ขยายผลจากรายย่อยตัดวงจรชุมชนค้นเสพส่งบำบัด
ที่ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกทม. นายสุนทร สุนทรชาติ ผอ.สำนักอนามัย นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.ป.ป.ส.กทม. และนายประเทือง ดีใจ ผอ.เขตดินแดง ร่วมปล่อยแถวในยุทธการ “ปฏิบัติการเด็ดปีก นักค้า รักษาผู้เสพ สร้างชุมชนปลอดภัยยาเสพติด ครั้งที่ 6/2567” ภายใต้แผนปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน 3 เดือน (มิ.ย.-ส.ค.67)
พล.ต.ท.อัคราเดช ระบุ ยุทธการเด็ดปีกนักค้าได้ดำเนินการต่อเนื่องตลอดทั้งปีที่ผ่านมา โดยเน้นต่อสู้นักค้าระดับขายส่งและแพร่ระบาด เพื่อตัดวงจรออกจากชุมชน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อยู่ใกล้กับคนในชุมชนหมู่บ้านมาก ทั้งนี้ ได้ให้นโยบายชุดปฏิบัติการให้ขยายผลนักค้ารายย่อยทุกคดี และพบตัวการที่เหนือขึ้นไปในลักษณะเครือข่ายระดับพื้นที่ กทม. 52 เครือข่าย
ทั้งนี้ ถือเป็นปฏิบัติการครั้งที่ 6 ดำเนินการระหว่างวันที่ 20-27 มิ.ย. เป้าหมายปราบปรามจับกุมและยึดอายัดทรัพย์สิน เพื่อตรวจสอบไปจนถึงกวาดล้างแหล่งพัก แหล่งมั่วสุม และค้นหาผู้เสพ ผู้ติด และผู้ป่วยอาการทางจิตเวช นำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาแบบสมัครใจ เพื่อให้ชุมชนปลอดภัย
สำหรับผลปฏิบัติการล่าสุด สามารถจับกุมคดียาเสพติด รวม 266 คดี ผู้ต้องหา 276 คน แบ่งเป็น ข้อหาร้ายแรง 119 คดี (จำหน่าย 28 คดี, ครอบครอง 89 คดี และสมคบ/สนับสนุน 2 คดี) ข้อหาไม่ร้ายแรง 171 คดี (ครอบครองเพื่อเสพ 30 คดี และเสพ 141 คดี) ของกลาง ไอซ์ 800 กรัม, ยาบ้า 13,131 เม็ด, ยาอี 45,398 เม็ด, เฮโรอีน 400 กรัม, คีตามีน 150 กรัม, อาวุธปืน 4 กระบอก, เครื่องกระสุน 21 นัด ยึดอายัดทรัพย์สินไว้มูลค่า 1,366,600 บาท และนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู รวม 87 ราย
ในส่วนผู้เสพ พล.ต.ท.อัคราเดช เผยว่า ได้นำไปบำบัดรักษาที่ชุมชนบ้านแบบ แขวงยานนาวา เขตสาทร ซึ่งจัดตั้งสถานี หรือหน่วยคัดกรองเคลื่อนที่ ประเมินอาการ จนถึงสถานีการให้บริการด้านสุขภาพ การจัดหางานและทุนประกอบอาชีพ โดย ขั้นตอนของหน่วยคัดกรองมีการประเมินและปฏิบัติในฐานะผู้ป่วย และส่งต่อสถานพยาบาลตามระดับอาการ
“หากเป็นผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตเวชจะถูกส่งไปรักษาที่ รพ.สังกัดกรมสุขภาพจิต และทุกรายหากผ่านขั้นตอนการรักษา จะเข้าสู่ขั้นตอนฟื้นฟูและติดตามช่วยเหลือในด้านสวัสดิการและการส่งเสริมอาชีพ”
อย่างไรก็ตาม โอกาสนี้มีเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาระหว่างผู้บริหารของสำนักอนามัย และ ป.ป.ส.กทม. พร้อมให้กำลังใจผู้ป่วยจิตเวช และผู้ เสพยาเสพติดในการเข้าสู่กระบวนการบำบัด ร่วมพูดคุยกับครอบครัว คนรอบข้าง โดยย้ำถึงความสำคัญในการได้รับกำลังใจจากคนรอบตัวและการให้โอกาสจากชุมชนจะเป็นแรงสนับสนุนให้ผู้ป่วยจากการเสพต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง และหลุดพ้นจากวงจร พร้อมมอบทุนประกอบอาชีพแก่ผู้ผ่านการบำบัด 2 ราย นำไปประกอบอาชีพขายหมูปิ้ง น้ำแข็งใส และอาชีพซ่อมรถจักรยานยนต์.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 28 มิ.ย. 2567
