(26 พ.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกิจกรรมโครงการ “ร่วมทาง ร่วมใจ ลดฝุ่น PM2.5” ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมการขนส่งทางบก โดยมี นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานเปิดกิจกรรม ณ อาคารศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการขนส่งทางถนน กรมการขนส่งทางบก

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ มาจาก 3 สาเหตุหลัก ได้แก่ 1. การเผาชีวมวล 2. สภาพอากาศปิด 3. การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ กทม. มีมาตรการหลายอย่างเพื่อลดฝุ่น PM2.5 เช่น เขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone : LEZ) รถที่ไม่ได้ลงทะเบียน Green List หากเข้ามาในพื้นที่ กทม. ช่วงที่เราประกาศไม่ให้รถเข้า ก็จะถูกปรับตามกฎหมาย ขอให้ประชาชนช่วยกันนำรถยนต์ไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศ เพื่อให้ได้มาตรฐาน และปล่อยมลพิษให้น้อยลง ซึ่งสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและสมาชิก ก็ยินดีที่จะร่วมมือกัน รวมทั้งรถ 4 ล้อ ทั่วไป และรถยนต์ดีเซลด้วย นอกจากนี้ เรามีการปรับมาตรฐานควันดำให้เข้มข้นขึ้น แต่ก่อนผ่านที่ 30% ตอนนี้เหลือ 20% ทำให้เราสามารถจับรถควันดำได้มากขึ้น ถึง 3.6 เท่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา มาตรการต่าง ๆ ที่ร่วมมือกันจะช่วยทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ขอขอบคุณกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษ ตำรวจจราจร และภาคเอกชน ที่ร่วมมือกันดำเนินโครงการนี้ขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกาศให้กรุงเทพมหานครเป็นเขตควบคุมมลพิษในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ “Green List Plus โปรสู้ฝุ่น ลด PM2.5” ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ อาทิ กระทรวงพลังงาน กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และภาคเอกชน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบายฝุ่น PM2.5 จากภาคการขนส่ง ด้วยการเชิญชวนประชาชนให้นำรถยนต์ขนาดเล็กเข้ารับบริการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศ ซึ่งจะสามารถลดการเกิดมลพิษและฝุ่นควันในไอเสียรถยนต์ได้อย่างมาก เพราะจากการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศจะสามารถลดควันดำได้มากกว่า 50% จึงส่งผลต่อเนื่องให้ฝุ่นในบรรยากาศลดลงได้เช่นกัน
และในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และค่ายรถยนต์ ให้การสนับสนุนจัดโปรโมชั่นต่อที่ 1 ให้ส่วนลดราคาค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพเครื่องยนต์ฟรีกว่า 55 รายการ และให้ส่วนลดราคาค่าน้ำมันเครื่อง ค่าอะไหล่ และค่าแรงสูงถึง 50% สำหรับรถยนต์ที่เข้ารับบริการกับศูนย์บริการรถยนต์ 9 แบรนด์ ได้แก่ อีซูซุ มิตซูบิชิ นิสสัน โตโยต้า ฮอนด้า มาสด้า ฮีโน่ ฟอร์ด และซูซูกิ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ จำนวน 1,745 ศูนย์บริการ หรือศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องของผู้ค้าน้ำมัน 5 แห่ง ได้แก่ ปตท. บางจาก เชลล์ พีที และโมบิล รวมถึงศูนย์บริการบีควิก
โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น PM2.5” และลงทะเบียนบัญชีสีเขียวหรือ Green List Plus กับกรุงเทพมหานคร จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมต่อที่ 2 จากเครือข่ายเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท แอดวานส์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในการให้สิทธิการจอดรถยนต์ฟรีเพิ่มเติมในห้างเซ็นทรัล The mall และโลตัส ได้รับบัตรกำนัลค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS และส่วนลดราคาสำหรับการซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์หรือประกันภัยรถยนต์ผ่าน AIS
ทั้งนี้ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนดจะช่วยลดการเกิดฝุ่นละอองได้ จึงขอเชิญชวนประชาชนนำรถยนต์เข้ามารับการบริการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ดังสโลแกนที่ว่า “ตรวจสภาพรถกันสักนิดลดมลพิษฝุ่นได้”
ด้านกรมการขนส่งทางบก มีมาตรการที่เข้มงวด จัดชุดเฉพาะกิจให้คำแนะนำการบำรุงรักษารถ ณ สถานประกอบการ อบรมพนักงานขับรถ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการร่วมบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ตลอดการใช้งาน และให้มีการเปลี่ยนถ่ายไส้กรอง ของเหลว และลงทะเบียนในระบบ Green List เพื่อเข้าสู่เขตควบคุมมลพิษต่ำ (Low Emission Zone) ตามประกาศของกรุงเทพมหานคร เพิ่มความถี่ในการออกตรวจควันดำริมทาง อู่รถ ขสมก./บขส. และสถานีขนส่งทุกแห่ง ทั้งนี้ หากตรวจพบค่าควันดำเกิน ร้อยละ 20 จะถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถ โดยพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จนกว่าจะแก้ไขและตรวจสภาพผ่าน
นอกจากนี้ คณะผู้บริหารได้ตรวจแถวบูรณาการการปฏิบัติงานตรวจควันดำ เยี่ยมชมการดำเนินงานของกองตรวจการขนส่งทางบก และศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 รวมถึงชมการสาธิตการตรวจวัดควันดำ และพ่น “ห้ามใช้” พร้อมกันนี้ ได้เยี่ยมชมจุดบูรณาการการตรวจควันดำ ของกรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร กรมควบคุมมลพิษ กรุงเทพมหานคร และจุดบริการการให้ข้อมูลการบำรุงรักษารถ ของภาคีเครือข่าย (สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และ Autobacs (PTG Energy) บริเวณหน้าด้านอาคารศูนย์นวัตกรรมฯ
ในการนี้ นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดร.ทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสาร และรถบรรทุก เข้าร่วมงาน
#สิ่งแวดล้อมดี #กทมสู้ฝุ่น #BKKCleanAirAction #ต้นตอฝุ่น #รู้สู้ฝุ่น #กทมกู้อากาศสะอาด


