‘ชัชชาติ’รับซื้อแพงกว่าปกติ ลั่นถ้าโกงต้องมีคนรับผิด

ผู้จัดการรายวัน 360 – “ชัชชาติ” ผู้ว่าฯ กทม. แจงงบประมาณจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพงเกินจริง ระบุเป็นโครงการสั่งซื้อปี 65 ยึดราคากลางเดิม ก่อนเข้ามาบริหาร แต่ไม่เกี่ยวผู้ว่าฯ คนก่อน ลั่นหากทุจริตต้องมีคนรับผิดชอบ

วานนี้ (6 มิ.ย.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและตัวแทนจาก ACTAi (แอคเอไอ) ร่วมกันแถลงข่าวกระบวนการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายในสวนกีฬาฯ กทม. หลังมีการเปิดเผยข้อมูลว่าว่า เครื่องกีฬาในศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ และศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ ที่มีการ จัดซื้อด้วยงบประมาณเกือบ 10 ล้านบาท นั้นสูงเกินจริง

นายชัชชาติ กล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่องเมื่อวันอาทิตย์ขณะไปประชุมผู้ว่าฯ โลกที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ก่อนหน้านั้นมีข้อมูลว่า 2 เดือนก่อน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้สุ่มตรวจ ก่อนทักท้วงโครงการดังกล่าวว่า อาจมีความผิดปกติ ซึ่งเบื้องต้นได้ส่งเอกสารชี้แจงไปแล้ว

เมื่อถามว่ายอมรับใช่ไหมว่า ราคาการ จัดซื้อสูงกว่าปกติ นายชัชชาติ กล่าวว่า ถ้าดูจากกระแสก็ซื้อในราคาสูงกว่าปกติ แต่หากดูตามกระบวนการเบื้องต้นก็เป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้าง ปี 2560 มีการทำทีโออาร์ ผ่านกระบวนการ e-bidding เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม กทม.ได้มีการตั้งคณะกรรมการป้องกันการทุจริต (คปท.) เข้ามาตรวจสอบ ทำงานคู่ขนานกันกับการตรวจสอบของ สตง.

“ยอมรับว่า เรื่องที่ไม่โปร่งใสอยู่บ้าง แต่ก็พร้อมจะตรวจสอบและปรับปรุง ถ้าอธิบายไม่ได้ ก็ต้องมีคนรับผิดชอบหากพบว่า มีการทุจริตจะดำเนินการตามกฎหมายเต็มที่ และยืนยันว่าผมโปร่งใส เหมือนตอนนี้ยืนแก้ผ้าให้ดูได้เลย” นายชัชชาติ ระบุ

ส่วนการป้องกันการทุจริตของ กทม. นายชัชชาติ บอกว่า เป็นลักษณะ 4+1 โดยแยกส่วนทำงานฝ่ายบริหาร ข้าราชการประจำ และสภา กทม. อันดับแรกคือ เรื่องร่างบัญญัติงบประมาณ ต่อมาจะเข้าสู่สภา กทม.โดยมี คณะกรรมการ 50 คน ช่วยกันตรวจสอบ ก่อนที่ต่อมาจะใช้ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างปี 2560 ในการตั้งราคากลาง ท้ายที่สุดจะเข้าสู่การตรวจสอบโดยภาคเอกชน ผ่าน ACTAi ที่ให้ประชาชนร่วมกันตรวจสอบ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะตรวจสอบโครงการอื่นด้วย

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่า กทม. กล่าวเสริมว่า ถ้าดูข้อมูลจาก ACTAi พบว่า ผู้ชนะการประกวดราคา มีการทำงานร่วมกับ กทม.มาก่อนแล้ว อย่างโครงการเครื่องออกกำลังกายก็มีการเสนอราคาตั้งแต่ปี มี.ค. 2565 ซึ่งเป็นผู้บริหารชุดก่อน ราคาลู่วิ่งอยู่ที่ประมาณ 6 แสนบาท ในตอนนั้น และมีการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่ 2565 ก่อนที่คณะบริหารชุดปัจจุบันจะเข้ามาทำงานในเดือน มิ.ย.2565 ก่อนทำการจัดซื้อจัดจ้างปี 2565 ในส่วนของเรื่องราคา กทม. ไม่ได้เป็นผู้กำหนดราคากลาง ส่วนใหญ่จะนำราคาที่เคยซื้อมาแล้วในครั้งก่อนมาตั้งเป็นฐาน

“แม้จะมีการตั้งโครงการช่วงปี 2565 แต่การจัดซื้อฯ ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับผู้ว่าฯ คนก่อน เพราะการดำเนินการต่างๆ และงบประมาณที่ใช้ในการจัดซื้อเป็นงบประมาณปี 2566” นายศานนท์ ระบุ

นายสมบูรณ์ หอมนาน รองปลัด กทม. อธิบายเพิ่มเติมในส่วนของการสืบราคาว่า กระบวนการสืบราคาเป็นไปตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างปี 2560 ได้บัญญัติไว้ว่า ต้องสำรวจราคาตามท้องตลาด ไม่น้อยกว่า 3 บริษัท จากนั้นมีคณะกรรมการกำหนดราคากลาง ในแต่ละรายการจัดซื้อ ซึ่งแต่งตั้งตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ และตัวบุคคล แต่ละโครงการสลับหมุนเวียนกันไป แต่ทั้งนี้หากตรวจสอบพบการกระทำผิด หรือการทุจริตจริง ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายไม่มีละเว้น.

ที่มา:  นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 7 มิ.ย. 2567