กทม. ล้อมวงคุยพัก(ความ)ร้อน ด้วยเรื่องที่อยากเล่าให้ดูผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อเมืองและคนกรุง 

 

 

(11 ต.ค. 68) เวลา 17.45 น. พญ. เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมเสวนาถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อกรุงเทพมหานครและคนกรุงเทพเป็นอย่างไร ในงาน UNDP AT BANGKOK CLIMATE ACTION WEEK ล้อมวงคุยพัก(ความ)ร้อน ด้วยเรื่องที่อยากเล่าให้ดู

 

รองปลัดฯ เลิศลักษณ์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นหมอ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของคนไข้ที่มารักษาที่โรงพยาบาลด้วยโรคฮีทสโตรกมากยิ่งขึ้น คลื่นความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นยิ่งเพิ่มจำนวนผู้ป่วยโรคนี้มากตามไปด้วย นี่คือความเปลี่ยนแปลงหนึ่งของสภาพภูมิอากาศที่เห็นได้ชัด นอกจากเรื่องของความร้อนแล้ว อีกเรื่องที่ชาวกรุงอย่างเราหนีไม่พ้นคือเรื่องของน้ำ ปัจจุบันผลกระทบจากสภาวะโลกรวนเราเจอทั้งฝนตกหนัก ในลักษณะของ Rain bomb ถี่มากขึ้น ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมบ่อยขึ้น หรือปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ในหลายพื้นที่ ล้วนแล้วแต่เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในเชิงประจักษ์ทั้งสิ้น 

 

อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครรับมือผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1. การประสานความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2. การใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการเมืองอย่างยั่งยืน 3. การจัดทำแผนและมาตรการ สำหรับด้านการประสานความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนงานด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยให้ความสำคัญกับ “ความร่วมมือ” ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ตัวอย่างที่ กรุงเทพมหานครนำเทคโนโลยีเข้ามาร่วมในการจัดการเมืองอย่างยั่งยืน เช่น เรดาร์น้ำฝน แบบ near real time การใช้ดาวเทียมเพื่อตรวจจับจุดความร้อน การตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 และการคาดการณ์ปริมาณฝุ่น ระบบ Cell Broadcast การนำ AI เพื่อบริหารไฟจราจร Traffy Fondue รวมทั้งโครงการต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร ทั้งการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของสวน 15 นาที ในแต่ละพื้นที่ทั้ง 50 เขต นโยบายของผู้ว่าฯ ชัชชาติในการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น ซึ่งขณะนี้สามารถปลูกต้นไม้ได้มากกว่า 2 ล้านต้นแล้ว สิ่งเหล่านี้จะช่วยเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับทุกคน และเป็นห้องเรียนธรรมชาติที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการเหล่านี้ยังถือเป็นตัวอย่างที่ดีของ co-benefit เพราะนอกจากช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวและความหลากหลายทางชีวภาพแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ช่วยรองรับน้ำในช่วงฤดูฝน ลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม และช่วยบรรเทาปัญหาความร้อนในเขตเมืองได้อีกด้วย รองปลัดฯ เลิศลักษณ์ กล่าวเสริม

 

ทั้งนี้ ความสำเร็จในการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และความพร้อมในการรับมือต่อสภาวะโลกรวน หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รองปลัดฯ เลิศลักษณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กรุงเทพมหานครใช้แนวคิด 4P ได้แก่ Public Private People และ Partnership กล่าวคือ ความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ โดยจะเน้นการดำเนินการเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนลดก๊าชเรือนกระจกให้เป็นไปตามแผนแม่บทฯ โดยไม่ต้องรอพึ่งงบประมาณของกรุงเทพมหานครเพียงอย่างเดียว โดยประสานและบูรณาการการทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานภาคีเครือข่ายอย่างต่อเนื่องอีกด้วย 

 

ในการนี้ นางรสริน อมรพิทักษ์พันธุ์ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาแนวทางและศักยภาพในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพพูมิอากาศ นายกฤษฎา บุญชัย ผู้ประสานงานเครือข่าย Thai Climate Justice for All (TCJA) น.ส. เขมอัปสร สิริสุขะ ผู้ก่อตั้งแบรนด์สิริไท น.ส. นันท์นภัส พงศ์วิฑูรย์ หัวหน้าทีม Communication Engagement เครือข่ายเยาวชนระดับโลก เพื่อความหลากหลายทางชีวภาพประจำประเทศไทย (GYBN Thailand) และนายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ร่วมเสวนา ณ พิพิธภัณฑ์ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์

———————

#BMA #สิ่งแวดล้อมดี #BKKCAW #Climatecrisis #UNDP #DCCE 

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200