Search
Close this search box.
ส่งคำแถลงศาล เสี่ยนิดย้ำ ไม่ก้าวล่วง

ไฟเขียวแม้วช่วยงาน ธรรมนัสขู่ไล่สามารถ

“เศรษฐา” แจงส่งคำแถลงปิดคดีศาล รธน.แล้วภายในวันนี้ ย้ำขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม-ไม่ขอก้าวล่วง ไม่หวั่นกระแสมองหา “นายกฯสำรอง” บอกประเทศไทยมีคนคุณภาพหลายคน ไม่ปิดทาง “ทักษิณ” ช่วยงานรัฐบาล หลังพ้นโทษ ส.ค. ขึ้นอยู่กับความประสงค์อดีตนายกฯ ด้าน “ธรรมนัส” ฮึ่มขู่ไล่ “สามารถ” พ้นพปชร. หากยังไม่หยุดเคลื่อนไหว ทำพรรคเสียหาย เตือนคนนอกอย่าเข้ามาแส่ ไม่ใช่ กก.บห. หลังสส.ไม่สบายใจปมไลน์หลุด เผย ยกหูคุย “ลุงป้อม” ขอให้ปรามบ้าง โค้งสุดท้าย! “พิธา-ชัยธวัช” จ่อแถลงอีก 2 ส.ค. แนวทางสู้คดียุบพรรค ส่วน “พริษฐ์” ขออย่าด่วนสรุปก้าวไกลจะโดนยุบ ยันไม่ถอดใจ ยังเดินหน้าทำงานต่อ ลุยปล่อยอีกคลิปละครสั้น “คำวินิจฉัยประชาชน” ชู “เท้ง ณัฐพงษ์” เป็นตัวเอกชวนประชาชนมาร่วมเติมความหวังผลักดันนโยบายก้าวหน้า จับตาเป็นหน้าพรรคด้วยหรือไม่ ขณะที่ “หมออ๋อง” รับหากศาลฯ ยุบ “ก้าวไกล” กระทบเก้าอี้ “รองประธานสภา” หากหลุดจากตำแหน่ง แล้วมีการเสนอชื่อเสียบแทน หวัง “เพื่อไทย” ทำตามเอ็มโอยู รักษาสมดุลศูนย์ต่อต้านทุจริต กทม. เผยผลการสืบสวนการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย พบเจตนาซื้อแพงเกินจริง เสนอตั้ง คกก.สอบสวนวินัยร้ายแรง

นายกฯนำถกครม.

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 67 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกฯ เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการรักษ์ 72 หาดไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระ ชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และโครงการ Phuket Sandbox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ชี้ขอรับคำตัดสิน

นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ถึงการส่งคำแถลงปิดคดีที่ 40 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตาม รธน. จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ ว่า จะส่งภายในเวลา 16.30 น. เมื่อถามว่าจนถึงวินาทีนี้นายกฯยังมั่นใจในเก้าอี้ว่าจะได้ไปต่อได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐายิ้ม หัวเราะ และกล่าวว่า “อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าทุกอย่างเราก็ส่งไป ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมแล้ว ผมไม่อยากจะก้าวล่วง วันนี้ผมก็จะทำ Closing Statements” ส่วนเริ่มมีการมองหานายกฯสำรอง หรือไม่ นายกฯกล่าวปฏิเสธว่า “ไม่ครับ” เมื่อถามย้ำอีกว่าหนึ่งในนั้นมีชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยมีบุคคลคุณภาพหลายคน ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และน้อมรับคำตัดสิน

รับคุยทักษิณแล้ว

เมื่อถามต่อว่า นับจากเหตุการณ์ตั้งแต่เขาใหญ่มาซอยรางน้ำ จนกระทั่งบ้านจันทร์ส่องหล้า นายกฯ ได้พูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บ้างหรือยัง นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้โทรศัพท์เข้าไปอวยพรให้ท่านมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง ยืนยันไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับสถาน การณ์การเมือง ส่วนเรื่องเขาใหญ่หรือที่อื่น ก็เป็นการพบปะกันธรรมดา นายอนุทิน ก็เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านมาก่อน เมื่อถามอีกว่ามีการจับตาในช่วงเดือน ส.ค.ที่นายทักษิณจะพ้นโทษเป็นผู้บริสุทธิ์ นายกฯ จะให้เข้ามาช่วยงานในรัฐบาลด้านใดหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องแรกคือต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมถึงจะได้รับการพ้นโทษ ส่วนเรื่องที่จะให้มาช่วยงานรัฐบาลยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยกัน ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน

