กทม.ตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือไหม้ตรอกโพธิ์เยาวราช วอดยกชุมชน ลามร้านหูฉลาม-โรงแรม-ตึกข้างเคียง สพฐ.ลงพื้นที่เร่งหาสาเหตุ
ไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์เยาวราช
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ เยาวราช มีการระดมรถดับเพลิงเข้าช่วยดับไฟ เพลิงได้ลุกลามเข้าอาคารข้างเคียงเป็นอาคารพาณิชย์สูง 6 ชั้น และ 8 ชั้น ด้านซอยมิตรสัมพันธ์ มีประชาชนเปิดหน้าต่างขอความช่วยเหลือจากภายในโรงแรมข้างเคียง เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือและค้นหาผู้ติดค้างภายในโรงแรมนิวเอ็มไพร์ โดยจัดรถกระเช้าเข้าช่วยเหลือผู้ติดค้างในชั้น 6 คูหาร้านรังนกดัง 2 ราย นำลงมาสู่ที่ปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อเวลา 20.41 น. วันที่ 6 กรกฎาคม สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กรุงเทพมหานคร รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนตรอกโพธิ์ ถนนทรงวาด แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร จึงประสานแจ้งสถานีดับเพลิงและกู้ภัยนำรถดับเพลิงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้ที่พักอาศัยลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ปลูกติดกันหลายหลังเรือนก่อนไฟลุกลามขยายเป็นวงกว้าง เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบรถดับเพลิงไม่สามารถเข้าจุดเกิดเหตุได้ ทาง สปภ.กรุงเทพมหานคร จึงขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยสนับสนุนอีก 17 สถานี รถดับเพลิง 40 คัน และทีม USAR ของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดยาว, ราษฎร์บูรณะ) สนับสนุนที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาควบคุมเพลิงจนถึงเวลา 23.37 น. โดยใช้เวลาร่วมประมาณ 3 ชั่วโมง เพลิงสงบทุกจุดก่อนเข้าตรวจสอบ
ลาม’ชุมชน-ร้านหูฉลาม-โรงแรม’
เบื้องต้นพบต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในชุมชน เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งชุมชน 37 ครัวเรือน บ้านจำนวน 60 หลังคาเรือน ลุกลาม โรงแรมนิวเอ็มไพร์ เลขที่ 572 เสียหายที่ชั้น 4, 5 และชั้นที่ 6 ลุกลามร้านหูฉลามเฉลิมบุรี เลขที่ 540 เสียหายชั้นที่ 4, 5 และลุกลามภัตตาคารไต่เซ็ง เสียหายชั้นที่ 4, 5 พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 1 ไร่ 80 ตารางวา รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ สันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย 1.เพศชาย 1 ราย อาการโดนไฟชอร์ต นำส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว (แอดมิต) 2.เพศชาย 2 ราย อาการสำลักควัน นำส่งโรงพยาบาลกลาง (แอดมิต) 3.เพศชาย 2 ราย อาการสำลักควัน นำส่งโรงพยาบาลตากสิน และโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ รักษาอาการ (กลับบ้าน)
‘ชัชชาติ’ชี้พื้นที่เกิดเหตุแคบ
เมื่อเวลา 07.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถ่ายทอดสดผ่าน เฟซบุ๊กจากชั้น 5 ของโรงแรมโพธิ์เพลส ขณะลงพื้นที่ย่านเยาวราชหลังเหตุไฟไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์เมื่อคืนวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา
นายชัชชาติกล่าวว่า ลงพื้นที่ตั้งแต่ราวเที่ยงคืนของคืนเกิดเหตุ กลับออกไปเมื่อเวลาราว 02.00 น. ชุมชนตรอกโพธิ์ล้อมรอบด้วยตึกแถวและอาคารต่างๆ ไม่น่าเชื่อว่าอยู่กลางเยาวราช ประกอบด้วยเวิ้งที่มีบ้านเช่า 1-2 ชั้น เมื่อเกิดเพลิงไหม้การเข้าถึงยากมาก เพราะโดนล้อมด้วยตึก ทางเข้าบางจุดต้องเดินผ่านครัวของห้องแถว
