(29 พ.ค. 68) นายสุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ประธานพิธีเปิดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดแก่อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติดกรุงเทพมหานคร ณ ค่ายลูกเสือกรุงธน เขตทุ่งครุ

รองปลัดฯ สุนทร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเริ่มจัดตั้งอาสาสมัครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (อสย.กทม.) ตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันมี อสย.กทม. จำนวน 10,177 คน ดำเนินงานอยู่ในชุมชนทั่วกรุงเทพมหานคร โดยมีภารกิจด้านการเฝ้าระวัง ป้องกันภัยจากการแพร่ระบาดของยาและสารเสพติดในพื้นที่ รวมทั้งค้นหา สร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด ให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ติดตามดูแลช่วยเหลือ ตลอดจนให้ความรู้ และเฝ้าระวังภัยต่าง ๆ ในโอกาสนี้ หวังว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะนำองค์ความรู้และทักษะที่ได้รับไปใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนภารกิจด้านเฝ้าระวังป้องกันภัยและยาเสพติดต่อไป
ด้วยสถานการณ์ยาเสพติดในกรุงเทพมหานคร พบว่ายังเป็นพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติดที่สำคัญ ตลอดจนเป็นแหล่งพักเก็บยาเสพติดก่อนกระจายไปสู่ผู้เสพอย่างต่อเนื่อง การลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ดังกล่าว จำเป็นต้องสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกันกลุ่มเสี่ยงไม่ให้เข้าสู่วงจรการใช้ยาเสพติด รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งในเชิงพื้นที่จากทุกภาคส่วน สำนักอนามัย จึงดำเนินการสร้างและพัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติดกรุงเทพมหานคร เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยปฏิบัติงานครอบคลุมทั้งด้านการป้องกันยาเสพติด การนำผู้เสพผู้ติดยาเสพติด เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา และดูแลช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดรักษาฯ ให้กลับสู่ชุมชน ตลอดจนประสานระหว่างหน่วยงาน ภาคีเครือข่ายและองค์การต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ สำนักอนามัย ได้จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ฯ ดังกล่าวขึ้น เพื่อสร้างเสริมทักษะการเฝ้าระวังภัยและป้องกันภัยต่าง ๆ ให้แก่ อสย.กทม. โดยกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ฯ แบ่งออกเป็น 2 รุ่น แบบไป – กลับ ณ ค่ายลูกเสือกรุงธน เขตทุ่งครุ กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่รับผิดชอบโครงการอาสาสมัครกรุงเทพมหานครด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาและสารเสพติด จาก 25 เขต เขตละ 1 คน อาสาสมัครเฝ้าระวังภัยและยาเสพติดกรุงเทพมหานคร จาก 25 เขต เขตละ 5 คน จำนวน 125 คน วิทยากร จำนวน 5 คน เจ้าหน้าที่ดำเนินการ จำนวน 10 คน รวมจำนวน 165 คน รวมทั้ง 2 รุ่นเป็นจำนวนทั้งสิ้น 330 คน