
(4 พ.ย.68) เวลา 13.45 น. นายไทวุฒิ ขันแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและจัดการจราจรงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุม พร้อมผู้แทนจากหลายหน่วยงานเข้าร่วม อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมประชาสัมพันธ์ ร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อซักซ้อมความเข้าใจและเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงงานพระราชพิธี ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการ พร้อมแต่งตั้งผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กองทัพทั้งสามเหล่าทัพ สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้าร่วมเป็นกรรมการ โดยในด้านการบริหารจัดการประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมถวายความอาลัย กระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศรายงานจำนวนผู้เดินทางมายังกระทรวง เพื่อจัดระบบการเคลื่อนย้ายอย่างเป็นระเบียบ โดยจะกำหนดการเดินทางของแต่ละจังหวัดตามลำดับตัวอักษร และคาดว่าจะเริ่มทยอยเดินทางตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.68 เป็นต้นไป
ด้านการคมนาคม กระทรวงคมนาคมได้เตรียมความพร้อมด้านระบบขนส่ง โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะจัดเตรียมรถโดยสารไฟฟ้าปรับอากาศ (EV Bus) ให้บริการรับ–ส่งประชาชนภายในกรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางมายังพื้นที่จัดพระราชพิธี ส่วนด้านความปลอดภัยในการเดินทางจากต่างจังหวัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง พร้อมประสานกระทรวงสาธารณสุขให้เตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลในแต่ละจังหวัดรองรับเหตุฉุกเฉิน โดยจะมีรถพยาบาลติดตามขบวนเดินทางของแต่ละจังหวัดเพื่อดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลความปลอดภัยและการจัดระเบียบการจราจร โดยได้กำหนดจุดจอดรถและจุดรับ–ส่งประชาชนรอบพื้นที่พระบรมมหาราชวังไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงจัดระบบคัดกรองตั้งแต่ต้นทางในแต่ละจังหวัด จนถึงจุดคัดกรองภายในท้องสนามหลวง ก่อนเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีฐานข้อมูลกลุ่มบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของงานพระราชพิธี พร้อมยืนยันว่าทุกหน่วยงานจะร่วมกันดำเนินงานอย่างรอบคอบ เพื่อให้การจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติสูงสุด และกรมประชาสัมพันธ์จะร่วมสนับสนุนภารกิจด้านข้อมูลข่าวสาร โดยจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนทั่วประเทศ เกี่ยวกับแนวทางการเข้าร่วมงานพระราชพิธี การเดินทาง และมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าร่วมพิธีด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาแผนการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร จากแนวความคิดในการปฏิบัติภารกิจ ดังนี้ 1. การรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกการจราจร ในพื้นที่โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน 2. รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญที่เดินทางมาถวายสักการะฯ 3. การกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ 4. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยเพื่อกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัย และจัดกำลังเจ้าหน้าที่สนับสนุน ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก ในการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยและจัดการจราจรและให้มีการบูรณาการด้านกำลังพลระหว่างหน่วยปฏิบัติ 5. การอำนวยความสะดวกการจราจรจะต้องคำนึงถึงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้สัญจรไปมาตามปกติ ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และให้มีการแก้ไขปัญหาการจราจรโดยการประชาสัมพันธ์และจัดเส้นทางเลี่ยงปัญหาการจราจร 6. วิเคราะห์สถานการณ์ด้านการข่าวที่อาจส่งผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อย และการจราจรของงานฯ ทั้งนี้ ให้มีการบูรณาการด้านการข่าวอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ด้านการรักษาความปลอดภัย ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบ ดังนี้ 1. ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบบุคคล ยานพาหนะ สิ่งของ พื้นที่สูงข่ม พื้นที่เสี่ยง พื้นที่เฝ้าระวัง พื้นที่เพ่งเล็ง พื้นที่ทางน้ำ พื้นที่ทางอากาศ และปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นภัยคุกคาม เพื่อพิสูจน์ทราบ ป้องกันแก้ไข ลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ 2. กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของที่จะต้องนำเข้าไปในพื้นที่ชั้นในและพื้นที่ชั้นกลางให้รอบคอบ รัดกุม โดยนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้ามาใช้ในการตรวจสอบบุคคล เพื่อยืนยันสถานะ/พิสูจน์ทราบบุคคลเป้าหมายที่อาจเป็นภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ 3. กำหนดพื้นที่รองรับประชาชน และวางแผนจัดระเบียบพื้นที่รองรับประชาชนให้เพียงพอ เหมาะสม เป็นระเบียบเรียบร้อย มีจุดให้บริการทางการแพทย์ เส้นทางเคลื่อนย้ายทางสายการแพทย์สำหรับบริการประชาชน พร้อมจัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นอื่น ๆ ให้ครบถ้วน 4. บริหารจัดการระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ของส่วนราชการและภาคเอกชนในพื้นที่สนามหลวง และพื้นที่ต่อเนื่อง ให้สามารถใช้การได้บันทึกภาพได้และมีความเชื่อมโยงทางยุทธวิธี 5. จัดให้มีแผนเผชิญเหตุ/ชุด EOD/K-9 ตรวจพิสูจน์ความปลอดภัยพื้นที่
ในส่วนของการอำนวยความสะดวกการจราจรและการบริการประชาชน ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบ ดังนี้ 1. การอำนวยความสะดวกการจราจร จะต้องคำนึงถึงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้สัญจรไปมาตามปกติให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และให้มีการแก้ไขปัญหาการจราจร 2. ให้หน่วยที่รับผิดชอบจัดการจราจรและหน่วยที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ทางสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการจราจร 3. จัดสถานที่จอดรถสำหรับบุคคลสำคัญและประชาชนที่เดินทางไปสักการะฯ ให้เพียงพอ และกำหนดมาตรการการรักษาความปลอดภัย และการจอดรถอย่างเป็นระบบ รวมทั้งจัดรถบริการรับ-ส่งประชาชนที่เดินทางไปสักการะฯ และกำหนดเส้นทางฉุกเฉิน
ด้านการข่าว ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบ ดังนี้ 1. ดำเนินการด้านการข่าว ประชุมวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์กับประชาคมข่าว 2. กำหนดมาตรการเชิงรุกในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน และตอบโต้สถานการณ์ด้านการข่าว อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง ทันเหตุการณ์ 3. จัดให้มีช่องประสานงาน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร กับหน่วยข่าวในทุกมิติ
ในส่วนของการให้บริการด้านการแพทย์การรักษาพยาบาลและการส่งกลับสายการแพทย์ ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบ ดังนี้ 1. จัดชุดปฏิบัติการด้านการแพทย์ประกอบด้วย ทีมแพทย์หน่วยแพทย์เคลื่อนที่/เดินเท้า จุดให้บริการด้านการแพทย์และชุดตรวจประเมินด้านสุขภาพจิต และรถพยาบาลฉุกเฉิน 2. จัดทำแผนรองรับด้านการแพทย์ในระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ เป็นลม เจ็บป่วย อุบัติเหตุ โรคประจำตัว และคนไข้วิกฤต 3. กำหนดเส้นทางส่งกลับสายการแพทย์และโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยฉุกเฉินระดับต่าง ๆ โดยกำหนดโรงพยาบาลที่จะรับผิดชอบให้ชัดเจน
ด้านการโทรคมนาคมและการติดต่อสื่อสาร ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบ ดังนี้ 1. กำหนดระบบติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางปกติช่องทางพิเศษ ทาง ว. 2. กำหนดช่องทาง Line ในการสื่อสารสั่งการและรับส่งข้อมูลภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวในทุกภารกิจ 3. เชื่อมโยงภาพจากกล้องวงจรปิดจากทุกภาคส่วน เพื่อประโยชน์ในการติดตามสถานการณ์ 4. ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญ 5. ดำรงการติดต่อสื่อสารทุกช่องทางให้สามารถควบคุม สั่งการได้ตลอดเวลา
ด้านการบริหารจัดการ ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบ ดังนี้ 1. จัดตั้งกองอำนวยการร่วมฯ ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อบูรณาการทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นศูนย์ควบคุมสั่งการ โดยเปิดกองอำนวยการฯ ก่อนวันที่ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพ 2. ประชุมติดตามสถานการณ์ตรวจสอบความพร้อม เสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่เป็นประจำทุกวัน
#พระพันปีหลวง