ยันไม่ขัดช่วยงาน

เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้ปฏิเสธที่จะให้เข้าใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ปฏิเสธที่จะพูดคุยกัน คงมีการพูดคุยกัน แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะเรื่องนี้ต้องเป็นเป็นไปตามความประสงค์ของท่านด้วย ไม่ใช่ของผมฝ่ายเดียว ยืนยันว่ายินดี และพร้อมยินดีรับฟังความคิดเห็นของทุก ๆ ท่าน” เมื่อถามต่อว่าในความคิดของนายกฯ นายทักษิณยังเป็นกระแสที่ประชาชนต้องการใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าคนที่เป็นนายกฯ มานานขนาดนี้ และเป็นนายกฯ ที่ได้รับความนิยมชมชอบสูงสุดอย่างที่ตนเคยเรียนไป ท่านก็ยังคงมีคนรัก เมื่อถามอีกว่าระยะเวลาความนิยมผ่านมาเกือบ 20 ปี วันนี้นายทักษิณก็ยังตอบโจทย์สถานการณ์ทั้งเศรษฐกิจและการเมืองปัจจุบันได้ นายกฯคิดเห็นอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า เชื่อว่าทุกคนมีความคิดเห็น มีความหวังดีและมีความปรารถนาดีกับประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้น แต่แน่นอนว่าระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป องค์ประกอบหลาย ๆ อย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นแต่ละปีแต่ละช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป ก็จะมีความยากความซับซ้อน

พบงูกลางทำเนียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายเศรษฐาแถลงและตอบคำถามสื่อมวลชนหลังเป็นประธานการประชุม ครม. ได้มีการพบลูกงูเหลือมขนาดประมาณ 80 เซนติเมตร นอนขดอยู่บนพุ่มไม้หน้าห้องนักข่าว 1 ใกล้เคียงตึกนารีสโมสร สร้างความตกใจและแตกตื่นให้ผู้พบเห็น เจ้าหน้าที่สำนักนายกฯ จึงประสานแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้มาจับไปปล่อย โดยเมื่อเวลา 13.10 น. เจ้าหน้าที่ใช้มือเปล่าเข้าจับงูตัวดังกล่าวใส่ถุงพลาสติกด้วยความชำนาญ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเป็นเพียงลูกงูเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะยังมีพ่อและแม่ของงูอยู่ในบริเวณนี้ ขอให้ระมัดระวัง ซึ่งลูกงูที่จับได้จะนำไปไว้ที่ในกรงที่สถานี เมื่อจับได้หลายตัวจึงจะนำไปปล่อยกลับสู่ธรรมชาติต่อไป

ชี้ทักษิณไม่ยุ่งโผ

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภากลาโหมกับ ผบ.เหล่าทัพ ว่า จะเน้นย้ำกรอบและหลักคิดการทำโผโยกย้ายนายทหารประจำปี 2567 เช่น ผบ.ทบ. และ ผบ.ทร. คงต้องรับฟังจากหลากหลายแนว ในกองทัพยอมรับใคร รวมถึงความคิดเห็นของคนเก่า ผลงาน ฝีมือ ความรู้ ความสามารถ แต่เรื่องรุ่นถือเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา แต่ไม่ใช่ประเด็นหลัก เมื่อถามอีกว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกรณีมีการพูดถึง ผบ.เหล่าทัพ ควรจะเป็นทหารรุ่นที่ 24 ทั้งแผง เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวเพราะของเดิมที่ยังไม่เกษียณมีอยู่ 3 คน นายสุทิน ขอย้ำว่าเรื่องรุ่นไม่ใช่ประเด็นแรกและประเด็นหลัก เราดูที่ความรู้ ความสามารถ ในการยอมรับในกองทัพ หรือจะบังเอิญตรงกับรุ่นเดียวกันทั้งหมด ก็ต้องยอมรับ เมื่อถามย้ำว่าฝ่ายการเมืองจะไม่ล้วงลูกโผทหารใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ถ้าเป็น รมว.กลาโหม ไม่ถือว่าล้วงลูก เพราะต้องกำกับให้เป็นไปด้วยความเป็นธรรม ให้ได้คนที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุด เมื่อถามต่อว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ให้คำแนะนำเรื่องกองทัพบ้างหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า “ท่านไม่ยุ่ง ให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชนมากกว่า”

