซิเบลเอ และค่าระดับเสียงสูงสุด ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ไม่เกิน 110 เดซิเบลเอ และค่าระดับเสียงที่ดังถึงชุมชนต้องไม่เกิน 10 เดซิเบลเอ 3.ในระหว่างเวลาทำการ ต้องหยุด หรือลดระดับเสียงจากการแสดงดนตรีหรือการเปิดเพลงเป็นระยะๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการพักจากการสัมผัสเสียงดัง 4.ห้ามติดตั้งลำโพงด้านหน้าหรือนอกอาคารสถานประกอบ กิจการ เพื่อป้องกันเสียงดังรบกวนผู้พักอาศัยข้างเคียง 5.ให้ติดตั้งเครื่องตรวจวัดระดับเสียงและแสดงผลการตรวจวัดผ่านทางจอแสดงผล เพื่อให้ผู้ใช้บริการทราบถึงระดับเสียงในขณะนั้น และพิจารณาการป้องกันตัวเองได้
ทั้งนี้ หากพ้นกำหนดแล้วสถานประกอบการใด ที่ไม่ทำการปรับปรุง กทม.จะดำเนินการตามกฎหมาย อย่างเข้มงวดโดยความเห็นชอบของสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 9 ก.พ. 2566