กทม. รับมอบหน้ากาก “พอดี” จากแพทย์จุฬาฯ ส่งต่อความห่วงใยฝ่าวิกฤตฝุ่น PM2.5 ภายใต้โครงการ “Air We Share, Lungs We Care”

(4 ส.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ พญ.เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ รับมอบหน้ากากอนามัยพอดี POR-DEE PM2.5 Face mask จำนวน 2,400 ชิ้น เพื่อส่งต่อหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนทั่วทุกเขต ใช้สำหรับการป้องกันฝุ่น PM2.5 และมลพิษทางอากาศ จาก รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย ศ.ดร.นพ.สิทธิศักดิ์ หรรษาเวก รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิต คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ นสพ.คงปพน จิรธรรมธนากุล นายกสโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ประจำปี 2568 นสพ.กนกรักษ์ บำรุงราษฎร์ ประธานโครงการเข็มวันอานันทมหิดล ประจำปี 2568 และคณะกรรมการโครงการฯ ณ บริเวณหน้าห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร

นอกจากนี้ รศ.นพ.ฉันชาย และคณะ ยังได้ร่วมกันเชิญชวนและประชาสัมพันธ์โครงการรณรงค์ขอรับบริจาคเพื่อรับเข็มวันอานันทมหิดล ประจำปี 2568 และเสื้อยืดน้ำใจ สร้างกุศล Air We Share, Lungs We Care – ห่วงใยทุกลมหายใจ

รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ร่วมมือกับบริษัท ซีพี โซเชียลอิมแพคท์ จำกัด ได้พัฒนาและผลิตหน้ากากอนามัย “POR-DEE” ด้วยมาตรฐานระดับสากล ออกแบบโดยศูนย์นวัตกรรมทางการแพทย์และการประกอบการ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งหน้ากากมีความกระชับกับใบหน้าของคนไทย หายใจสะดวก ไม่อึดอัด ไม่ระคายเคืองกับผิวหน้า รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงจากการได้รับฝุ่น PM2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งในระยะสั้นที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ไอ จาม ส่วนคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืดหรือโรคหัวใจ จะส่งผลให้มีอาการกำเริบได้ และในระยะยาวหากได้รับฝุ่นอย่างต่อเนื่องจะนำไปสู่โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ อาทิ โรคมะเร็งปอด เป็นต้น ซึ่งหน้ากากอนามัยนี้สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ถึงร้อยละ 99 ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการเข็มวันอานันทมหิดลในปีนี้ จึงขอมอบหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนได้ดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัยมากขึ้น

ทางด้าน นสพ.กนกรักษ์ เผยว่า โครงการเข็มวันอานันทมหิดล ในปี 2568 ดำเนินการภายใต้แนวคิด ‘Air We Share, Lungs We Care – ห่วงใยทุกลมหายใจ’ โดยทางโครงการฯ ได้ตระหนักว่าอากาศคือทรัพยากรที่เราใช้ร่วมกันทุกวันโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่ในขณะเดียวกันมลพิษทางอากาศที่เราต่างสูดเข้าไปอย่างไม่รู้ตัว กำลังค่อย ๆ บั่นทอนสุขภาพของเราและคนรอบข้างอย่างเงียบงัน คนรอบตัวที่เคยมีสุขภาพแข็งแรง กลับต้องกลายเป็นผู้ป่วยที่ต้องสูญเสียปอดหนึ่งข้างภายในเวลาไม่ถึงปี นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตระหนักอย่างลึกซึ้งว่า ‘ลมหายใจ’ เป็นสิ่งมีค่าที่ไม่ควรถูกพรากไปเพียงเพราะสังคมของเราละเลยปัญหานี้

โครงการฯ จึงมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความตระหนักรู้ของสังคมเกี่ยวกับผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ที่กำลังทวีความรุนแรง ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกผ่านการเผยแพร่ความรู้ การรณรงค์ให้ประชาชนตรวจสุขภาพปอดอย่างสม่ำเสมอ และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีบทบาทในการลดฝุ่นและควัน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

จากที่มาและความสำคัญของปัญหาดังกล่าว ทางคณะกรรมการฯ ยังได้นำรายได้ส่วนหนึ่งจากการรณรงค์ขอรับบริจาคมอบให้แก่โครงการ Happy Home Respiratory Care โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และภาควิชาอายุรศาสตร์ สาขาวิชาโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เนื่องจากปัจจุบันโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มีผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถกลับบ้านได้ เพราะผู้ป่วยเหล่านี้ต้องการการดูแลต่อเนื่องเป็นระบบ ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมของผู้ป่วยและญาติในการดูแล รวมไปถึงภาระทางด้านค่าใช้จ่าย การขาดทุนทรัพย์ในการเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งมีราคาแพงหากต้องกลับไปดูแลรักษาต่อที่บ้าน ทำให้ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งต้องอยู่โรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น จนเกิดภาวะแทรกซ้อน จากปัญหาต่าง ๆ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จึงจัดทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยหรือญาติได้ยืมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปดูแลต่อที่บ้าน เช่น เตียง ที่นอนลม รถเข็นนั่ง ท่อออกซิเจนพร้อมหัวต่อ เครื่องพ่นยา เครื่องดูดเสมหะ เครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยได้กลับบ้านเร็วขึ้น เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยและครอบครัว และลดโอกาสกลับมาเข้าโรงพยาบาลซํ้า หากหมดความจำเป็นในการใช้ก็นำเครื่องมือต่าง ๆ มาคืน เพื่อให้ผู้ป่วยรายอื่นได้ยืมใช้ต่อไปและสามารถเข้าถึงการรักษาที่จำเป็นได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งเชื่อว่าหากเราร่วมมือกันจะสามารถสร้างสังคมที่ไม่เพียงห่วงใยสิ่งแวดล้อม แต่ยังห่วงใยซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง เพราะทุกลมหายใจมีค่าและไม่มีใครควรต้องต่อสู้กับโรคร้ายเพียงลำพัง

