เขตมีนบุรี ร่วมมือโลตัส จัดโครงการกินได้ไม่ทิ้งกัน x ไม่เทรวม เดินหน้าลดขยะประเภทอาหาร นำอาหารแจกจ่ายพนักงานภาคสนาม

นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการ เขตมีนบุรี จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ ลงพื้นที่รับอาหารจากโครงการ “กินได้ไม่ทิ้งกัน x ไม่เทรวม” ณ โลตัส โก เฟรช (Lotus’s go fresh) สาขารามคำแหง 174, สาขารามคำแหง 190, ตลาดทองร่มเกล้า ซอย 3, สาขาถนนสามวา, สาขาถนนราษฎร์อุทิศและสาขารามอินทรา 117 เขตมีนบุรี เพื่อรับอาหารที่จำหน่ายไม่หมด (ยังไม่หมดอายุ) จากร้านโลตัส โก เฟรช มามอบให้พนักงานภาคสนาม ช่วยลดภาระ ค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ลดขยะอาหาร และโลตัสยังช่วยอำนวยความสะดวกแยกขยะประเภทอาหารที่ไม่สามารถ รับประทานได้แล้ว ส่งมอบไปกับเจ้าหน้าที่ ของ กทม. เพื่อนำไปทำปุ๋ยบำรุงต้นไม้ในพื้นที่ของแต่ละเขต ตามเป้าหมายของโลตัสที่จะลดขยะอาหารให้เป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ.2030

“เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ได้รับอาหาร (ยังไม่หมดอายุ) จากโลตัส โก เฟรช และไม่มีขยะประเภทอาหารเหลือตกค้างแต่อย่างใด ขยะเศษอาหารเป็นศูนย์ โดยในพื้นที่เขตมีนบุรี มีโลตัส โก เฟรช จำนวน 13 แห่ง นัดเข้ารับอาหารอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทางสำนักงานเขตมีนบุรีต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้” นายศักดิ์ชัย กล่าวและว่า โครงการกินได้ไม่ทิ้งกัน x ไม่เทรวม จัดขึ้นโดยความร่วมมือของกรุงเทพมหานคร และโลตัส โก เฟรช โดยมีเป้าหมายลดขยะอาหารให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030 ส่งผลดีทั้งในแง่ลดปริมาณขยะอาหาร ที่จะไปสู่หลุมฝังกลบของกทม. ลดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ในการครองชีพของพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่กวาดถนน และพนักงานภาคสนามสอดคล้องตามนโยบาย มุ่งเน้นแยกขยะต้นทางและขยะเปียกจากองค์กรแบบมุ่งเป้า ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยริเริ่มการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางในแหล่งพาณิชยกรรมที่มีกิจกรรมและผู้ใช้งานหนาแน่น พร้อมปลูกฝังค่านิยมการคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบในเยาวชนและประชาชนทั่วไป เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมวิถีใหม่เพื่อเมืองที่ดีขึ้น และสนับสนุนตามนโยบาย #ไม่เทรวม ไม่เทรวม ไม่เทรวม โดยเน้นการคัดแยกขยะออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ขยะเศษอาหาร และ ขยะทั่วไป ออกจากกัน ซึ่งการคัดแยกขยะช่วยให้การจัดการขยะเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถนำขยะบางส่วนไปผ่านกระบวนการ Recycle เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ และสามารถนำขยะเศษอาหารไปทำเป็นปุ๋ยหมัก หรือ เชื้อเพลิงได้ ลดการกลบฝังขยะที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสภาพแวดล้อม

เริ่มดำเนินการคัดแยกประเภทขยะอย่างจริงจัง ในหน่วยงานองค์กร และสถานประกอบการโดยเฉพาะ ขยะอินทรีย์ ขยะเศษอาหาร หรือขยะรีไซเคิล โดยริเริ่มจากหน่วยงานสังกัด กทม.เอง และสถานที่หรือองค์กรที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจและผู้ใช้งานจำนวนมาก ประกอบด้วย 1.หน่วยงานภายใต้ กทม. สำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงเรียน 2.พื้นที่ตลาดภายใต้สำนักงานตลาด และร่วมมือกับพื้นที่เอกชน และ 3.ห้างสรรพสินค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ ศูนย์อาหาร

ที่มา:  นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 5 มิ.ย. 2567