ธรรมนัสขอแจง

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพปชร.มีความเคลื่อนไหวใน ลักษณะเชิงต่อว่าและตำหนิการทำงานของรัฐบาลโดยส่งไปในไลน์กลุ่มสส.พรรคว่า คนที่ไม่ได้อยู่ในการร่างนโยบายของพรรค ไม่ควรจะยุ่ง และนำทิศทางพรรคให้เกิดความเสียหาย ทุกอย่างต้องผ่านคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)เรามีจุดยืนชัดเจน ไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของพรรคใด ในฐานะเลขาธิการพรรค และกก.บห.หลายท่านที่เป็นสส. ไม่สบายใจ ก็หยิบเรื่องนี้มาคุยในไลน์ เมื่อถามย้ำว่า จะต้องมีการพูดคุยกับนายสามารถโดยตรงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ย้อนถามว่า “ทำไมต้องคุย เขาเป็นใคร แต่เห็นว่าในการประชุมพรรควันนี้ สส.บางท่านอาจจะคุย และเอาประเด็นนี้มาถกเถียงกัน แต่ผมอาจจะไม่ได้เข้าร่วมประชุม เพราะติดภารกิจช่วงบ่าย”

ขู่ตะเพิดสามารถ

เมื่อถามอีกว่า จะต้องกำราบนายสามารถหรือไม่ เพราะการเคลื่อนไหวไม่สอดคล้องนโยบายรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคเราเป็นสถาบันการเมือง จะทำอะไรต้องผ่านกก.บห.พรรค มิเช่นนั้นคงอยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะคุณเคยกระทำผิด พรรคเคยขับไล่ไปครั้งหนึ่งแล้ว คุณกลับเข้ามาก็สร้างปัญหาอีกไม่ได้เด็ดขาด เมื่อถามด้วยประเด็นไลน์หลุดของนายสามารถ ได้มีการนำไปพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้โทรศัพท์ไปหาพล.อ.ประวิตรว่าให้ปรามบ้างเรื่องพวกนี้ ถ้านายสามารถยังไม่จบ ไม่หยุด จะใช้มติ กก.บห.พรรค ขับไล่ออกไป ขอย้ำว่าหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค รวมถึงกก.บห.เดินในทิศทางเดียวกัน ไม่มีความแตกแยก และสส. 40 คน ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีแต่คนภายนอกที่เข้ามาแส่ ยืนยันว่าตน และพล.อ.ประวิตรคุยกันทุกวัน เมื่อถามย้ำว่า สิ่งที่ ร.อ. ธรรมนัส ออกมาเตือน รวมไปถึงเรื่องเพลงที่นายสามารถนำมาเผยแพร่ที่เกี่ยวกับการสนับสนุนงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่ชอบเพลงนี้ แต่ชอบเพลงเชื่อฉัน

ลุงป้อมไม่ให้ออก

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า “ไม่ต้องขู่ ไม่ต้องไล่ ให้ลุงป้อมโทรบอกคำเดียวลาออก พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พปชร. จะเปิดตัวสมาชิกใหม่ในวันนี้ ว่าจะยังไม่มีการเปิดตัวอดีต ส.ส.พรรคพท. และกลุ่มคนรุ่นใหม่ 6-7 คน เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. มีอาการท้องเสียกะทันหัน ภายหลังร่วมรับประทานอาหารจากบูธในงานที่มูลนิธิบ้านป่ารอยต่อ ซึ่งมีพยานยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร วิดีโอคอลมาหา เพื่อขอเลื่อนกิจกรรมดังกล่าว จึงถามต่อว่า จะให้ลาออกจาก สมาชิกพปชร.หรือไม่ ด้าน พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ไม่ต้องลาออก จะลาออกทำอะไร” ส่วนการจัดกิจกรรมเปิดตัว จะ จัดขึ้นในวันที่ 6 ส.ค.นี้ เนื่องจากรอ พล.อ.ประวิตร เดินทางกลับจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในการให้กำลังใจนักกีฬาโอลิมปิก 2024 ส่วนอาการท้องเสียในวันนี้ ผมไม่ทราบว่าใครเป็นคนตักอาหารมาให้ พล.อ.ประวิตร ทาน หรืออาจจะเป็นการวางยา