“เมื่อไฟไหม้ก็ลามขึ้นไปบนตึกข้างเคียง มี 6 ชั้นตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย มาเยาวราชน้อยคนจะเห็นชุมชนนี้ คนในชุมชนคือคนเก่าแก่บ้าง คนที่มาเช่าบ้านอยู่บ้าง คนทำงานบ้าง ผู้ได้รับผลกระทบจากไฟไหม้มี 3 ส่วน คือ คนในชุมชน คนต่างชาติเข้ามาทำงาน เช่น ชาวเมียนมา ลาว กัมพูชาและคนในตึกข้างเคียง มีร้านสุกี้ร้านหนึ่งอยู่มานาน 40 ปี โดนไหม้ไปด้วย รวมถึง รพ.เทียนฟ้ามูลนิธิ มีผู้สูงอายุอยู่เยอะ ตัวอาคารไม่ไหม้ แต่ควันจากชุมชนที่ไหม้ลอยเข้าไปใน รพ. จึงต้องย้ายคนป่วยทั้งหมด 26 คน ไปอยู่วัดไตรมิตรฯ เช้านี้ย้ายกลับมาแล้ว” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวถึงประปาหัวแดง (หัวจ่ายดับเพลิง) บริเวณชุมชน โดยระบุถึงอุปสรรคว่า พื้นที่คับแคบ เมื่อรถดับเพลิงมาถึงต้องเรียงคิวกัน สำหรับผู้ประสบภัยส่วนใหญ่ในขณะนี้พักอยู่ที่วัดสัมพันธวงศ์
จัด’จุดพักพิง’ผู้ประสบภัย4จุด
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) บูรณาการร่วมกับ สปภ.กรุงเทพมหานครและทุกภาคส่วนเร่งเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตั้งแต่เมื่อคืนวันเกิดเหตุผ่านมาจนควบคุมเหตุการณ์ได้ ผบ.ตร.ยังกำชับให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ดูแลอำนวยความสะดวกช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติ จัดพนักงานสอบสวนไปช่วยเหลือสอบสวนปากคำพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ให้เกิดความสะดวกทางคดี และให้กองพิสูจน์หลักฐานเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุต่อไปพร้อมตรวจดูเรื่องความปลอดภัยของอาคารความเสียหายที่เกิดขึ้นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบภัย เบื้องต้นพบว่าประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อนจากเพลิงไหม้มาลงทะเบียนผู้ประสบภัยกับเขตสัมพันธวงศ์ 264 คน มีการจัดจุดพักพิงสำหรับผู้ประสบภัย 4 จุด ได้แก่ 1.วัดสัมพันธวงศ์ 2.วัดชัยชนะสงคราม 3.วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร และ 4.ห้องประชุมโรงเรียนวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ทาง ผบ.ตร.กำชับตำรวจจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจดูแลเรื่องความปลอดภัย และช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่จราจรดูแลการจราจรรอบพื้นที่เกิดเหตุ จุดพักพิงต่างๆ ให้แก่พี่น้องประชาชนที่ประสบภัย
นายกฯสั่งเร่งให้ความช่วยเหลือ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับทราบและสั่งการดูแลความปลอดภัยประชาชนบริเวณตรอกโพธิ์ เยาวราช ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยได้สั่งการดับไฟ ช่วยเหลือผู้ติดค้าง พร้อมสั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับผลกระทบทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างดี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ขณะนี้เมื่อควบคุมเพลิงได้แล้ว นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเข้าดูแลช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ควบคุมสถานการณ์ ประเมินความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บและประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
กทม.ตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือ
วันเดียวกัน พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่กองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนตรอกโพธิ์ เยาวราช โดยมี พล.ร.อ.คณีพล สงเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน นายวัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ พร้อมผู้บริหารสำนักพัฒนาสังคม ผู้บริหารเขตสัมพันธวงศ์ ร่วมลงพื้นที่ ณ วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) ถนนทรงสวัสดิ์ เขตสัมพันธวงศ์
