(3 ต.ค. 68) เวลา 12.45 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตสายไหม ประกอบด้วย

ตรวจจุดติดตั้งกล้อง CCTV จับภาพอัจฉริยะผ่านระบบ BMA AI CAMERA บริเวณปากซอยเทพรักษ์ 39 ซึ่งเขตฯ มีจุดติดตั้งกล้อง CCTV จำนวน 3 จุด ได้แก่ 1.ปากซอยพหลโยธิน 60 2.ปากซอยเทพรักษ์ 39 3.ปากซอยเทพรักษ์ 45 เพื่อตรวจจับผู้กระทำความผิดขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า กวดขันวินัยจราจรเปรียบเทียบปรับแก่ผู้ฝ่าฝืนนำรถยนต์ขึ้นมาจอดหรือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งเขตฯ ได้ติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน ติดตั้งเสาเหล็กกั้นป้องกันรถจักรยานยนต์ขึ้นบนทางเท้า จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเฝ้าระวังในจุดดังกล่าว ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับเป็นพินัยไม่เกิน 5,000 บาท
ติดตามการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ วินตลาดวงศกร ซอยสายไหม 84/4 ผู้ขับขี่ 60 คน สถานที่ตั้งวินและจุดจอดรถจักรยานยนต์อยู่ในพื้นที่เอกชน ปัจจุบันเขตฯ มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะในพื้นที่ 101 วิน ผู้ขับขี่ 1,583 คน มีวินรถจักรยานยนต์สาธารณะที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาให้เป็นวินต้นแบบ 10 วิน ซึ่งเขตฯ ได้ตรวจความเรียบร้อยตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีข้อใดไม่ถูกต้องตามเกณฑ์จะแจ้งข้อบกพร่องให้ผู้ขับขี่รับทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อย สำหรับแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ ประกอบด้วย 1.ด้านความสะอาด ได้แก่ สถานที่ตั้งวินและโดยรอบต้องมีความสะอาด ไม่มีการตอกผูกยึดโยง 2.ด้านความเป็นระเบียบเรียบร้อย ได้แก่ จอดรถจักรยานยนต์เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางทางเท้าหรือพื้นผิวจราจร ตั้งวางม้านั่งเป็นระเบียบ 3.ด้านกฎหมาย ได้แก่ การแต่งกายถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เสื้อวิน เบอร์เสื้อถูกต้องตามบัญชี ไม่ขับขี่บนทางเท้า ป้ายทะเบียนถูกต้อง สวมหมวกนิรภัย ป้ายอัตราค่าโดยสารถูกต้อง ไม่เก็บค่าโดยสารเกินราคา ไม่นำเสื้อวินไปเช่าช่วงต่อ 4.ด้านอื่น ๆ ได้แก่ ไม่ดื่มสุรา กริยามารยาทสุภาพ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์สาธารณะให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ตรวจตามแบบประเมินวินรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กฎหมายกำหนด อาทิ การแต่งกาย ป้ายทะเบียนรถ อัตราค่าโดยสาร สถานที่ตั้งวิน วินัยจราจร
พัฒนาสวน 15 นาที สน.สายไหม ซอยสายไหม 43 ซึ่งเขตฯ ได้พัฒนาพื้นที่สวนเดิม ปรับปรุงภูทัศน์จัดทำเป็นสวน 15 นาที โรยกรวดพื้นสนาม ตั้งวางม้านั่ง ปลูกไม้พุ่มไม้ประดับเพิ่มเติม อนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่เดิมภายในสวน ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที (สวนเดิม) จำนวน 1 แห่ง คือสวนสายไหมสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พื้นที่ 14,000 ตารางเมตร สวน 15 นาที (สวนใหม่) จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ 1.สวนสายไหมชุมชนวัชรพล 3 พื้นที่ 4,800 ตารางเมตร 2.สวนสายไหมวังอ้ายแป้ง พื้นที่ 400 ตารางเมตร 3.สวนสายไหม-ทางหลวง พื้นที่ 1,558 ตารางเมตร 4.สวนสายไหม-จิตภาวรรณ 1 ร่วมใจ (สวนเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567) พื้นที่ 800 ตารางเมตร 5.สวนสายไหม-เทพรักษ์ 1 พื้นที่ 400 ตารางเมตร 6.สวนสายไหมเธียรสวน กสบ. ร่วมใจพัฒนา (คลองสอง) พื้นที่ 2,200 ตารางเมตร อยู่ระหว่างดำเนินการ 7.สวนสายไหมประตูกรุงเทพ พื้นที่ 400 ตารางเมตร 8.สวนสายไหมชุมชนหมู่บ้านพัฒนาหมู่ 1 พื้นที่ 260 ตารางเมตร อยู่ระหว่างดำเนินการ 9.สวนสายไหม สน.สายไหม พื้นที่ 800 ตารางเมตร 10.สวนสายไหม หมู่บ้านชัยพัฒน์ พื้นที่ 1,250 ตารางเมตร อยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ สำรวจพื้นที่ว่างเพื่อจัดทำสวน 15 นาทีให้แล้วเสร็จครบทั้ง 10 แห่ง ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยพิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่ การออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในสวนให้ตรงกับความต้องการของประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการ เพื่อให้การจัดทำสวน 15 นาที เป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง
เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ ชุมชนหมู่บ้านอัมรินทร์นิเวศน์ 3 ผัง 4 ซอยสายไหม 15 พื้นที่ 70 ไร่ มีประชากร 3,746 คน บ้านเรือน 895 หลังคาเรือน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2567 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ คัดแยกขยะเศษอาหาร นำมาทิ้งที่ถังสีเขียวบริเวณลานอเนกประสงค์สวนผักกลางหมู่บ้าน เพื่อทำปุ๋ยหมักไม่กลับกอง โดยการใช้ใบไม้และเศษอาหารหมักเป็นปุ๋ย นำไปบำรุงผักสวนครัวที่ปลูกไว้ขาย เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายกิจกรรมในชุมชน และแจกบ้านกลุ่มเปราะบาง 2 ครั้ง/เดือน รวมถึงนำเศษอาหารมาทิ้งที่ถังหมักรักษ์โลกบ้านหนังสือบริเวณลานอเนกประสงค์ 2.ขยะรีไซเคิล คัดแยกขยะรีไซเคิล โดยแต่ละบ้านขายเอง บางส่วนนำมาทิ้งที่จุดรวบรวมที่จุดพักขยะรีไซเคิลบริเวณลานอเนกประสงค์ รับบริจาคยางรถมอเตอร์ไซค์เก่าในชุมชน เพื่อจะนำมาทำรั้วและกำแพงและรับบริจาคขยะชิ้นใหญ่ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ มาใช้ประโยชน์บริเวณลานอเนกประสงค์ 3.ขยะทั่วไป คัดแยกขยะทั่วไปใส่ถุงขยะครัวเรือน นำมาวางบริเวณหน้าอาคารที่พักอาศัย เขตฯ จัดเก็บทุกวันพุธและพฤหัสบดี 4.ขยะอันตราย คัดแยกขยะอันตรายรวบรวมไว้จุดพักขยะอันตรายบริเวณลานอเนกประสงค์ แจ้งเขตฯ จัดเก็บ สำหรับปริมาณขยะก่อนและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 8,000 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 5,000 กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลก่อนคัดแยก 500 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 1,000 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์ก่อนคัดแยก 3,000 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 2,000 กิโลกรัม/เดือน ขยะอันตรายก่อนคัดแยก 50 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 20 กิโลกรัม/เดือน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ เพื่อให้จัดเก็บมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่ พร้อมทั้งมอบหมายให้เขตฯ ลงพื้นที่ตามหมู่บ้าน ชุมชน คอนโดอย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY เข้าร่วมโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” ปัจจุบันเริ่มจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่แล้ว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
พร้อมกันนี้ได้สอบถามถึงการแก้ไขปัญหาพื้นที่รกร้างและลักลอบทิ้งขยะ บริเวณซอยพหลโยธิน 54/4 แยก 3-2 ขานไข 1 จากการสำรวจในพื้นที่พบว่า มีพื้นที่รกร้างที่มีการลักลอบทิ้งขยะ 103 โฉนด ที่ผ่านมาเขตฯ ประสานเจ้าของที่ดินดำเนินการแก้ไขแล้ว 98 โฉนด ออกหนังสือแจ้งให้แก้ไขในที่ดินครั้งที่ 1 จำนวน 4 โฉนด ไม่สามารถติดต่อได้ 1 โฉนด โดยเจ้าของที่ดินดำเนินการล้อมรั้วโดยรอบ จัดเก็บขยะออกจากพื้นที่ พัฒนาที่ดินให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้เขตฯ ได้ตรวจสอบการใช้ประโยชน์จากที่ดิน หากไม่มีการใช้ประโยชน์หรือปล่อยไว้เป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า จะดำเนินการจัดเก็บภาษีตามอัตราที่กำหนด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจออกตรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ป้องกันการลักลอบนำเศษวัสดุจากสิ่งปลูกสร้างหรือขยะชิ้นใหญ่มาทิ้ง ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ดำเนินการตามหนังสือสั่งการของสำนักเทศกิจ ตามข้อกฎหมาย จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ 1.พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 2.พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 3.พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 เพื่อความปลอดภัยและเป็นระเบียบในพื้นที่
ในการนี้ นายชัยวัฒน์ รังษีภโนดร ผู้อำนวยการเขตสายไหม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตสายไหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล
#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี #ปลอดภัยดี #บ้านนี้ไม่เทรวม #แยกขยะจ่ายน้อยกว่า #แยก20ไม่แยก60 #BKKWASTEPAY
—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)