สำหรับเข็มวันอานันทมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2568 ได้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ Air We Share, Lungs We Care ห่วงใยทุกลมหายใจ โดยเป็นเข็มกลัดที่ระลึกเนื่องใน “วันอานันทมหิดล” วันคล้ายวันสวรรคต รัชกาลที่ 8 (9 มิถุนายน) ผู้พระราชทานกำเนิด “แพทย์จุฬาฯ” ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาในปี พ.ศ. 2490 จากพระราชปรารภ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ที่ทรงต้องการให้ผลิตแพทย์เพิ่มมากขึ้นให้เพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชน โดยโครงการเข็มวันอานันทมหิดลจัดทำขึ้นเพื่อรณรงค์ขอรับบริจาคหารายได้สมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล, มูลนิธิสงเคราะห์เล็ก สภากาชาดไทย, ช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์อาพาธ ผู้ป่วยยากไร้ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, โครงการ “Happy Home Respiratory Care โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และภาควิชาอายุรศาสตร์ สาขาวิชาโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตลอดจนกิจกรรมจิตอาสา สโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การรณรงค์บริจาคเพื่อรับเข็มวันอานันทมหิดล ในปี 2568 รูปแบบของเข็มฯ เป็นโลหะนิกเกิลสีเงินด้าน เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 เซนติเมตร เป็นภาพพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ประทับนั่งเหนือพระเก้าอี้ ตามแบบพระบรมราชานุสาวรีย์จริงที่ประดิษฐาน ณ ด้านหน้าอาคาร อปร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โดยมีตราพระเกี้ยวเป็นสัญลักษณ์แทนคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งได้ก่อกำเนิดขึ้นตามพระราชปรารภของพระองค์ ที่ฐานของเข็มกลัดเป็นรูปพวงมาลาอันเป็นการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เนื่องในวันอานันทมหิดล ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระองค์ นอกจากนี้ พวงมาลายังประดับด้วย ดอกกุหลาบ “สีเหลือง” ซึ่งตรงกับสีของวันอานันทมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2568 นี้ ที่ตรงกับ “วันจันทร์” และยังหมายถึงมิตรภาพ ความอบอุ่น และความห่วงใย สื่อถึงความสดใสและร่าเริงที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม ด้านหน้าของพวงมาลา มีข้อความว่า “วันอานันทมหิดล ๒๕๖๘” ด้านหลังมีตัวอักษรคำว่า “คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”

โดยในปีนี้ผู้บริจาคเข็มละ 150 บาท (รวมค่าจัดส่ง) จะได้รับเข็มวันอานันทมหิดลแบบเข็มเดี่ยวบนโปสการ์ดพระบรมสาทิสลักษณ์ ผู้บริจาคชุดละ 250 บาท (รวมค่าจัดส่ง) จะได้รับเข็มเดี่ยวในกล่องกำมะหยี่สีเหลือง นอกจากนี้ ทางโครงการฯ ได้จัดทำเสื้อยืด 2 สี คือ สีขาวและสีเหลือง ขนาดไซซ์ XS-3XL โดยบริจาคตัวละ 350 บาท (รวมค่าจัดส่ง) ซึ่งลายบนเสื้อยืดออกแบบโดยแบรนด์ Kloset ทั้งนี้ ใบเสร็จการบริจาคเพื่อรับเข็มฯ และเสื้อยืด สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า

ขั้นตอนการบริจาค พร้อมทั้งการลงทะเบียนเพื่อขอรับเข็มฯ และเสื้อยืด มีดังนี้ 1. เลือกบริจาคเงินผ่าน 2 ช่องทาง ระหว่างบัญชีวันอานันทมหิดล ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย เลขที่บัญชี 045-508231-4 หรือสแกนผ่าน QR-Code บัญชีมูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ รหัสอ้างอิง 11 (จะได้รับใบรับเงินบริจาค e-Donation) 2. ลงทะเบียนขอรับเข็มฯ หรือเสื้อที่ https://anandaydonation.docchula.com/ อีกทั้งยังสามารถบริจาคได้ด้วยตนเองได้ที่ ฝ่ายกิจการนิสิต ชั้น 4 อาคารอานันทมหิดล คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงการเข็มวันอานันทมหิดล ได้ที่ Facebook page: ANAN DAY, Instagram: anan_day หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2256 4452-3 หรือ 0 2256 4183 ระหว่างเวลา 08.00 – 17.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ เว้นวันหยุดราชการ
—————————

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200