ปลัดกรุงเทพมหานครเปิดเผยว่า เบื้องต้นได้วิเคราะห์สถานการณ์ในภาพรวม เพื่อเตรียมจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยและรับบริจาคสิ่งของ ณ วัดสัมพันธวงศ์ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักอนามัย สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน อยู่ในพื้นที่ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีผู้ประสบภัย 44 หลังคาเรือน 166 ราย ได้รับผลกระทบสภาพบ้านพังเสียหาย พม.อยู่ระหว่างสำรวจข้อมูลเพิ่มเติม และประชุมเพื่อสรุปผลการช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประสานสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์เพื่อให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนถึงสาเหตุเพลิงไหม้ และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์อยู่ระหว่างลงทะเบียนผู้ประสบภัยเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น
รับบริจาคสิ่งของช่วยผู้ประสบภัย
พญ.วันทนีย์กล่าวว่า นอกจากนี้ได้จัดตั้งครัวพระราชทานและเปิดรับบริจาคสิ่งของเครื่องอุปโภคและบริโภค ณ ศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยบริเวณวัดสัมพันธวงศ์ กทม.กำลังจัดระเบียบของบริจาคและเตรียมจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย เบื้องต้นอยู่ระหว่างแยกที่พักเป็นหญิง ชาย และครอบครัวให้เป็นสัดส่วน เร่งจัดหาพัดลมเพิ่ม มีศูนย์สาธารณสุข 13 มาช่วยการรักษาพยาบาล กทม.กำลังประเมินถึงความเพียงพอของห้องน้ำและสุขา เตรียมพร้อมจัดหาสุขาเคลื่อนที่เสริมกรณีห้องสุขาวัดสัมพันธวงศ์ไม่เพียงพอ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มากที่สุด โดยคำนึงถึงว่าทุกคนคือผู้ประสบภัย ผู้ประสงค์จะบริจาคอาหาร น้ำดื่ม สิ่งของ เครื่องอุปโภคและบริโภค สามารถนำสิ่งของมาบริจาคได้ที่จุดรับบริจาค ณ วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) ตลอด 24 ชั่วโมง ติดตามรายละเอียดได้ที่เฟซบุ๊กเพจสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ หรือโทร 08-0535-1929 โดยของดรับบริจาคเสื้อผ้า เนื่องจากมีหน่วยงานบริจาคเพียงพอแล้ว
สพฐ.-วิศวกรรมสถานตรวจพื้นที่
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร โฆษก สพฐ. และ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร พร้อมพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 2 ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ดร.ธเนศกล่าวว่า มาในฐานะที่ปรึกษาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จากการตรวจสอบเบื้องต้นเรื่องของโครงสร้างอาคารมีความเสียหายใน 2 ส่วน คือโครงสร้างเป็นไม้ถูกเผาไหม้เกือบหมด ลักษณะไม้มีความอุ้มน้ำจึงค่อนข้างเป็นอันตรายหากเข้าไปในพื้นที่ ส่วนที่ 2 คือโครงสร้างเป็นอาคารปูนตรวจสอบเบื้องต้นมีการหลุดลอกของแผ่นผนังความแตกร้าวยังเห็นไม่ชัดเจน คานยังไม่ได้มีความแอ่นหรือความโปร่งพอง จึงอาจต้องมีการประเมินอย่างละเอียดซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากตัวอาคารค่อนข้างมีอายุมากแล้วแต่เบื้องต้นขอความร่วมมือประชาชนผู้ประสบภัยไม่ให้เข้าพื้นที่
สอบพยานหาหลักฐานจุดไหม้
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุกว่า 1 ชั่วโมง ว่า เบื้องต้นพบที่เกิดเหตุเป็นบ้านเรือนปลูกติดกันมีทั้งบ้านเรือนที่เป็นโครงสร้างไม้และปูนกับไม้ ส่วนจุดต้นเพลิงพอสันนิษฐานลงและสโคปแคบลงแล้ว ทั้งการสอบปากคำพยานที่เป็นนักท่องเที่ยวถ่ายคลิปวิดีโอไว้กำลังติดตามและเชิญมาให้ข้อมูล ยังไม่แน่ชัดว่าเดินทางกลับประเทศแล้วหรือไม่ แต่ไปตรวจสอบในจุดเดียวกันและเก็บพยานหลักฐานจุดที่มีการเผาไหม้สมบูรณ์ มีความเสียหายเยอะที่สุด เชื่อว่าบริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นจุดต้นเพลิง แต่เนื่องจากโครงสร้าง ไม่แข็งแรงและจุดที่คาดคะเนไว้ว่าเป็นจุดต้นเพลิงมีเศษซากปรักหักพังทับถมอยู่จำนวนมากต้องเข้าไปตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานชุดเกิดเหตุและตรวจเคมีฟิสิกส์ มาเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าและเก็บข้อมูลไปส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนจุดที่คาดว่าเป็นจุดต้นเพลิงต้องขอเข้ามาเก็บหลักฐานอีกครั้งเพื่อให้ทราบสาเหตุที่แท้จริง
