กทม. แจงกรณีการลักลอบตัดต้นไม้ถนนสวนสยาม ซอย 10-12 ทำ MOU กฟน. ตัดแต่งต้นไม้ตามแนวสายไฟ

นายนพ ชูสอน ผู้อำนวยการเขตคันนายาว กทม. กล่าวกรณีประชาชนตัดแต่งต้นไม้หน้าที่พักอาศัยบริเวณถนนสวนสยาม ซอย 10-12 โดยระบุเคยขออนุญาตสำนักงานเขตและได้รับคำตอบด้วยวาจาว่าสามารถทำได้ แต่ในภายหลังกลับมีเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตแจ้งความร้องทุกข์ทำลายทรัพย์สินของ กทม. ว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจได้ตรวจสอบพื้นที่เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 67 พบว่า มีบุคคลลักลอบตัดต้นไม้ของ กทม. จนมีสภาพที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อต้นไม้ จำนวน 3 ต้น บริเวณทางเท้าซอยสวนสยาม 10-12 จากการสอบถามบุคคลที่คาดว่า เป็นเจ้าของอาคาร หรือเป็นนายจ้างของบุคคลที่กำลังตัดต้นไม้ ยอมรับว่า เป็นผู้ใช้ให้ลูกจ้างตัดต้นไม้ โดยไม่ปรากฏว่า มีเอกสารการอนุญาตให้สามารถตัดต้นไม้ดังกล่าวมาแสดงแต่อย่างใด ขณะเดียวกันยังพบมีการนำรถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณทางเท้าใกล้กับบริเวณที่ตัดต้นไม้ เจ้าหน้าที่เทศกิจจึงให้คำแนะนำเคลื่อนย้ายรถจักรยานยนต์ออกจากทางเท้า ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 แต่ผู้กระทำผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตาม อีกทั้งยังพูดจาเสียงดังว่ากล่าว ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ระหว่างที่พยายามชี้แจงให้คำแนะนำด้วยวาจาสุภาพ แต่ผู้กระทำผิดไม่รับฟังคำแนะนำ เจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายภาพ บันทึกเสียงเหตุการณ์ และแจ้งขั้นตอนตามกฎหมาย โดยมีหนังสือเชิญเจ้าของรถมาพบและรับทราบความผิดตามกฎหมาย แต่ผู้กระทำผิดไม่มาพบ เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนที่กล่าวอ้างว่า เคยขออนุญาตสำนักงานเขตและได้รับคำตอบด้วยวาจาว่า สามารถตัดต้นไม้ได้ นั้น ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะตรวจสอบแล้ว ไม่เคยอนุญาตให้ตัดแต่งต้นไม้ไม่ว่าด้วยวาจา หรือรับแจ้งทางโทรศัพท์ขอให้ตัดแต่งต้นไม้บริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด หากมีการติดต่อให้ตัดแต่งต้นไม้ จะมีเจ้าหน้าที่จดบันทึกรับคำร้องขอรับบริการและนำเสนอตามลำดับชั้น ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเน้นย้ำแนวทาง การตัดแต่งต้นไม้ในพื้นที่สาธารณะตามหลักรุกขกรรม พร้อมทั้งจัดอบรมให้กับข้าราชการและบุคลากรผู้ปฏิบัติงานตัดแต่งต้นไม้ตามหลักวิชาการด้านรุกขกรรมเป็นประจำทุกปี และตัดต้นไม้ในพื้นที่ตามหลักวิชาการที่อบรมมา

นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวว่า สสล. ได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเน้นย้ำแนวทางการตัดแต่งต้นไม้ในพื้นที่สาธารณะตามหลักรุกขกรรม ขณะเดียวกัน กทม. ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการตัดแต่งต้นไม้ตามแนวสายไฟฟ้ากับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อให้การตัดแต่งต้นไม้ตามแนวสายไฟฟ้าให้ได้รูปทรงสวยงามและปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งในข้อตกลงได้ระบุการตัดแต่งกิ่งไม้แนวสายไฟฟ้าในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมวิธีการตัดแต่งอย่างถูกวิธีให้เป็นไปตามหลักวิชาการด้านรุกขกรรม ซึ่ง สสล. ได้จัดประชุม เพื่อแจ้งรายละเอียดและทำความเข้าใจ พร้อมส่งบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวให้ 50 สำนักงานเขต เพื่อรับทราบปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถปฏิบัติงานการดูแลและตัดแต่งต้นไม้ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย สสล. ได้จัดการอบรมรมรุกขกรประจำเขต 50 เขต และผู้ปฏิบัติงานบนต้นไม้ให้กับเจ้าหน้าที่ของ สสล. และเจ้าหน้าที่เขตทั้ง 50 เขตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บุคลากรปฏิบัติงานสอดรับกับนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่จะให้มีผู้เชี่ยวชาญการปฏิบัติงานบนต้นไม้ที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยตามหลักรุกขกรรม

