ณ อุโมงค์หน้าพระลาน เขตพระนคร นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. เผยถึงกิจกรรม “ยุวมัคคุเทศก์” (Phra Nakhon Young Guide) ว่า การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญและต้องมีการพัฒนา จากการวิจัยเกี่ยวกับ Social Mobility (การขยับสถานะทางสังคม) พบว่าการจะทำให้คนจนที่สุดไม่ว่าจะเป็นที่ไหน หลุดออกจากความยากจนได้ต้องพัฒนาด้าน การศึกษา ประเทศที่เจริญแล้วใช้ 4.5 รุ่น ซึ่งหมายความว่าต้องมีครอบครัว 5 รุ่น ถึงจะหลุดจากการเป็นคนที่จนที่สุด
ขณะที่ไทยใช้ 11 รุ่น คนที่จนที่สุดถึงจะหลุดจากความยากจนได้ด้วยการศึกษา ดังนั้น หน้าที่ กทม. คือต้องทำให้ดีขึ้น ที่ผ่านมามีการพัฒนาการศึกษาของ กทม. อาทิ การมีโรงเรียนสองภาษา แต่การเรียนแล้วไม่นำไปใช้ก็ไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งโรงเรียนบางแห่งของ กทม. มีการปรับหลักสูตร ลดเวลาเรียนวิชาการ และเพิ่มเติมการเรียนวิชาชีวิตให้นักเรียน นำความรู้มาทดลองใช้
“สำหรับพื้นที่อุโมงค์หน้า พระลานและบริเวณโดยรอบนี้มีนักท่องเที่ยวประมาณ 3 หมื่นคนต่อวัน เป็นโอกาสให้เด็กเรียนรู้และทดลองพูดภาษาจีน-ภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษา ผ่านกิจกรรมยุวมัคคุเทศก์”ทั้งนี้ กทม. โดยเขตพระนคร เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนานักเรียน โดยเฉพาะทักษะการสื่อสารภาษาต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่นักเรียนจะใช้ต่อยอดเรียนรู้และพัฒนาตัวเองในอนาคต ประกอบกับเขตพระนคร เป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยว ทั่วโลกเดินทางมาเป็นจำนวนมาก เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งเชิงศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์อย่าง วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง ศาลหลักเมือง พิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติ เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมมีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม. พื้นที่เขตพระนครทั้ง 11 แห่ง มีโอกาสพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาต่างประเทศ จากการพูดคุยแลกเปลี่ยนจริงกับชาวต่างชาติ รู้จักการปรับใช้ในสถานการณ์จริง เป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยยุวมัคคุเทศก์จะจัดกิจกรรมทุกวันศุกร์ เวลา 09.00-10.00 น. เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค.-ส.ค 67 ระยะเวลา 2 เดือน ณ บริเวณอุโมงค์หน้าพระลาน ท่าเรือท่าช้าง และวัดโพธิ์.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 28 มิ.ย. 2567
