(13 มิ.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) เนื่องในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือความเป็นไปได้ในการประสานความร่วมมือกับ กทม. เพื่อดำเนินโครงการนำร่องในประเทศไทย ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 สำนักสิ่งแวดล้อม ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง

ในวันนี้ องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) ได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการนำร่องเกี่ยวกับการจัดการขยะประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่มาจากครัวเรือน “โครงการ Chemicals and Waste Financing Partnership Facility (CWFPF)” หรือ “โครงการพัฒนากลไกในการจัดหาพันธมิตรทางเงินด้านการจัดการสารเคมีและของเสีย” เพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงการลดหรือขจัดมลพิษจากเคมีภัณฑ์และของเสีย (Chemicals and Waste Pollution: CWP) โดยมุ่งสู่การพัฒนาแบบไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก (net-zero) ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ (nature positive) ในภาคส่วนที่มีการก่อมลพิษหลัก เพื่อส่งเสริมการเป็นสังคมไร้ของเสีย (zero-waste society) โดย UNIDO เป็นหน่วยงานดำเนินโครงการของกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (GEF) ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก GEF ซึ่งประเทศไทยมีความร่วมมือกับ GEF ผ่านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะหน่วยงานประสานงานหลัก
การหารือครั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้แสดงความสนใจในประเด็นการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ และเห็นว่า กทม. เองมีปริมาณขยะประเภทนี้เป็นจำนวนมาก จึงควรมีแนวทางที่ชัดเจนเพื่อจัดการอย่างเป็นระบบ โดยมีแนวคิดสำคัญ 3 ประการ คือ
- กลไกทางกฎหมายและกฎระเบียบ โดยควรมีการออกกฎหมายหรือข้อกำหนดเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแยกและนำส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์จากครัวเรือนให้กับภาครัฐ
- การยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ โดยส่งเสริมให้ประชาชนใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ให้นานที่สุด เช่น การซ่อมแซมแทนการทิ้ง เพื่อชะลอการกลายเป็นขยะ หากอุปกรณ์ไม่สามารถใช้งานได้แล้วจริง ๆ อาจเป็นการส่งเสริมให้มีการทำธุรกิจโรงงานรีไซเคิล
- การสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนว่าขยะเหล่านี้เป็นทรัพยากร แต่หากทิ้งปนไป ถูกจัดการไม่ถูกต้อง อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
ในส่วนของแนวทางการดำเนินโครงการ กรุงเทพมหานครจะไม่รับเงินโดยตรงจาก GEF แต่จะรับการสนับสนุนทางเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานที่ UNIDO ประสานมา เช่น การช่วยร่างกฎหมาย หรือการออกแบบโครงการนำร่อง โดยคาดว่าจะเริ่มจาก 1-2 เขตก่อน แล้วขยายผลไปยังเขตอื่น ๆ หากโครงการประสบความสำเร็จอาจขยายผลเป็นโมเดลแก่ท้องถิ่นอื่น ๆ ทั่วประเทศในอนาคต ซึ่งขั้นตอนถัดไปคือ สำนักสิ่งแวดล้อมจะจัดทำหนังสือเสนอผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพื่อขอความเห็นชอบในการเข้าร่วมโครงการฯ จากนั้น กทม. จะทำหนังสือถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะผู้ประสานงานเพื่อใช้งบประมาณของ GEF ในการดำเนินโครงการฯ ผ่าน UNIDO ต่อไป
ทั้งนี้ UNIDO แจ้งว่า ขณะนี้ GEF ได้จัดสรรงบประมาณให้ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงรอการเสนอความร่วมมือจากหน่วยงานที่มีความพร้อม ซึ่ง UNIDO เห็นว่ากรุงเทพมหานครมีศักยภาพและปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก จึงเหมาะแก่การเป็นพื้นที่นำร่องของโครงการฯ
สำหรับวันนี้ นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับและร่วมหารือกับ นางศุกร์สิริ แจ่มสุข Deputy UNIDO Representative นางสาววราวรรณ เฉลิมโอฐ National Expert on POPs Management นายภัทรพล ตุลารักษ์ Expert on E-Waste in Thailand และคณะ
—————————