เขตบางขุนเทียนเตรียมขอจัดสรรงบประมาณค่ารังวัดที่ดินถนนซอยบางกระดี่ 12

นางภัสรา นทีทอง ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน กทม. กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนสำนักงานเขตบางขุนเทียนละเลยการขอรังวัดที่ดิน เพื่อตรวจสอบการรุกล้ำที่สาธารณประโยชน์ว่า สำนักงานเขตฯ ได้ยื่นเรื่องขอให้สำนักงานที่ดินประมาณราคาค่ารังวัดที่ดินถนนซอยบางกระดี่ 12 โดยสำนักงานที่ดินได้ประมาณราคาค่ารังวัดซอยบางกระดี่ 12 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 57,200 บาท โดยจะต้องนำไปชำระในวันที่ยื่นขอรังวัดที่ดิน ซึ่งสำนักงานเขตฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ด้วยสำนักงานเขตฯ ไม่ได้ตั้งงบประมาณค่ารังวัดที่ดินไว้ จึงยังไม่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ จะขอจัดสรรงบประมาณ เพื่อเร่งรัดดำเนินการต่อไป

เขตพระโขนงตรวจแนะนำผู้ประกอบการปรับปรุงแก้ไขเรื่องกลิ่นจากฟาร์มกัญชา

นางสายทิพย์ สุคนธ์มณี ผู้อำนวยการเขตพระโขนง กทม. กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนเพื่อนบ้านปลูกฟาร์มกัญชา ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นรุนแรง มีความชื้น และเสียงสั่นสะเทือนมาตามผนังและโครงสร้างกำแพงว่า สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบข้อร้องเรียนดังกล่าวพบว่า บริษัท เดอะเฟิร์ส รอยัล จำกัด เช่าอาคารบ้านเลขที่ 69 ซอยสุขุมวิท 99 แขวงบางจาก เขตพระโขนง เพื่อปลูกกัญชา ซึ่งสำนักงานเขตฯ ได้ออกแบบตรวจแนะนำให้ผู้ประกอบการปรับปรุงแก้ไขเรื่องกลิ่น เสียง และความสั่นสะเทือนภายใน 7 วัน เมื่อครบกำหนดผู้ประกอบการแจ้งว่า ได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามผล ไม่พบการสั่นสะเทือน และไม่มีเสียงดังรบกวน แต่มีกลิ่นเหม็นในระดับที่ 4 สรุปได้ว่า กลิ่นที่เกิดขึ้นเข้าข่ายเป็นกลิ่นที่น่ารังเกียจและทำให้บุคคลใดใดมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการสูดดม เป็นกลิ่นที่มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายระหว่างการสัมผัสในระยะสั้น หรือระยะยาวได้ สำนักงานเขตฯ จึงออกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้ปรับปรุงแก้ไขและระงับเหตุรำคาญภายใน 7 วัน เมื่อครบกำหนด (วันที่ 10 มิ.ย. 67) เจ้าหน้าที่ตรวจสอบติดตามผลพบว่า บริษัทฯ ไม่มีการปลูกกัญชา แต่พบการนำช่อดอกกัญชาอบแห้งใส่ขวดโหลแก้ว ตรวจสอบพบกลิ่นรบกวนอยู่ในระดับที่ 2 ซึ่งเข้าข่ายเป็นกลิ่นที่ไม่น่ารังเกียจในระยะสั้น ๆ แต่หากสัมผัสบ่อย หรือในระยะยาว อาจทำให้เป็นกลิ่นที่น่ารังเกียจหรือมีอันตรายต่อสุขภาพ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 67 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเหตุรำคาญอีกครั้งพบว่า มีการปลูกกัญชาที่ห้องชั้น 2 จำนวน 80 ต้น ตรวจวัดกลิ่นหน้าบ้านผู้ถูกร้องพบว่า มีกลิ่นรบกวนอยู่ในระดับที่ 1 คือ กลิ่นที่เกิดขึ้นเข้าข่ายเป็นกลิ่นอ่อน ๆ ไม่น่ารังเกียจ ไม่เป็นเหตุเดือดร้อนรำคาญ อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ จะเข้มงวดกวดขันบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กทม. เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและรายงานผลให้ทราบต่อไป

เขตคลองสานแจ้ง สน. พื้นที่กวดขันรถจอดทับช่องทางจักรยานถนนลาดหญ้า

นางสาวสุนีย์ โชคธนะสกุลชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตคลองสาน รักษาราชการแทนผู้อำนวยการเขตคลองสาน กทม. กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์ทางจักรยานถนนลาดหญ้ามีรถจอดทับและตั้งวางสิ่งของกีดขวางทางว่า การกวดขันรถยนต์จอดบนผิวการจราจรทับช่องทางจักรยานบนถนนลาดหญ้า เป็นภารกิจและอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานจราจร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เทศกิจ สำนักงานเขตฯ ได้แจ้งสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ในพื้นที่รับผิดชอบพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะล้างทำความสะอาดทางเท้าและผิวการจราจรบนถนนสายหลักและถนนสายรองในพื้นที่เขตคลองสานเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ตามแผนการปฏิบัติงานพัฒนาทำความสะอาดพื้นที่เขต