นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผอ.สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างผังเมืองรวมกทม. (ปรับปรุงครั้งที่ 4) ว่า ให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และที่ผ่านมาได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนและหลังจากมีร่างผังเมืองรวมฯ รวม 7 ครั้ง เพื่อให้ทั่วถึงและครอบคลุมทุกภาคส่วนที่สุด ซึ่งพบว่าประชาชนมีความเห็นหลากหลายทั้งเห็นด้วยและคัดค้าน แต่จะทำปัญหาและอุปสรรคทั้งหมดไปเสนอต่อคณะกรรมการที่ปรึกษาผังเมืองรวม กทม. ซึ่งมีผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมเห็นควรให้ขยายเวลารับฟังความคิดประชาชนไปจนถึงวันที่ 30 ส.ค.นี้ และจัดประชุมรับฟังความเห็นเพิ่มเติมรายเขต 50 เขต ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ส.ค. ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ เพื่อเปิดโอกาสให้แต่ละเขตได้ทราบข้อมูลการปรับเปลี่ยนผังเมืองรวมรายเขตของตนเองอย่างละเอียดทั้งด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ดี
รวมถึงรับฟังผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกัน และปรับปรุงร่างให้สอดคล้องกับความต้องการ เบื้องต้นจัดประชุมรายเขตไปแล้ว 21 เขต จะครบทั้ง 50 เขตในเดือน ส.ค.นี้
สำหรับร่างผังเมืองรวมฯ ที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ จัดทำขึ้นตามหลักวิชาการทางผังเมือง เพื่อชี้นำการพัฒนาเมืองและบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้ทุกคนมีความปลอดภัย (Public Safety) มีสุขอนามัย (Public Health) และมีสวัสดิภาพของสังคม (Public Welfare)
ทั้งนี้ ในขั้นตอนการพิจารณาความคิดเห็นของประชาชนและขั้นตอนการพิจารณาคำร้องของผู้มีส่วนได้เสียที่มีต่อร่างผังเมืองรวมฯ จะต้องผ่านการพิจารณาของหน่วยงานและคณะกรรมการที่กลั่นกรองหลายชุดไม่ได้ดำเนินการเพียงลำพังโดยสำนักการวางผังฯ โดยคณะกรรมการจะพิจารณาตามหลักวิชาการและยึดประโยชน์สาธารณะ ซึ่ง กทม.ในฐานะเป็นหน่วยงานท้องถิ่น ผู้วางและจัดทำผังเมืองรวมฯ มีหน้าที่รวบรวมความคิดเห็นประชาชนมาพิจารณาปรับปรุงเพื่อพิจารณาตามขั้นตอนกฎหมาย.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 13 มิ.ย. 2567 (กรอบบ่าย)