เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2567 ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครสมัยประชุมวิสามัญ(ครั้งที่ 1)ประจำปี 2567 มีมติเลือกนายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.)เขตลาดกระบัง เป็นประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่ 24
นายสุรจิตต์ มีชื่อเล่น “จอห์น” หรือที่เรียกติดปากว่า “ดร.จอห์น” เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ปี 2565 ลงสนามเลือกตั้ง ส.ก.สมัยแรกได้รับคะแนนเป็นอันดับ 1 จำนวน 38,130 คะแนนคิดเป็น 51% จากผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 69% สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่การเลือกตั้ง ส.ก.
จุดเริ่มต้นเส้นทางการเมือง
ดร.จอห์นเล่าว่าหลังเรียนจบปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ต่อปริญญาโท Engineering Management ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์และปริญญาเอก Professional Doctorates Central Queensland University ประเทศออสเตรเลีย ตั้งใจกลับมาเปิดสถานศึกษาแต่ได้รับการชักชวนจาก สส.อิ่ม ดร.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ลงสมัครเลือกตั้งสมัยแรกขอให้มาช่วยงานการเมือง กระทั่งปี 2556 ผมได้เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งเขตลาดกระบัง ซึ่งเป็นเขตเดียวที่มีการเลือกตั้งครบทุกหน่วย จึงเป็นที่มาของคำว่า “ลาดกระบังโมเดล” ต่อมามีโอกาสลงสมัคร ส.ก.แต่เกิดการปฏิวัติไม่ได้สมัครจึงกลับไปทำธุรกิจส่วนตัว
ปี 2561 กลับมาช่วย สส.อิ่ม ลุยศึกเลือกตั้งสมัยที่ 2 คนเริ่มรู้จักผมมากขึ้นเสียงตอบรับดีมากทำให้เกิด “Passion” มุ่งสู่เส้นทางการเมืองทั้งที่ไม่มีความรู้ด้านการเมืองมาก่อนและช่วงที่มีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ได้ให้การช่วยเหลือคนทุกรูปแบบโดยเขตลาดกระบังเป็นหนึ่งในเขตแรกที่มีรถรับ-ส่งผู้ป่วย ผมออกไปตรวจโควิดให้คนถึงบ้าน ส่งยา อาหารแห้ง จัดตั้งศูนย์พักพิงผู้ป่วยฯลฯ จนได้รับฉายา “จอห์นมาปัญหาหมด” ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมตั้งใจทำมาโดยตลอดเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ผมมาถึงจุดนี้ได้และด้วยสไตล์การทำงานเชิงรุก พร้อมเสนอทางแก้การอภิปรายในสภาเยอะมาก จนสื่อมวลชนมอบฉายาให้เป็น “ดาวสภา” กระทั่งได้รับความไว้วางใจจากพรรคส่งชื่อแคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานสภากรุงเทพมหานครสมัยนี้
สานต่อนโยบายเดิมะผลักดันนโยบายใหม่
สำหรับแนวทางการทำงาน ผมพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานสภากรุงเทพมหานคร โดยจะแก้ไขเรื่องที่ยังไม่สำเร็จในสมัยที่ผ่านมา อาทิ เรื่องเงินคงค้าง การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการการสร้างความสัมพันธ์สภาบ้านพี่เมืองน้องเพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นที่รู้จักของต่างชาติมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายในช่วง 2 ปี จะประสานทำ MOU เมืองต่างๆอย่างน้อย 5-6 ประเทศในโซนยุโรป เช่น อังกฤษ สเปน อเมริกา ออสเตรเลีย เป็นต้น พร้อมผลักดันนโยบายใหม่ๆ เช่น โรงเรียนดนตรี การขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ตามนโยบายของรัฐบาลด้านการทำอาหารในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 437 โรงเรียน และเปิดให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจมาเรียนเพื่อพัฒนาต่อยอดสร้างอาชีพรวมทั้งผลักดันกีฬามวยไทยบรรจุในหลักสูตรวิชาทางเลือกมีเป้าหมายจะทำ MOU สนามมวยชื่อดังร่วมฝึกซ้อมพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ เป็นต้น
ต้านทุจริตเน้นความโปร่งใสตรวจสอบได้ทุกมิติ
นอกจากนี้จะร่วมกับฝ่ายบริหารแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆในการทำงานร่วมกันจะเน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกมิติสิ่งสำคัญขอให้ฝ่ายบริหารมีคำสั่งแนวดิ่งถึงทุกหน่วยงานให้ตรวจสอบโครงการที่จะเสนอต่อสภากรุงเทพมหานคร ต้องมีความถูกต้องชัดเจน ชี้แจงได้ เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตและเป็นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่ามากที่สุดเรื่องการตั้งผู้อำนวยการเขตขอให้พิจารณาคนที่มีอายุราชการมากขึ้นมี Passion ในการทำงานดูแลประชาชนไม่ควรตั้งคนใกล้เกษียณเพราะอาจทำให้การทำงานขาดความต่อเนื่อง
ส่วนการทำงานร่วมกับ ส.ก.มาจาก 4-5 พรรค ไม่น่ามีปัญหาเพราะมีเป้าหมายเดียวกันคือการดูแลประชาชนให้ “อยู่ดีกินดี” อีกทั้งสอดคล้องนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเน้นการดูแลเส้นเลือดฝอยเห็นได้จากการทุ่มงบประมาณแก้ไขปัญหาถนนในชุมชนจากเดิมวงเงิน 10 ล้านบาท เพิ่มเป็น 100 ล้านบาท และทำได้เร็วขึ้นแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนมากขึ้นเพราะท้ายสุดผลประโยชน์จะตกอยู่ที่ประชาชน
เปิดทุกช่องทางรับฟังเสียงประชาชน
“ดร.จอห์น” ย้ำว่าผมเป็น ส.ก. สมัยแรกและขึ้นสู่ตำแหน่งประธานสภากรุงเทพมหานครไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พร้อมทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อพัฒนาให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคนเปิดกว้างรับฟังทุกปัญหาผ่านทุกช่องทาง ทั้ง facebook ดร.จอห์น พงษ์สิงห์วิทยา โทรศัพท์หมายเลข 08-1413-4999 หรือติดต่อที่สภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง ผมยินดีต้อนรับทุกคนครับหากสิ่งใดแก้ไขได้จะทำทันทีหากไม่ได้จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด
ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 26 มิ.ย. 2567