(20 พ.ย.68) เวลา 13.30 น.: รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนกรุงเทพมหานคร (ศปถ.กทม.) ครั้งที่ 1/2568 โดยมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
ที่ประชุมรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ช่วงเดือน ม.ค. – ก.ย.68 มีผู้เสียชีวิต 554 ราย ลดลงจากปี 2567 คิดเป็นร้อยละ 32.1 (816 ราย) กลุ่มเสี่ยงแบ่งเป็น รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.9 รถยนต์ ร้อยละ 5.4 คนเดินเท้า ร้อยละ 10.1 รถจักรยาน 2 ล้อ ร้อยละ 0.5 พร้อมทั้งสรุปมาตรการลดอุบัติเหตุด้านคน ประกอบด้วย การเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายจราจร เช่น ขับเร็ว ฝ่าไฟแดง ดื่มแล้วขับ การสนับสนุนการอบรมให้ความรู้ และทดสอบความพร้อมผู้ขับขี่อาชีพ เช่น วินมอเตอร์ไซค์ ไรเดอร์ รวมทั้งรณรงค์ให้ใช้หมวกกันน็อก 100% รวมถึงรณรงค์ให้คนใช้ทางข้าม และรณรงค์ให้ประชาชนเคารพสิทธิ์ผู้ข้ามถนน ด้านมาตรการลดอุบัติเหตุด้านถนน ประกอบด้วย การปรับปรุงจุดเสี่ยง เพิ่มไฟฟ้าส่องสว่าง ป้ายจราจร ปรับปรุงทางข้าม จัดระเบียบการจอดรถ และสิ่งกีดขวางทางเท้า และด้านมาตรการลดอุบัติเหตุด้านถนน ประกอบด้วย การส่งเสริมการใช้ยานพาหนะที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย และส่งเสริมการตรวจเช็คสภาพยานพาหนะให้พร้อมใช้
สำหรับผลการแก้ไขปรับปรุงกายภาพถนนของสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. มีทางข้ามม้าลายจำนวนทั้งหมด 2,911 แห่ง ในปี 66-68 ปรับปรุงทางม้าลาย 882 แห่ง จัดทำทางม้าลายใหม่ 1,185 แห่ง สัญญาณไฟจราจร สัญญาณไฟทางแยก เดิม 561 เพิ่ม 17 รวม 578 แห่ง ทางแยกสัญญาณไฟกดปุ่มทางข้าม เดิม 331 เพิ่ม 20 รวม 351 แห่ง สัญญาณไฟกระพริบเตือนทางข้าม 1,024 แห่ง อุปกรณ์ความปลอดภัยทางถนน ทำการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ Crash Cushion ราวป้องกันอันตราย Safety Roller Barrier หลักล้มลุก ถังกันชน และรั้วกันตกบนสะพาน สำหรับสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนน ในกรุงเทพมหานคร ม.ค.-ต.ค.68 มีผู้บาดเจ็บจำนวน 129,861 ราย ลดลงจาก ม.ค.-ต.ค.67 จำนวน 10,158 ราย คิดเป็นร้อยละ 8.49 มีผู้เสียชีวิต จำนวน 10,134 ราย ลดลงจาก ม.ค.-ต.ค.67 จำนวน 1,339 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.67 อุบัติเหตุรถชนคนข้ามถนน ม.ค.-ต.ค.68 จำนวน 48 ราย ชนคนข้ามทางม้าลาย 13 ราย
พร้อมทั้งหารือกรณีรถเมล์ชนคนข้ามถนนบริเวณทางข้าม รถไม่หยุดให้คนข้ามถนนบริเวณทางข้าม เมาแล้วขับชนคนข้ามถนน และข้ามถนนไม่รอสัญญาณไฟ ที่ประชุมมอบหมายสำนักการจราจรและขนส่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจ/ตรวจสอบข้อมูลและบูรณาการความร่วมมือในการดำเนินการ อาทิ การต่อใบอนุญาตผู้ขับขี้รถเมล์ต้องตรวจประวัติ “ใบสั่งจราจร” ทุกครั้ง (เพื่อพิจารณาการระงับ/เพิกถอน) เข้มงวดกับบริษัทที่รับสัมปทานเดินรถ เรื่อง มาตรการความปลอดภัยในการเดินรถ บริษัทเดินรถ เน้นความเสี่ยงของจุดบอดรถขนาดใหญ่และสิทธิคนข้าม การแก้ไขความขัดแย้งของสัญญาณไฟ โดยเฉพาะบริเวณทางแยกที่อนุญาตให้รถเลี้ยวผ่านมาพร้อมจังหวะไฟเขียวคนข้าม การกวดขันวินัยรถสาธารณะอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะการห้ามย้อนศร พิจารณาการติดตั้งกล้องตรวจจับการฝ่าฝืนสัญญาณไฟและจำกัดความเร็วอัตโนมัติ(Speed Camera) บริเวณทางข้ามที่มีความเสี่ยงสูง เพิ่มความสว่างของไฟส่องสว่าง ทั้งบริเวณทางข้ามและบริเวณโดยรอบก่อนถึงทางข้าม รวมทั้งทบทวนแผนการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ให้ครอบคลุมและเข้มงวดเป็นพิเศษในช่วงเวลา 02:00-05:00 น. เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เสนอแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและวันหยุดยาว ปี 2569 โดยมุ่งสร้างความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ลดปัจจัยเสี่ยง และเพิ่มการดูแลประชาชนในช่วงที่มีการเดินทางหนาแน่น ทั้งช่วงเทศกาลปีใหม่ (30 ธ.ค.68 – 5 ม.ค.69) สงกรานต์ (10 – 16 เม.ย.69) และวันหยุดยาว มาตรการสำคัญในการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการ อาทิ การวางแผนการตั้งจุดตรวจและแผนการตรวจ เพิ่มการสอบถามรถที่มีป้ายทะเบียนของจังหวัดที่อยู่ไกลจากพื้นที่ และให้ความสำคัญกับการเพิ่มจำนวนชุดเคลื่อนที่เร็ว ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม อาทิ การประสานความร่วมมือกับกรมชลประทานในการแก้ปัญหาถนนเลียบคลองชลประทาน เพื่อจัดการจุดเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติหตุ
ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ อาทิ การประชาสัมพันธ์เรื่องการใช้ยานพาหนะที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย อาทิ ผู้นำชุมชนตักเตือนผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง กำชับผู้ปกครองไม่ปล่อยเด็กขับขี่ฯ ให้ผู้ถูกคุมประพฤติเป็นอาสาสมัครในการช่วยดูกล้อง CCTV ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฯ และการส่งเสริมการทำประกันประเภทไมโครอินชัวรันส์ ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ อาทิ การประชาสัมพันธ์ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และการดูแลครอบครัวผู้ประสบอุบัติเหตุให้ได้รับการช่วยเหลือ เยียวยา ตามที่กฎหมายทำหมดอย่างครบถ้วน โดยดำเนินงานตามช่วงเวลา 1.ช่วงก่อนวันหยุด – รณรงค์เข้มข้น ตรวจความพร้อมถนน รถ และผู้ขับขี่ 2.ช่วงวันหยุด/ช่วงเทศกาล – เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ จุดตรวจ และการคุมเข้ม 24 ชั่วโมง และ 3.ช่วงหลังวันหยุด – ประเมินผล เก็บข้อมูล และช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างต่อเนื่อง
#เดินทางดี #ปลอดภัยดี
———
