กรมควบคุมโรค คุมเข้ม”นักท่องเที่ยว”ย้ำ 5 มาตรการเข้าไทย ขยายช่องตรวจดูแลตรวจตราทางบกในการเดินทางโดยรถไฟ กทม.เปิด 2 จุด ฉีดวัคซีนให้ต่างชาติ “ศูนย์แพทย์บางรัก-สปคม. บางเขน” เสริมสถาบันโรคผิวหนังเข้ามาช่วยด้วย เล็งให้ทุกจังหวัด เปิด จุดฉีดวัคซีน 1 แห่ง โดยเฉพาะจังหวัด ท่องเที่ยว “เชียงใหม่-ภูเก็ต-ชลบุรี” ด้านกทม.ถกศูนย์เฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพนักท่องเที่ยว ให้ 50 เขต ตรวจสถานประกอบการให้พร้อมบริการ ตามมาตรการโควิดฟรีเซตติ้ง
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้กำหนดมาตรการสาธารณสุขในการเข้าประเทศไทย สำหรับผู้เดินทางชาวต่างชาติ (Public Health Measures for Foreign Travelers Entering Thailand) ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีผลแล้วตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา มีรายละเอียดดังนี้
สธ.ย้ำ5มาตรการรับต่างชาติเข้าไทย
1.ยกเลิกข้อกำหนดตรวจเอกสารรับวัคซีน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย 2.ผู้เดินทางที่มาจากประเทศที่กำหนดให้มีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนเดินทางออกจากประเทศไทย ต้องซื้อประกันสุขภาพวงเงินไม่น้อยกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ครอบคลุมการรักษาโควิด-19 ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทยและบวกเพิ่มอีก 7 วัน โดยเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อจะสุ่มตรวจเอกสารรับรองประกันสุขภาพของผู้เดินทางจากต่างประเทศ ดังกล่าว ถ้าไม่มีเอกสารประกันสุขภาพ ต้องซื้อประกันสุขภาพก่อนเข้าเมือง
สำหรับประเทศที่กำหนดให้ผู้เดินทาง มีผล RT-PCR มีผลลบก่อนออกจากไทย 2 ประเทศ ประกอบด้วย จีน แผ่นดินใหญ่และอินเดีย อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบภารกิจรวมถึงลูกเรือ นักเรียน อาจใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงานเจ้าภาพหรือเอกสารแสดงถึงการมีประกันรูปแบบอื่นรับรองแทน 3.ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยและผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องหรือต่อเครื่อง ได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบเอกสารประกันสุขภาพ 4.สายการบินต้องยึดตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติตามคู่มือแนวทางตามความเหมาะสม เช่น ขอให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง ยกเว้นช่วงรับประทานอาหารหรือในภาวะฉุกเฉิน 5.ผู้โดยสารที่มีอาการ โควิด-19 ระหว่างเดินทาง ได้รับการแนะนำให้ตรวจโควิด-19 เมื่อเดินทางมาถึงจุดหมาย
กทม.ถกแผนดูแลนักท่องเที่ยว
ด้าน รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯ กทม.) เป็นประธานประชุมศูนย์เฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพกรุงเทพมหานคร(ศฉส.กทม.) เพื่อร่วมมือดูแลนักท่องเที่ยว ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.)ขอเข้าร่วมศูนย์ประสานงานร่วม 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม เพื่อประสานข้อมูลดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในกรุงเทพมหานคร และร่วมหารือมาตรการด้านสุขภาพสำหรับนักท่องเที่ยว
เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นยึดหลัก4-4
รศ.ดร.ทวิดากล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ของศฉส.กทม.ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา จะเห็นตัวเลขการติดเชื้อโควิดในประเทศลดลงต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสีเขียว แสดงว่าภูมิคุ้มกันของประชาชนค่อนข้างแข็งแรงขึ้น แต่ยังเป็นห่วงกลุ่ม 608 และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งปัจจุบัน กทม.ยึดหลัก 4-4 คือประชาชนต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 4 เข็ม หรือหากครบแล้วแต่เกิน 4 เดือน ให้มารับเข็มกระตุ้น ถึงแม้สถานพยาบาลของกรุงเทพมหานคร ทั้งในส่วนของกทม. สธ.และเอกชนมีกำลังทรัพยากรพร้อมและยังรับได้ แต่ก็ไม่อยากให้ป่วย เราจึงเร่งเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากขึ้น
ย้ำภาคบริการยึดโควิด’ฟรีเซตติ้ง’
สำหรับมาตรการของกรุงเทพ มหานครนั้น กทม.จัดฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ผู้ให้บริการภาคส่วนการท่องเที่ยว ทั้ง ผู้ขับรถสาธารณะ รวมถึงภัตตาคาร ร้านอาหาร และจะทำให้โรงแรม สถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยว รักษามาตรฐาน Covid Free Setting SHA และ SHA Plus โดยให้สำนักงานเขต 50 เขต ลงไปตรวจสอบ ผู้ประกอบการ ร้านอาหารให้เตรียมพร้อมที่ดีขึ้น มีสุขอนามัยที่ดีขึ้น ส่วนนัก ท่องเที่ยวทั่วไปที่จะเข้ามา ควรซื้อประกันสุขภาพมาด้วย หากเจ็บป่วยจะได้สบายใจเรื่องค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล แต่กรณี นักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีเงื่อนไขต้องตรวจ RT-PCR เมื่อกลับไป ให้มีประกันระยะสั้นในการเดินทางมา เพื่อครอบคลุมการตรวจรักษาต่อเนื่อง
จัดจุดวอล์กอินฉีดวัคซีนให้นทท.
รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า รัฐบาลจะกำหนดสถานพยาบาลที่ให้บริการนักท่องเที่ยว ทั้งการดูแลรักษารวมถึงการให้บริการวัคซีน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันซึ่งจะประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติวันที่ 12 ม.ค. โดยกทม.มีสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานหลายแห่งที่พร้อมเข้าร่วมกับ สธ.ต้องรอความชัดเจน เพราะต้องมี รายละเอียดการกำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้นและระยะกลาง ที่เข้ามา
อีกส่วนหนึ่งคือจุดฉีดวัคซีนที่จะจัดให้นักท่องเที่ยว ต้องจัดระบบการ จองคิว/การ walk in ให้ดี เพื่อลดความแออัดซึ่งศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ได้ให้สถานที่จัดฉีดวัคซีน ระหว่างวันที่ 19-25 มกราคม ตั้งแต่เวลา 12.00-20.00 น. ซึ่งอาจพิจารณาจัดระบบฉีดวัคซีนให้บริการกับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ทั้งนี้ ถึงแม้เราจะผ่อนคลายมาตรการเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องทำมาตรการของเราให้เข้มแข็งขึ้น เน้นฉีดวัคซีนให้มาก เพราะเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตอบได้ว่า ในขณะที่ผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่กว่า 90% เป็นสีเขียว และอัตราเสียชีวิตในผู้ป่วยเหลือง-แดงก็ลดลง
นทท.ติดโควิดให้กักตัวในโรงแรม
นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกทม.กล่าวถึงสถานการณ์เตียงว่ากรุงเทพมหานครร่วมกับ สธ.เตรียมเตียงมากกว่า 10,000 เตียง แต่อาการเจ็บป่วยที่ต้องใช้เตียงถือว่าน้อยมากไม่ถึง 5% ส่วนใหญ่เป็นการเจ็บป่วยแบบผู้ป่วยนอก มีอาการเล็กน้อย ดังนั้น เรื่องเตียงเราพร้อมสามารถรองรับได้แน่นอน ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มสีเขียวมีแนวทางรักษาแบบผู้ป่วยนอกเช่นกันหากเจอ นักท่องเที่ยวติดเชื้อจะให้กักตัวในโรงแรม ขอความร่วมมือใส่หน้ากาก และไม่ไปที่ชุมชน ลักษณะเดียวกับ Hotel Isolation เช่นที่ผ่านมา
คุมเข้มนทท.เพิ่มจุดตรวจทางบก
ด้านนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1-7 ม.ค. มีคนติดเชื้อเพียง 900 คน และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 8 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่พบว่ามีคนรับวัคซีนเข็ม 1 ไปแล้ว 80% และ เข็ม 2 ฉีดไปแล้ว 70% การทำงานของกรมควบคุมโรค ได้ประสานการทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดูแลให้ความรู้ผู้ประกอบการต่างๆ และทราบปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนสายมูเข้าไทยจำนวนมากนิยมเดินทางไปตามศาสนสถานของไทย จะประสานการเตรียมพร้อมดูแลคนในวัด หรือชุมชนใกล้เคียงด้วย อีกทั้ง ขยายการดูแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางทางบกด้วย เนื่องจากทราบว่าส่วนหนึ่งเดินทางด้วยรถไฟ
กทม.เปิด2จุดฉีดวัคซีนให้ต่างชาติ
นพ.ธเรศยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวเข้าไทย ในการจัดเตรียมวัคซีนโควิด และการตรวจเชื้อว่า กรมควบคุมโรคเตรียมพื้นที่ใน กทม.ไว้ 2 จุดคือ 1.ศูนย์การแพทย์บางรัก เปิดให้บริการทุกวัน รองรับนักท่องเที่ยวไปฉีด และ 2.สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) เขตบางเขน ส่วนกรมการแพทย์จะใช้สถาบันโรคผิวหนัง มาช่วยฉีด ค่าบริการวัคซีนแอสตราเซเนกา 800 บาทต่อเข็ม และไฟเซอร์ 1,000 บาท ส่วนค่าบริการทางการแพทย์อีก 380 บาท โดยพื้นที่ กทม.เริ่มให้บริการฉีดวัคซีนแก่ต่างชาติแล้ว
ทุกจังหวัดท่องเที่ยวต้องมี1แห่ง
ส่วนพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ กรมควบคุมโรคประชุมเทเลคอนเฟอเรนซ์ เตรียมความพร้อม มีเป้าหมายว่าจะให้ทุกจังหวัดมีจุดฉีดวัคซีนสำหรับชาวต่างชาติ 1 จุด ขณะที่ บริการตรวจ RT-PCR ให้ผู้เดินทางขอรายละเอียดสถานที่ที่สถานทูตรับรองได้ เพื่อให้การตรวจและจัดส่งเอกสารไม่มีปัญหา ซึ่งส่วนใหญ่ของหน่วยตรวจที่สถานทูต รับรอง ก็เป็นสถานที่ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รับรองเช่นกัน ส่วนอัตรา ค่าบริการก็เป็นไปตามระเบียบ ที่กรมวิทย์ ระบุไม่เกิน 1,200 บาท
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 12 ม.ค. 2566