ก.ก.ชี้ยังไม่ถอดใจ

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงแนวทางของพรรค ในการต่อสู้คดียุบพรรค ว่าในวันที่ 2 ส.ค. เวลา 15.00 น. นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก.ก.และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค จะแถลงต่อสาธารณะถึงคำแถลงปิดคดีเพื่อมายืนยันอีกครั้ง ถึงแนวทางที่พรรคดำเนินการต่อสู้และปกป้องพรรคเป็นอย่างไรบ้าง ยืนยันไม่ได้ถอดใจว่าพรรคจะถูกยุบ และไม่อยากให้สังคมด่วนสรุปว่าพรรคจะถูกยุบ และเราจะพยายามทำเต็มที่เพื่อปกป้องพรรค สำหรับเนื้อหาสาระในการแถลงนั้น จะเป็นการเผยแพร่และสรุปคำแถลงปิดคดี ที่เรายื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ยืนยันว่าสิ่งที่เราทำไปไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครองหรืออะไรที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และตอบข้อสงสัยที่ดำเนินการในช่วงที่ผ่าน มา

ชี้ตัวเต็งผู้นำใหม่

เฟซบุ๊กพรรคก.ก. โพสต์คลิปวิดีโอละครสั้น เกี่ยวกับล้อการวินิจฉัยคดียุบพรรคก.ก.ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 ส.ค. นี้ พร้อมข้อความว่า หากพรรคการเมืองเกิดขึ้นมาได้ด้วยการสนับสนุนจากประชาชน ก็ย่อมตายด้วยประชาชน และเรื่องราวต่อไปนี้คือการพิจารณาพรรค #ก้าวไกล ว่าประชาชนจะสนับสนุนต่อไปหรือไม่ โดยในคลิปวิดีโอมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นตัวเอกของเรื่อง ถูกนักแสดงที่แต่งตัวเป็นประชาชนในกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ไต่สวน เพื่อพิจารณาว่าสมควรสนับสนุนต่อไปหรือไม่ในช่วงท้าย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า “มาช่วยกันนะครับ มาช่วยกันเติมเต็มความหวัง มาช่วยกันสานต่อความฝัน เพราะพวกเราเชื่อว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐพงษ์เป็นหนึ่งในรายชื่อที่ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงภายในพรรคว่าเป็นตัวเต็งที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไปจริง เนื่องจากเป็นคนที่มีความสามารถเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายได้ และมีความเหมาะสมมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตา เพราะนายณัฐพงษ์ก็เป็นหนึ่งใน 44 สส.ที่มีชื่ออยู่ในคดีเสนอแก้ไข ม.112 ที่อยู่ในการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วยเช่นกัน

ยกเงื่อนไขรองปธ.

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรธน.นัดวินิจฉัยคดียุบพรรคก.ก. ในวันที่ 7 ส.ค.นี้มีการเตรียมพร้อมอย่างไร เนื่องจากมีรายชื่อเป็นหนึ่งในกก.บห.จะถูกตัดสิทธิ ว่า หากยุบพรรคแล้ว ตัดสิทธิกก.บห. ด้วย คุณสมบัติของตำแหน่งรองประธานสภา ส่วนตำแหน่งที่ได้จากการทำเอ็มโอยูระหว่างพรรคก.ก.และพรรคพท. นั้น ไม่แน่ใจว่าเอ็มโอยูนั้นจะมีสาระอยู่หรือไม่ แต่ถ้าเราเห็นถึงหลักการที่ควรจะเป็น เช่น การมีรองประธาน 1 ใน 3 ที่มาจากฝ่ายค้าน ทำให้เกิดความสมดุลในความเป็น กลาง ไม่ใช่เป็นกลางในเชิงบุคคล แต่เป็นความเป็นกลางในเชิงสถาบัน ซึ่งอาจเป็นออปชันที่ดี ที่ทางวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน ได้คุยกัน

เพิ่มกมธ.สอบรบ.

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. แถลงว่า ได้ยื่นญัตติขอแก้ไขร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ต่อประธานวุฒิสภา มา เพื่อขอให้ที่ประชุมพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาฉบับใหม่ สาระสำคัญคือ การพิจารณาเพิ่มเติมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ วุฒิสภา จากเดิม 26 คณะ เพิ่มเป็น 28 คณะ โดยเพิ่ม 2 คณะ คือ 1.ขอให้มี กมธ.เศรษฐกิจ มาทำหน้าที่ดูแลภาพรวมเศรษฐกิจประเทศโดยเฉพาะ ซึ่งให้แยกออกจาก กมธ.การเงิน การคลัง และสถาบันการเงิน และ 2.การเพิ่ม กมธ.ตำรวจ โดยแยกออกจาก กมธ.กฎหมายและการยุติธรรม เพราะมีหน้าที่แตกต่างกัน การเพิ่มกมธ.สามัญครั้งนี้ เป็นการเพิ่มความเข้มข้นตรวจสอบรัฐบาล เพราะถ้าไปดู กมธ.สามัญ สภาผู้แทนราษฎร มักจะยึดหลักหากรัฐมนตรีดูแลกระทรวงใด จะให้คนของพรรคนั้นเป็นประธาน กมธ. ดังนั้นจะมาตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างไร กระบวนการตรวจสอบรัฐบาลจึงมาอยู่ที่วุฒิสภามากกว่า และการเพิ่ม กมธ.สามัญ ก็ใช้งบประมาณเพิ่มเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้มีข้อน่าสงสัยเหมือนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

