ทีมข่าวชุมชนเมือง รายงาน
ตั้งแต่เดือน ม.ค. เป็นต้นไป กทม.ปลดล็อกสวนสาธารณะ จำนวน 12 สวน เปิดเป็นพื้นที่สวนสาธารณะของ กทม. เพื่อให้ศิลปินสามารถเข้าไปเล่นดนตรีได้ ภายใต้เงื่อนไขการเล่นนั้นต้องไม่มีการหา รายได้ หรือผลประโยชน์แอบแฝง และไม่ใช้เครื่องขยายเสียง หากเป็นการเล่นดนตรีที่ใช้เสียงดังเกิน 85 เดซิเบล ต้องเล่นดนตรีในพื้นที่เฉพาะที่สวนสาธารณะมีให้
ดังนั้น โดยทั่วไปโซนที่เปิดให้ประชาชนเข้ามาเล่นดนตรี จึงต้องมีระดับเสียงพอเหมาะพอควร ไม่รบกวนผู้อื่น ซึ่งจุดนี้จะมีป้ายโซนใช้เสียงวางไว้ให้ทราบ เป็นโครงการทดลองระยะเวลา 1 เดือน
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รอง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึง การสนับสนุนพื้นที่สำหรับดนตรี และการแสดงในปี 66 ว่า กทม.มีนโยบายว่าด้วยเรื่องเมืองแห่งการสร้างสรรค์และวัฒนธรรม เพื่อสร้างความสุข และสนับสนุนการออกมาใช้ชีวิตบนพื้นที่สาธารณะ สร้างการเคลื่อนไหวทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม จึงได้ผลักดันนโยบายหลายข้อเพื่อสร้างพื้นที่ดนตรีและศิลปะการแสดง (สตรีทโชว์) บนพื้นที่สาธารณะให้เกิดขึ้นทั่วทุกมุมเมือง
เบื้องต้นนำร่อง 12 สวน ที่จะเปิดโซนใช้เสียงให้ได้ฝึกซ้อมดนตรี และการแสดง เพื่อนันทนาการ ดนตรีในสวน ตลอดเดือน ม.ค. รวม 28 ครั้ง 10 แห่ง และ Bangkok Street Performer เปิดพื้นที่สาธารณะให้ศิลปะการแสดง เปิดหมวก
“เราควรทำโซนนิ่ง กำหนดพื้นที่ให้ชัดเจนว่าตรงไหนทำการแสดงได้ หรือไม่สามารถทำได้ รวมถึงทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความชัดเจนด้วยว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไรกับเรื่องนี้ เลยเป็นที่มาว่าอย่างน้อย ๆ เราควรจะต้องเปิดสวน ให้เกิดพื้นที่ที่ใช้เสียงให้เล่นดนตรี หรือสตรีทโชว์ ส่วนเรื่องอื่น ๆ คืออุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่จะต่อยอดจากเรื่องนี้ได้
การเปิด 12 สวนนำร่องคือการทำให้เกิดโซนนิ่ง ชัดเจนเลยว่าสามารถทำการแสดงได้โดยไม่มีใครไล่แต่ขอให้อยู่ในเงื่อนไข เสียงจะต้องไม่รบกวนผู้ที่ใช้อยู่เดิม เช่น คนวิ่ง คนที่ออกกำลังกาย โดยมีกำหนดพื้นที่โซนใช้เสียง”
“12 สวนสาธารณะ” ที่รองรับ ประกอบด้วย 1.สวน ลุมพินี 2.สวนเบญจกิติ 3.อุทยานเบญจสิริ 4.สวนวชิรเบญจทัศ 5.สวนสันติชัยปราการ 6.สวนรมณีนาถ 7.สวน 60 พรรษา(เคหะร่มเกล้า) 8.สวนเสรีไทย 9.สวนเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบฯ (สะพานพระราม 9) 10.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ 11.สวนหลวงพระราม 8 12.สวนธนบุรีรมย์
ในส่วนพื้นที่ศิลปะการแสดง คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์เล็งเห็นว่ากทม.ต้องมีพื้นที่แสดงเปิดหมวกจริงจัง และต่อยอดให้เห็นถึงความสามารถในการแสดง ซึ่งบางทีอาจมีประชาชน หรือแมวมองมาส่งเสริมต่อไปได้
นายศานนท์ ระบุว่า ผู้จะเข้ามาในโซนต้องปฏิบัติตามกฎที่ระบุไว้ อาทิ ใช้เครื่องเสียงขนาดเล็กได้ แต่ไม่ใช่การขยายเสียงเพื่อร้องเพลง หรือขยายเสียงเครื่องดนตรีที่เล่น และอยู่บนพื้นฐานของการเคารพสิทธิในการใช้งานสวนร่วมกัน รวมกลุ่มกันได้ไม่เกิน 5 คน
ตัวอย่างเครื่องดนตรีที่นำมาเล่นได้ เช่น กีตาร์ กลอง เครื่องเป่า ส่วนตัวอย่างกิจกรรม เช่น ฝึกซ้อม การแสดง, เต้นประกอบเพลง ฯลฯ
“พื้นที่สาธารณะ” นำร่องสำหรับการแสดงเปิดหมวก ประกอบด้วย 1.สถานีกำแพงเพชร ทางออก 2 2.สถานีจตุจักร Event in Mall 2 3.สถานีพระราม 9 4.สถานีสุขุมวิท 5.สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ บริเวณทางเชื่อมยกระดับแยกปทุมวัน(Sky walk) 6.สถานีช่องนนทรี บริเวณทางเชื่อมยกระดับแยกสาทร-นราธิวาส และ 7.สถานีเจริญนคร
เงื่อนไขศิลปินที่จะเข้าทำการแสดงในพื้นที่ที่กำหนด ต้องผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ Bangkok Street Performer-ศิลปินเปิดหมวก โดยผู้สนใจสามารถสมัครรับคัดเลือกได้ผ่านทาง https://www.zipeventapp.com/e/BMA-Music-Application ตั้งแต่วันนี้-17 ม.ค. 66 เมื่อคณะกรรมการคัดเลือกศิลปินแล้วจะประกาศผล และเปิดให้จองสถานที่ผ่านแพลตฟอร์ม จากนั้นก็สามารถเริ่มทำการแสดงได้ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.-28 ก.พ.นี้.
บรรยายใต้ภาพ
ศานนท์ หวังสร้างบุญ
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 13 ม.ค. 2566