นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงผลการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย สำหรับศูนย์กีฬาของกรุงเทพมหานครว่า ขณะนี้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ได้ดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นตามกรอบระยะเวลา 30 วันและรายงานให้ทราบแล้ว มีเอกสารจำนวนมากและมีการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล 25 ราย เบื้องต้นมีการสอบถามรายละเอียดโดยเนื้อหาต่าง ๆ ยังเป็นชั้นความลับ
อย่างไรก็ตาม โดยสรุปประเด็นเรื่องราคาพบว่าราคาสูงจริง กระบวนการกำหนดลักษณะของครุภัณฑ์มีบางประเด็นซึ่งกำหนดไว้อาจสูงผิดปกติ และพบว่ามีการกำหนดรายละเอียดอื่นเพิ่มเติม ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม
“อันนี้เป็นข้อเท็จจริงและก็มีรายชื่อ ซึ่งตนได้สั่งการให้ปลัด กทม. ดำเนินการต่อ แต่ยังไม่ถึงขนาดที่ระบุว่ามีข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ กทม.เข้าข่ายทุจริตหรือไม่ เพราะเป็นเพียงการสรุปข้อมูลของคณะกรรมการฯ ที่เข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริงและรายงานข้อเท็จจริงให้เป็นสารตั้งต้น”
ทั้งนี้ นายชัชชาติ ระบุว่า มอบหมายให้ปลัด กทม. ซึ่งเป็นข้าราชการฝ่ายประจำไปดำเนินการต่อ โดยใช้ข้อมูลที่ได้มาจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และรายชื่อว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง โดยจะดำเนินการต่อเนื่องไม่หยุด ไม่เป็นมวยล้มแน่นอน ซึ่งเอกสารมีจำนวนมากถึง 7 โครงการ
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของป.ป.ช. และ ป.ป.ท. มีการดำเนินการคู่ขนานกัน ในส่วนกทม.เป็นเรื่องวินัย ส่วนคดีเป็นความรับผิดชอบของป.ป.ช.และป.ป.ท. การดำเนินการของกทม.ถือว่ารวดเร็วและเป็นไปตามกรอบเวลา เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนที่จะนำข้อเท็จจริงไปปรับปรุงกระบวนการให้รัดกุมขึ้น.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 26 ก.ค. 2567 (กรอบบ่าย)