รองผู้ว่าฯ กทม. เผยแผนปรับปรุง-สร้างเพิ่มสถานีดับเพลิง- อาคารที่พัก จบปัญหาสถานีน้อย ทรุดโทรม ขยายยาก ปรับทั้งระบบ สร้างเมืองปลอดภัยดี
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงแผนปรับปรุงและสร้างเพิ่มสถานีดับเพลิงกทม.ว่า กรุงเทพมหานครมีแผนปรับปรุงสถานีดับเพลิงและสร้างใหม่เพิ่มเพื่อให้ครอบคลุมระยะเข้าถึงเหตุ พร้อมสร้างอาคารที่พักอาศัยใหม่เนื่องจากบางแห่งสภาพทรุดโทรมมากและให้เพียงพอกับอัตรากำลังประจำสถานี รวมถึงสร้างศูนย์ฝึกอบรมดับเพลิง และกู้ภัยที่หนองจอก อยู่ระหว่างปรับแบบที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ศึกษาไว้ให้เข้ากับพื้นที่ และต้องยกเลิกที่เดิมที่นครปฐม ที่ติดปัญหาเรื่องผังสีที่ก่อสร้างไม่ได้ โดยจะเร่งให้ทันนำเข้าพิจารณางบประมาณปี 2568 นี้
“ที่มีการพูดกันว่ากรุงเทพฯต้องมี 50 เขต 50 สถานี ดับเพลิง ตอนนี้เรามี 51 สถานีแล้ว แต่ยังต้องปรับปรุงและเพิ่มให้เพียงพอระยะเข้าถึง ซึ่งเรามีแผนหมดแล้วถึงปี’69 ทั้งปรับปรุง และสร้างใหม่ รวมถึงอาคารที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่เข้าเวรประจำสถานี โดยพิจารณาจากพื้นที่เกิดเหตุบ่อยมาก ชุมชนมีความเสี่ยงสูงแออัดมีอุปกรณ์ที่ไม่ปลอดภัย หรือฝั่งตะวันออก และเหนือที่มีพื้นที่กว้างมากอาจต้องซอยเพิ่มสถานี รวมถึง ทรัพยากรอาสาและเครือข่ายที่มาร่วมกับเราก็ต้องดูแลจัดระบบทั้ง ทีมกู้ชีพและกู้ภัยต้องจัดระบบใหม่ทั้งหมด” รองผู้ว่าฯทวิดา กล่าว
ทั้งนี้ สถานีดับเพลิงกทม.ในปัจจุบันหลายแห่งสภาพอาคาร และอุปกรณ์ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลาและการใช้งานมากว่า 30-50 ปี ควรต้องมีวงรอบการดูแลรักษาและจัดหาทดแทน แต่ติดปัญหา 1.หา “แปลงที่ดิน” ที่เหมาะ กับการดูแลพื้นที่ยาก ที่ดินราคาสูง หลายๆ สถานีจึงอยู่ในที่ดินช่วยเหลือของหน่วยงานอื่น 2.มี “ขนาดพื้นที่ รับผิดชอบ” ที่ใหญ่เกินไปด้วยสัดส่วน 1 สถานีต่อ 34.8 ตร.กม. เทียบกับค่าเฉลี่ย ของเมืองอื่นอย่างโตเกียว (1 ต่อ 7.57 ตร.กม.) โซล (1 ต่อ 4.39 ตร.กม.) และสิงคโปร์ (1 ต่อ 14.27 ตร.กม.) จะเห็นว่ามีขนาดใหญ่กว่ามาก 3.มี “บุคลากร” ไม่เพียงพอต่อประชากร และจะต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยให้ทันกับการ เพิ่มจำนวนสถานีดับเพลิงฯ ที่ผ่านมานโยบาย ของ กทม. เน้นเร่งปรับปรุงซ่อมแซมและสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิม เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน พื้นที่จัดเก็บบำรุงรักษาอุปรณ์และยานพาหนะ รวมถึง สภาพแวดล้อมในที่ทำงานและที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเตรียมแผนสำหรับอนาคตเพื่อให้กรุงเทพฯ มีปริมาณสถานีดับเพลิงและ กู้ภัยที่เพียงพอต่อจำนวนประชากร และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แผนปี 2566-2567 เปิดทดแทนสถานีเดิม 2 แห่ง ได้แก่ บางซ่อน ทุ่งมหาเมฆ พร้อมจัดสรรบุคลากรและทรัพยากรใหม่ 3 แห่ง บางบอน หนองจอก และสถานี ดับเพลิงฯ ทางน้ำบางซื่อ และ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งปรับปรุงแบบหรืออยู่ระหว่างก่อสร้าง 12 แห่ง (ทยอยแล้วเสร็จในปี 2567-2570) ได้แก่ ถนนจันทน์ พระโขนง สามเสน ทวีวัฒนา สายไหม สุทธิสาร ดอนเมือง บางอ้อ แจ้งวัฒนะ คลองสามวา บรรทัดทอง และ อาคารที่พักสถานีดับเพลิงฯ เฉลิมพระเกียรติ ส่วนแผนปี 2568 (จัดทำแบบและคำขอ งบประมาณ) เพื่อก่อสร้างทดแทนสถานีเดิม ได้แก่ ดาวคะนอง บางแค ลาดกระบัง บางเขน และหัวหมาก พร้อมทั้ง ปรับปรุงบางส่วน ได้แก่ หนองแขม ประเวศ และ ก่อสร้างสถานีใหม่ (ยกระดับจากสถานีย่อย) ได้แก่ ร่มเกล้า รวม 8 แห่ง
และแผนปี 2569 มีแผนก่อสร้างสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางนา (เดิมเป็นสถานีย่อย) และปรับปรุงหรือสร้างใหม่ทดแทนสถานีฯเดิม อย่างน้อย 4 แห่ง (อยู่ระหว่างการสำรวจและจัดลำดับความเร่งด่วน) และหาแปลงที่ดินที่มีศักยภาพและเหมาะสม ก่อสร้างสถานีดับเพลิงและกู้ภัยแห่งใหม่ อย่างน้อย 3 แห่ง ในโซนพื้นที่ตัวอย่างจากการวิเคราะห์ผ่านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ที่จำเป็นเร่งด่วน เช่น พื้นที่ลาดพร้าว-บึงกุ่ม-คันนายาว, พื้นที่สวนหลวง-บางกะปิสะพานสูง, พื้นที่ลาดกระบัง-หนองจอก และพื้นที่แสมดำ (บางขุนเทียน)
บรรยายใต้ภาพ
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม.
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 5 มิ.ย. 2567