(9 ก.ค. 67) แพทย์หญิง วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมการประชุมทำความเข้าใจคณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี รางวัลเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 60 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2558 ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความตระหนักของพระราชกรณียกิจในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาในด้านการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพประชากรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ด้อยโอกาส
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดตั้งมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี และทรงเป็นประธานกิตติมศักดิ์ ซึ่งในการเสนอชื่อครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลของประเทศต่างๆ จะเสนอโดยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง) ประเทศนั้นๆ ทั้งนี้ รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประกอบด้วย 1. เหรียญทองรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี 2. เข็มเชิดชูเกียรติ (ทองคำ) พระราชทาน 3. เกียรติบัตร และโล่ประกาศเกียรติคุณ 4. เงินรางวัล 10,000 เหรียญสหรัฐ
สำหรับ “ครู” ผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัล (สำหรับประเทศไทย) คือ “ครูผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงแก่ชีวิตลูกศิษย์และเป็นครูผู้มีคุณูปการต่อการศึกษา” เป็นครูที่สังคมไทยให้การยอมรับและยกย่องร่วมกันว่าเป็นครูผู้เสียสละทุ่มเทให้แก่การงาน เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ชีวิตลูกศิษย์ ทำหน้าที่เป็นแบบอย่างให้แก่ศิษย์และสังคมด้วยจิตวิญญาณความเป็นครู รวมถึงเป็นผู้มีคุณูปการต่อการศึกษา ทั้งในด้านจริยธรรม การสอน ตลอดจนมีการค้นคว้าพัฒนาตนเองอยู่เสมอ รู้เท่าทันกับยุคสมัย และสามารถเป็นแรงบันดาลใจแก่เพื่อนครูโดยรวม นอกจากนี้จะต้องเป็นครูผู้ที่คนไทยทุกภาคส่วนได้ร่วมกันเฟ้นหาและคัดเลือก ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ได้มีการพิจารณามอบรางวัลเพิ่มเติมให้อีก 3 ประเทศ ได้แก่ ภูฏาน บังกลาเทศ และมองโกเลีย ทำให้การพระราชทานรางวัลในปี 2568 จะมีครูผู้ได้รับรางวัล รวม 14 ประเทศ
—————