(20 พ.ย. 68) เวลา 13.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตลาดพร้าว

ตรวจมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โครงการก่อสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 6 ชั้น ซอยสังคมสงเคราะห์ 12/1 ถนนสังคมสงเคราะห์ ซึ่งเป็นการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ ความสูง 6 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามวิธีและเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตในการก่อสร้างตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2526) และแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 67 (พ.ศ. 2563) และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับผู้ประกอบการให้ปรับปรุงความสูงของรั้วโดยรอบทุกด้านให้มีความสูงจากพื้นดินไม่น้อยกว่า 6 เมตร ฉีดล้างทำความสะอาดล้อรถบรรทุกก่อนออกจากโครงการ ล้างทำความสะอาดพื้นด้านหน้าโครงการ รวมถึงตรวจสอบป้องกันไม่ให้น้ำที่ล้างทำความสะอาดพื้นไหลลงสู่ผิวจราจร ตรวจสอบเครื่องพ่นละอองน้ำให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเปิดตลอดเวลาที่ทำการก่อสร้าง ตรวจวัดค่าควันดำรถบรรทุกให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามรอบที่กำหนด นอกจากนี้ เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ตามมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศและมาตรการด้านความปลอดภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อาทิ ประเภทสถานประกอบการ 1 แห่ง ประเภทแพลนท์ปูน 3 แห่ง ประเภทสถานที่ก่อสร้าง 10 แห่ง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 กำชับสถานประกอบการในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมค่าฝุ่น PM2.5 ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ป้องกันมลพิษทางอากาศและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ติดตามการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ วินสตรีวิทยา 2 ผู้ขับขี่ 21 คน สถานที่ตั้งวินและจุดจอดรถจักรยานยนต์อยู่ในพื้นที่เอกชน ปัจจุบันเขตฯ มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะในพื้นที่ 57 วิน ผู้ขับขี่ 807 คน มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาให้เป็นวินต้นแบบ 12 วิน ซึ่งเขตฯ จะต้องตรวจความเรียบร้อยตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีข้อใดไม่เรียบร้อยให้แจ้งข้อบกพร่องนั้น ๆ แก่ผู้ขับขี่ เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อย โดยแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ ประกอบด้วย 1.ด้านความสะอาด ได้แก่ สถานที่ตั้งวินและโดยรอบต้องมีความสะอาด ไม่มีการตอกผูกยึดโยง 2.ด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อย ได้แก่ จอดรถจักรยานยนต์เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางทางเท้าหรือพื้นผิวจราจร ตั้งวางม้านั่งเป็นระเบียบ 3.ด้านกฎหมาย ได้แก่ การแต่งกายถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เสื้อวินและเบอร์เสื้อถูกต้องตามบัญชี ไม่ขับขี่บนทางเท้า ป้ายทะเบียนถูกต้อง สวมหมวกนิรภัย ป้ายอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง ไม่เก็บค่าโดยสารเกินราคา ไม่นำเสื้อวินไปเช่าช่วงต่อ 4.ด้านอื่น ๆ ได้แก่ ไม่ดื่มสุรา กริยามารยาทสุภาพ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ตรวจตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง เน้นย้ำผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด อาทิ การแต่งกาย อัตราค่าโดยสาร ป้ายทะเบียนรถ สถานที่ตั้งวิน วินัยจราจร รวมถึงตรวจสอบจำนวนผู้ขับขี่ในแต่ละวิน จัดทำข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน ตรวจสอบในพื้นที่ไม่ให้มีการแยกไปตั้งวินย่อยอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ เขตฯ มีจุดติดตั้งกล้อง CCTV จับภาพอัจฉริยะผ่านระบบ BMA AI CAMERA บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลอีสต์วิลล์ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิดขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า กวดขันวินัยจราจรเปรียบเทียบปรับแก่ผู้ฝ่าฝืนนำรถยนต์ขึ้นมาจอดหรือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า โดยได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน ติดตั้งเสาเหล็กและตั้งวางแผงเหล็กกั้นป้องกันรถจักรยานยนต์ขึ้นมาบนทางเท้า ทั้งนี้ ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5,000 บาท
เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ โททเนสคอนโด เกษตรนวมินทร์ ซึ่งเป็นอาคารพักอาศัย ความสูง 7 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ห้องพัก 54 ห้อง มีประชากร 52 คน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2568 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ คัดแยกขยะเศษอาหาร เปลือกผลไม้ นำมาทำน้ำหมักชีวภาพ บางส่วนนำไปทำปุ๋ยในถังหมักรักษ์โลก 2.ขยะรีไซเคิล คัดแยกขยะรีไซเคิลตามห้อง นำไปขายเป็นรายได้ หรือคัดแยกไว้ให้รถขยะที่เข้าเก็บ 3.ขยะทั่วไป คัดแยกขยะทั่วไป ใส่ในถุงดำมัดปากถุงให้เรียบร้อย นำไปใส่ถังขยะบริเวณจุดพักขยะ เขตฯ จัดเก็บสัปดาห์ละ 2 วัน 4.ขยะอันตราย ตั้งวางถังรองรับขยะอันตราย บริเวณจุดพักขยะ แจ้งเขตฯ จัดเก็บ เมื่อมีจำนวนมาก สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 80 กิโลกรัม/วัน หลังคัดแยก 50 กิโลกรัม/วัน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 20 กิโลกรัม/วัน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 10 กิโลกรัม/วัน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ เพื่อให้จัดเก็บมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่ โดยมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2568 พร้อมทั้งมอบหมายให้เขตฯ ลงพื้นที่ตามชุมชนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY เข้าร่วมโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” รวมถึงตรวจสอบข้อมูลบ้านเรือนประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ BKK WASTE PAY แล้ว แต่ยังส่งข้อมูลไม่ครบถ้วนตามที่กำหนด ส่วนใหญ่ยังขาดรูปภาพประกอบของขยะแต่ละประเภท ให้สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในการส่งข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ในการชำระค่าธรรมเนียมขยะในอัตราใหม่จาก 60 บาท เป็น 20 บาทต่อเดือน
พัฒนาสวน 15 นาที สวนหมู่บ้านธันยกานต์ ถนนมัยลาภ ซึ่งเขตฯ ได้พัฒนาพื้นที่ว่าง จัดทำทางเดิน ตั้งวางม้านั่ง ปลูกไม้พุ่มไม้ประดับ ในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้บริหารเขตฯ ร่วมกันปลูกต้นแก้วเจ้าจอม เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มความร่มรื่นและสวยงามให้กับสวนดังกล่าว ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที จำนวน 11 แห่ง ได้แก่ 1.สวนสุคนธสวัสดิ์ พื้นที่ 1 งาน 70 ตารางวา 2.สวนผลาสินธุ์ ริมคลองลาดพร้าว พื้นที่ 1 งาน 80 ตารางวา 3.สวนปลาเค้าภิรมย์ ซอยลาดปลาเค้า 24 พื้นที่ 1 งาน 40 ตารางวา 4.สวนสุขภาพอยู่เย็นเป็นสุข ถนนอยู่เย็น 2 พื้นที่ 10 ไร่ 3 งาน 32 ตารางวา 5.สวนหมู่บ้านเฟรนชิฟ Friendship Garden ซอยประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 2 พื้นที่ 30 ตารางวา 6.สวนลาดปลาเค้า 39 ปากซอยลาดปลาเค้า 39 ติดถนนประเสริฐมนูกิจ พื้นที่ 67 ตารางวา 7.สวนเฟรนชิฟ 2 ซอยประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 2 พื้นที่ 36 ตารางวา 8.สวนเฟรนชิฟ 3 ซอยประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 2 พื้นที่ 31 ตารางวา 9.สวนเฟรนชิฟ 4 ซอยประเสริฐมนูกิจ 29 แยก 2 พื้นที่ 31 ตารางวา 10.สวนหมู่บ้านธันยกานต์ ถนนมัยลาภ พื้นที่ 1 งาน 20 ตารางวา 11.สวนหมู่บ้านอมรพันธ์ 9 ซอยเสนานิคม 1 พื้นที่ 20 ตารางวา ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำให้เขตฯ บำรุงรักษาสวน 15 นาที ที่จัดทำเสร็จแล้ว ตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้มีความสวยงามร่มรื่นอยู่เสมอ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดทำสวน 15 นาทีอย่างแท้จริง โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนเข้ามาใช้บริการหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในสวน รวมถึงสำรวจพื้นทางเดินภายในสวน หากชำรุดเสียหายให้ดำเนินการซ่อมแซมโดยเร็ว
พร้อมกันนี้ได้สอบถามถึงพื้นที่ทำการค้า ปัจจุบันเขตฯ ไม่มีพื้นที่ทำการค้าแล้ว ซึ่งในปี 2568 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า 13 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 276 ราย ได้แก่ 1.ถนนโยธินพัฒนา หน้าห้างสรรพสินค้าแม็คโคร ผู้ค้า 4 ราย 2.ถนนลาดพร้าววังหิน ซอยลาดพร้าววังหิน 18-20 ผู้ค้า 6 ราย 3.ถนนลาดพร้าววังหิน ซอยลาดพร้าววังหิน 9-13 ผู้ค้า 10 ราย 4.ถนนลาดพร้าววังหิน ซอยลาดพร้าววังหิน 24 ผู้ค้า 4 ราย 5.ถนนลาดพร้าววังหิน ซอยลาดพร้าววังหิน 25 ผู้ค้า 6 ราย 6.ถนนลาดพร้าววังหิน ซอยลาดพร้าววังหิน 43 ผู้ค้า 3 ราย 7.ถนนลาดพร้าววังหิน ซอยลาดพร้าววังหิน 60 ถึงแยกลาดพร้าววังหิน ผู้ค้า 21 ราย 8.ถนนโชคชัย 4 ซอยโชคชัย 4 ซอย 54 ผู้ค้า 66 ราย 9.ถนนสุคนธสวัสดิ์ สี่แยกถนนประเสริฐมนูกิจ ผู้ค้า 13 ราย 10.ถนนสุคนธสวัสดิ์ สี่แยกโรงไม้ ถึงซอยสุคนธสวัสดิ์ 24 ผู้ค้า 17 ราย 11.ถนนลาดปลาเค้า สี่แยกลาดพร้าววังหิน ผู้ค้า 32 ราย 12.ถนนมัยลาภ ปากซอยประเสริฐมนูกิจ 29 ผู้ค้า 16 ราย 13.ถนนเสนานิคม ซอยเสนานิคม 1 หมู่บ้านอมรพันธ์ 9 ผู้ค้า 78 ราย ต่อมาเขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้าอีก 1 จุด คือหน้าตลาดบัวพัฒนา ผู้ค้า 30 ราย ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบไม่ให้ผู้ค้ากลับมาตั้งวางแผงค้าในจุดที่ยกเลิกไปแล้ว
ในการนี้มี นายจีระศักดิ์ หงษ์แปด ผู้อำนวยการเขตลาดพร้าว พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตลาดพร้าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี #ปลอดภัยดี #เดินทางดี#บ้านนี้ไม่เทรวม #แยกขยะจ่ายน้อยกว่า #แยก20ไม่แยก60 #BKKWASTEPAY
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)


