สง่างามสมพรเกียรติ มหามงคลเฉลิม6รอบ 76จว.เสก-สมโภชวันนี้
ผู้ว่าฯ กทม. นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการในสังกัดซ้อมใหญ่พลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ และริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ของ กทม. จากหอศาสตราคมในพระบรมมหาราชวัง ไปยังกระทรวงมหาดไทย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความสง่างาม และสมพระเกียรติ ขณะที่กองทัพเรืออัญเชิญเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชลงจากคานสู่ท้องน้ำ เตรียมจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา
ตามที่รัฐบาลดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีพิธีสำคัญที่กรุงเทพมหานคร ร่วมดำเนินการคือ การจัดพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย ซึ่งเป็นราชประเพณีที่มีมาแต่โบราณ โดยรัฐบาลมอบหมายกระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ 77 จังหวัด 108 แหล่งน้ำ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 แห่ง คือ น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากหอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง และกำหนดจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 13 ก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ก.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกรุงเทพ มหานคร ซ้อมใหญ่พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ และริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเทพมหานครจากหอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวังไปยังกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หัวหน้าหน่วยงานและข้าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมซ้อมใหญ่เพื่อให้การจัดริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างามสมพระเกียรติ
นายชัชชาติกล่าวภายหลังเสร็จพิธีซ้อมใหญ่ว่า ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินในริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นไปอย่างเข้มแข็ง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย นับว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ทุกท่านได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธีสำคัญในพระราชพิธีมหามงคลครั้งนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ทำด้วยความตั้งใจ วันจริงที่ใกล้จะเข้ามาถึง ขอให้ทุกท่านมาร่วมพิธีสำคัญอย่างครบถ้วน ดูแลสุขภาพร่างกายให้พร้อม รักษาความเป็นระเบียบโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อให้การเดินในริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเทพมหานคร จากหอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวังไปยังกระทรวงมหาดไทย เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีความสง่างาม และสมพระเกียรติ
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครกำหนดจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 13 ก.ค.2567 เวลา 13.30 น. ณ หอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง โดยจัดริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ ไปเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ณ วัดพระ เชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ในวันที่ 25 ก.ค.2567 และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ได้มอบให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฯ และเมื่อวันที่ 4 ก.ค.กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด ภาคีเครือข่ายทุกจังหวัด จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำ ณ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละจังหวัด รวม 107 แห่งทั่วประเทศ พร้อมกันในเวลา 14.49 น. ขั้นตอนหลังจากนี้ ทุกจังหวัดจะประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ และพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ ในวันที่ 7-8 ก.ค. จากนั้น วันที่ 14 ก.ค. ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดจะเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์มาเก็บรักษาที่กระทรวงมหาดไทยและวันที่ 25 ก.ค.จะมีพิธีเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อทำพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป จึงเชิญชวนประชาชนร่วมแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีในพิธีอันเป็นมงคลและศักดิ์สิทธิ์ ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ วันที่ 7 ก.ค. เวลา 17.09 น. และพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ วันที่ 8 ก.ค. เวลา 12.00 น. ณ วัดใน 76 จังหวัด
ต่อมาในเวลา 18.00 น. วันเดียวกัน ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธีกองทัพเรือ กองทัพเรือจัดพิธีอัญเชิญเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ลงจากคานสู่ท้องน้ำ เพื่อเตรียมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567 ณ วัดอรุณราช วรารามฯ วันที่ 27 ต.ค. โดยมีพิธีจุดธูปเทียนไหว้แม่ย่านางเรือและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนเคลื่อนเรือจากคลองบางกอกน้อยออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาไปเข้าจอดที่อู่หมายเลข 1 อู่ทหารเรือธนบุรี
สำหรับเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช สร้างขึ้นครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนลำปัจจุบันนั้นเป็นเรือสร้างใหม่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โขนเรือปิดทองประดับกระจก เป็นรูปพญาอนันตนาคราช หรือพญานาค 7 เศียร กลางลำเรือทอดบุษบกใช้ประดิษฐานพระพุทธรูปหรือผ้ากฐิน ลำเรือภายนอกทาสีเขียว ท้องเรือภายในทาสีแดง ตัวเรือมีความยาว 44.85 เมตร กว้าง 2.58 เมตร ลึก 1.87 เมตร ใช้กำลังพลรวมจำนวน 72 นาย แยกเป็นกำลังพลประจำเรือ 69 นาย ประกอบด้วย นายเรือ 2 นาย นายท้าย 2 นาย ฝีพาย 54 นาย คนถือธงท้าย 1 นาย พลสัญญาณ 1 นาย คนถือฉัตร 7 นาย คนขานยาว 1 นาย พนักงานเห่เรือ 1 นาย และเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังจำนวน 3 นาย
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 28-29 ก.ค.กองทัพเรือได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญเรือพระที่นั่ง 3 ลำ คือ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช จัดแสดงแบบผูกทุ่นประกอบกาพย์เห่เรือเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567 วันละ 2 รอบ คือ วันที่ 28 ก.ค.เวลา 15.00 น. และ 20.00 น. วันที่ 29 ก.ค. เวลา 17.00 น. และ 20.00 น.พร้อมจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ณ ท่าราชวรดิฐ ส่วนการฝึกซ้อมฝีพายเรือพระราชพิธี จะเริ่มซ้อมย่อยเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา รวม 10 ครั้ง คือ วันที่ 1 ส.ค. วันที่ 8 ส.ค. วันที่ 15 ส.ค. วันที่ 22 ส.ค. วันที่ 3 ก.ย. วันที่ 12 ก.ย. วันที่ 19 ก.ย. วันที่ 26 ก.ย. วันที่ 1 ต.ค. วันที่ 10 ต.ค. จากนั้นเป็นการซ้อมใหญ่ 2 ครั้ง ในวันที่ 15 และ 22 ต.ค. ซ้อมเก็บความเรียบร้อยวันที่ 24 ต.ค. ประชาชนสามารถชมการฝึกซ้อมฝีพายและความงดงามของขบวนเรือพระราชพิธีได้ตลอด 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 8 ถึงวัดอรุณราชวรารามฯ
บรรยายใต้ภาพ
ซ้อมใหญ่ คณะผู้บริหาร กทม.และข้าราชการในสังกัดซ้อมใหญ่พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ และริ้วขบวนเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเทพมหานคร จากหอศาสตราคมในพระบรมมหาราชวังไปยังกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำหนดพิธีจริงจะมีขึ้นในบ่ายวันที่ 13 ก.ค.นี้ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา.
ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 7 ก.ค. 2567