เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ส่งหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เรื่องข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตการดำเนินโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่าอาจมีความไม่โปร่งใสจำนวน 4 โครงการ ทั้งโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยแบบอัดขนาด 2 ตัน จำนวน 152 คัน, โครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยแบบอัดขนาด 5 ตันจำนวน 464 คัน, โครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอย แบบยกภาชนะรองรับมูลฝอยขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 102 คัน, และโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยแบบยกภาชนะรองรับมูลฝอยขนาด 8 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 124 คัน รวมทั้งสิ้น 842 คัน มูลค่าโครงการ 3,993,761,464 บาท นั้น
ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า กทม.ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับทาง ป.ป.ช.มาโดยตลอด ต้องขอขอบคุณ ป.ป.ช.ที่ให้ความสำคัญกับโครงการดังกล่าวเป็นอย่างมาก และโครงการดังกล่าวยังสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการให้หน่วยงานรัฐมีการเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาป (เครื่องยนต์ดีเซล) เป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
นายชัชชาติกล่าวว่า ป.ป.ช.มีการตั้งข้อทักท้วงมาถึง กทม.ใน 3 เรื่อง เรื่องแรกไม่มีการระบุรายละเอียดในงบประมาณปี 2566 ว่าเป็นรถไฟฟ้า ซึ่งนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. จึงได้ทำเรื่องใหม่ในร่างงบประมาณปี 2568 โดยระบุให้เป็นรถไฟฟ้าอย่างเดียว เรื่องที่สองข้อกังวลในร่างการประกวดราคา (TOR) ที่จะไม่มีการเปิดกว้าง หรือเอื้อประโยชน์ต่อผู้รับเหมาเอกชนรายใดรายหนึ่ง ยืนยันว่า กทม.มีการดำเนินการประกวดราคาแบบโปร่งใส และตรวจสอบได้ เรื่องที่สาม ความพร้อม อุปกรณ์ และจุดชาร์จนั้น กทม.ได้รับความร่วมมือจากการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ในการจัดตั้งจุดชาร์จให้ โดย กทม.ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ พร้อมน้อมรับฟังทุกข้อเสนอ ข้อสังเกต เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างรอบคอบ และปลอดการทุจริต
ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 4 ก.ค. 2567