บินโดรนหาจุดบ้านต้นเพลิง
ส่วนที่มีรายงานว่าจุดต้นเพลิงเป็นร้านขนมที่มีการต่อเติมนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่ที่มีการสโคปไว้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดว่าเป็นหลังไหน แต่สามารถจำกัดพื้นที่ที่มีประมาณ 3-4 หลัง จึงต้องรอตรวจสอบก่อน โดยเฉพาะรอให้ตำรวจหรือกู้ภัยรื้อซากพังทับถมออกมาดูก่อน โดยจะนัดหมายกับทาง บก.น.6 อีกครั้งว่าจะเข้ามารื้อวันไหน ทาง สพฐ.จะเข้ามาในเวลาเดียวกันจะเก็บพยานหลักฐานอีกชั้นหนึ่งว่าบ้านหลังไหนเป็นต้นเพลิงจริง ส่วนด้านในขณะที่เจ้าหน้าที่จัดเก็บหลักฐานและบินโดรนอยู่นั้น จุดที่ยืนอยู่มีพื้นไม้และมีควันปะทุขึ้นมา เพราะสภาพอากาศร้อนมีลมและอากาศถ่ายเทเข้ามาทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องฉีดน้ำดับอีกครั้งและ สพฐ.ก็ออกมาก่อน
บางจุดยังมีควันไฟปะทุ
พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า ส่วนสาเหตุนั้น เนื่องจากจุดที่เชื่อว่าเป็นจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณหนึ่งมีจำนวนหลายหลังจึงยังระบุชัดเจนไม่ได้ ส่วนในพื้นที่จะอนุญาตให้ประชาชนเข้าไปได้หรือไม่ เพราะบางคนเป็นห่วงเรื่องทรัพย์สินนั้นต้องให้ตำรวจท้องที่และทางกรุงเทพมหานครประเมินความปลอดภัยก่อน เพราะบางจุดมีควันไฟปะทุขึ้นมา ตรงนี้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างและเศษซากอาคารที่เหลืออยู่ ทาง สพฐ.จะรีบเข้ามาจัดเก็บพยานหลักฐานโดยเร็วเพื่อจะส่งมอบพื้นที่ให้พนักงานสอบสวนและประชาชน ต่อไปตอนนี้ยังสันนิษฐานไม่ได้ว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือความประมาท เพราะจุดต้นเพลิงยังได้แค่การคาดคะเน ต้องรอการตรวจสอบเพราะมี 3-5 หลังที่ยังเข้าไม่ได้ เพียงแต่วันนี้จำกัดพื้นที่จุดต้นเพลิงให้แคบลงเท่านั้น และยังเข้าไปจัดเก็บหลักฐานบริเวณดังกล่าวไม่ได้ แต่ตรวจสอบพื้นที่รอบๆ ก็พบตู้เบรกเกอร์ หรือตู้ควบคุมแผงวงจรไฟฟ้าพบว่ายังปกติอยู่ จึงยืนยันได้ว่าจุดต้นเพลิงยังเข้าไปไม่ถึง ส่วนที่มีข่าวว่าคนที่อยู่ด้านในมีการเตือนกันว่าห้าม พูด เพราะอาจถูกดำเนินคดีนั้น เรื่องนี้เป็นหน้าที่ฝ่ายสืบสวนว่าจะหาพยานบุคคลมายืนยันได้อย่างไร
เร่งช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ
นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้มอบหมาย นายสนธยา กาลาศรี ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน นายไชยพร พุ่มผลึก ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 8 และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติที่ได้รับผล กระทบ
“จากการสอบถามแรงงานข้ามชาติ ทราบว่า เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวได้ไหม้ที่พักอาศัย (ห้องเช่า) ทำให้ทรัพย์สินและเอกสารเสียหาย ขณะเดียวกัน มีแรงงานข้ามชาติลงทะเบียนขอความช่วยเหลือ ณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย วัดสัมพันธวงศ์ ประมาณ 150 คน ประกอบด้วย ลาว 100 คน และเมียนมา 50 คน ส่วนใหญ่มีเอกสารหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงานถูกต้อง แต่มีบางส่วนเอกสารยังอยู่ในห้องพักถูกไฟไหม้ แรงงานข้ามชาติเดือดร้อนกลุ่มนี้ ยังจำเป็นต้องมีเอกสารใบอนุญาตทำงานเพื่อทำงานอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป” นายสมชายกล่าว และว่า กกจ.จะอำนวยความสะดวกโดยรับลงทะเบียนและออกใบแทนใบอนุญาตทำงาน กรณีเอกสารสูญหายหรือถูกไฟไหม้ให้ ณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยวัดสัมพันธวงศ์ แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป สำหรับนายจ้างและแรงงานข้ามชาติที่ได้รับความเดือดร้อนต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร 1694 หรือที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 8 โทร 0-2221-7315, 0-2221-7316
ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 8 ก.ค. 2567