ปัญหาการแพร่กระจายตัวของปลาหมอคางดำเริ่มขยายวงกว้าง จากภาคกลางไปภาคใต้ รวมถึงในพื้นที่ กทม. ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ก.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล และผู้เกี่ยวข้องเดินทางไปที่เขตบางขุนเทียน เพื่อติดตามปัญหา โดยนายชัชชาติเผยว่า ปลาหมอคางดำ แพร่มาจาก จ.สมุทรสงคราม ขณะนี้ใน กทม.พบที่เขตบางขุนเทียน ทุ่งครุ และบางบอน ซึ่งมีเกษตรกรประมาณ 900 ราย เลี้ยงสัตว์น้ำ มีวังกุ้ง วังปลา ปลาหมอคางดำแพร่พันธุ์ได้เร็วมาก ทนทานต่อสภาพแวดล้อม กินปลาเล็ก
สถานีคิดไข่ปลาเป็นอาหาร ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนมากและจะทำให้เกิดผลกระทบเป็นห่วงโซ่ไปถึงอุตสาหกรรม เ ล ข ที่อื่นๆ เกษตรกรเสียหายมาก รายได้ลดลงเป็น 10 เท่า ตอนนี้ แพร่ระบาดใน 3 เขตของ กทม. แต่แนวโน้มคงขยายไปไกลกว่านี้
นายศรายุทธ์ เมธินาพิทักษ์ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านประมง กรมประมง เผยว่า มีแนวทางแก้ปัญหา 6 มาตรการคือ 1.การควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำ ทุกแห่ง พัฒนาเครื่องมือประมงที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดปลาหมอคางดำ 2.กำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยการปล่อยปลาผู้ล่า เช่น ปลากะพง 3.นำปลาหมอคางดำ ที่กำจัดออกจากระบบนิเวศไปใช้ประโยชน์ 4.การสำรวจและเฝ้าระวังการแพร่กระจายประชากรปลาหมอคางดำในพื้นที่เขตกันชน สำรวจจังหวัดที่มีลำน้ำเชื่อมต่อกับจังหวัดที่มีการแพร่ระบาด 5.สร้างความรู้ ความตระหนัก และการมีส่วนร่วมทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการกำจัดปลาหมอคางดำ 6.การติดตาม ประเมินผล นำผลงานวิจัยและเทคโนโลยีมาแก้ปัญหา เช่น การผลิตปลาหมันปล่อยลงสู่แหล่งน้ำให้ไปผสมพันธุ์กับปลาหมอคางดำในธรรมชาติเพื่อให้เป็นหมัน
ถือเป็นงานหนักและท้าทายในการกำจัดพันธุ์ปลาที่ทำลายความสมดุลของสัตว์น้ำ ประเด็นสำคัญคือ บทบาทของภาคราชการในการควบคุมป้องกันไม่ให้มีการนำพันธุ์ปลาในลักษณะเดียวกันเข้ามาอีก ซึ่งจะสร้างความเสียหายแก่สภาพธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า จากความหลากหลาย และมีความสมดุลในตัวเอง
ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 15 ก.ค. 2567 (กรอบบ่าย)