จี้สว.ช่วยปลดล็อก

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ขอเชิญชวน สว.ปลดล็อก ที่มา ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มไหน ให้มาช่วยกันทำงาน และขอฝากประธานวุฒิสภา ถึงการวางตัวประธานกมธ.ชุดต่างๆ ให้ยึดหลักความรู้ ความสามารถ อย่าไปวางแบบผิดฝาผิดตัว ถ้ายังล็อกเก้าอี้ประธาน กมธ.อีก จะหมดหวังต่อระบบวุฒิสภา ส่วนที่ สว.บางคนเสนอให้บทบาทของสว.ชุดใหม่ ควรเน้นเรื่องการกลั่นกรองกฎหมาย ไม่ควรเน้นเรื่องการตรวจสอบรัฐบาลนั้น ขณะนี้ฝ่ายค้านอ่อนแอ มีแต่ข่าวยุบพรรค จะเป็นความหวังได้แค่ไหน แต่สว.ชุดใหม่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน ยังกระฉับกระเฉง ถ้าไม่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลก็เหมือนกับการบิดพลิ้วสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ส่วนข้อเสนอให้ สว.ตรวจสอบคุณสมบัติของ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. ที่มีข้อสงสัยเรื่องวุฒิการศึกษานั้น ขณะนี้ยังไม่ไปถึงจุดนั้น ยังไม่มีการตั้งกมธ.ใด ๆ แต่ถ้าร่างแก้ไขข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาผ่านแล้วมีคนเสนอขึ้นมา ก็อาจตรวจสอบได้ เราพร้อมรับฟังความเห็น

กทม.แถลง “ทุจริต”

ที่ศาลาว่าการกทม. นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร รองปลัดกทม.ในฐานะผอ.ศูนย์ ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริต ของกทม. (ศตท.กทม.) พร้อมด้วย นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษก กทม. และน.ส.เต็มสิริ เนตรทัศน์ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (สำนักงาน ก.ก.) ชี้แจงความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องทุจริตของ กทม. ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายสำหรับศูนย์กีฬาและศูนย์นันทนาการของกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 โครงการ ได้ดำเนินการตรวจสอบตามกรอบระยะเวลา 30 วัน โดยไม่มีการขยายระยะเวลา และได้เสนอรายงานการสืบสวน เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา

ชี้ซื้อแพงเกินจริง

รองปลัดกทม. กล่าวว่า จากการสืบสวนทั้งพยานบุคคลและเอกสารพบว่า มีการจัดซื้อแพงเกินจริง โดยราคาจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย สูงกว่าราคาที่เคยจัดซื้อในปีก่อน ๆ และสูงกว่าราคาต้นทุนรวมค่าดำเนินการเป็นอย่างมาก ซึ่งรายละเอียดทีโออาร์ พบว่า มีข้อกำหนดที่ไม่เปิดกว้างให้มีการเข้าเสนอราคาได้อย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย รวม 25 ราย โดยหลังจากนี้จะมีการสอบสวนในเชิงลึกต่อไป ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปลัดกทม.ได้มีคำสั่งย้ายผู้บริหารที่มีชื่อเกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อทั้ง 7 โครงการ ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักปลัดกทม.แล้วแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง

รับลุยสอบวินัยต่อ

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ทราบผลการสอบสวนแล้วโดยผลสอบสวนคือ มีมูลราคาสูงจริง และมีข้อกำหนดบางอย่างที่อาจเกินความจำเป็นไป มีผู้เกี่ยวข้อง 25 ราย ซึ่งได้มีการย้ายออกไปแล้ว 3 ราย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอำนาจโดยตรง เพื่อไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับการสอบสวน จากนี้ ไปให้ปลัดกทม. ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายข้าราชการประจำ ออกคำสั่งตั้งกรรมการสอบทางวินัยต่อไป และเรื่องทุจริตเป็นคดีอาญา เป็นของ ป.ป.ช. ป.ป.ท. สตง. ที่จะดำเนินการคู่ขนานกันไป พร้อมย้ำกทม.เอาจริงเอาจัง.

 



ที่มา:  นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 1 ส.ค. 2567 (กรอบบ่าย)

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200