นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) คิกออฟเปิดตลาดนัดแก้หนี้ทั่วกรุงเทพฯ อาจจัดที่สถานีตำรวจ (สน.) หรือสำนักงานเขต ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน 2 สัปดาห์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาขานรับนโยบายทันที
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมการแก้ไขหนี้นอกระบบ ปัญหายาเสพติด และการพนันออนไลน์ โดยมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกฯ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ร่วมประชุม เมื่อ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายเศรษฐาระบุว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้นอกระบบ ไม่ได้มีแค่ต่างจังหวัดอย่างเดียว ในกรุงเทพฯ ก็มีคนเดือดร้อนจำนวนมาก จึงอยากให้มีการประสานงานอย่างชัดเจนกับ หน่วยงานฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคง เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่เข็นครกขึ้นภูเขา แต่เชื่อว่าเป็นสารตั้งต้นหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชน
“ทุกคนต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหา โดยให้ตำรวจนครบาล จัดโครงการ “ตลาดนัดแก้หนี้” ในเขตต่างๆ ของกรุงเทพ มหานคร (กทม.) ภายใน 2 สัปดาห์นับจากนี้ ซึ่งผมจะลง พื้นที่ติดตามความคืบหน้าด้วยตนเอง”
ขณะเดียวกันนายเศรษฐายังให้แก้ปัญหายาเสพติดไปพร้อมกัน โดยโฟกัสที่ไปชุมชนแออัด เพราะเรื่องหนี้เป็นสารตั้งต้นของปัญหาผู้มีรายได้น้อย ถ้าทำงานใช้หนี้ดอกเบี้ยไม่พอ ทำให้หมดขวัญและกำลังใจ หันไปเสพยาเสพติด ปล้น และขโมย เรื่องนี้ต้องฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคงทำงานให้มากขึ้น ต้องทำงานให้เร็ว
ผู้รับผิดชอบหลัก ได้ออกมาขานรับนโยบายอย่างเต็มที่
พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ รองผบช.น. ดูแลงานแก้ไขหนี้นอกระบบ กล่าวว่า เบื้องต้นพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมตนได้รับทราบนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และตำรวจนครบาลได้ดำเนินการร่วมกับกทม. ที่เป็นฝ่ายปกครอง เป็นผู้ดำเนินการหลัก
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นฝ่ายอำนวยความสะดวก ร่วมให้ความช่วยเหลือการไกล่เกลี่ย และตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายในการดำเนินการดังกล่าว
ความจริงทางบช.น. มีการดำเนินการครั้งแรกตั้งแต่หลังนายกฯ ได้ลงพื้นที่สน.ลุมพินี ขณะนี้จึงได้เตรียมความพร้อมให้แต่ละกองบังคับการ 1-9 สำรวจจุดที่จะรองรับประชาชนเพื่อมาเข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ พล.ต.ท.ธิติพิจารณาว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อให้ครอบคลุม
จะมีการประชุมเพื่อหารือเรื่องดังกล่าวในวันที่ 4 มิ.ย. เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมอาคารอเนกประสงค์ กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.)
ด้านนายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกทม. กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติซึ่งนายกฯ และรมว.คลัง ได้สั่งการให้สำนักงานเขตและสถานีตำรวจทั่วกรุงเทพฯ จัดงานภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
ในส่วนของกทม. พร้อมรับนโยบายดังกล่าว ขณะเดียวกันได้เล็งเห็นความสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จึงประสานสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมระหว่างรอการประสานงานจากสถานีตำรวจ
โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ทั้งการรับลงทะเบียนขอความช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทของลูกหนี้และ เจ้าหนี้ การสร้างงานสร้างอาชีพ การจัดตลาดแรงงาน การฝึกอาชีพโดยโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร และกระทรวงแรงงาน การรับคำขอเพื่อพิจารณาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
การให้คำปรึกษาด้านการเงิน โดยธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร การให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย โดย กองบัญชาการตำรวจนครบาล
บริการจากหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร อาทิ บริการทำบัตรประชาชน ตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ ได้แก่ เอกซเรย์ปอด คัดกรองมะเร็งปากมดลูก ตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจจอประสาทตา บริการทันตกรรม บริการตรวจสุขภาพ รวมถึงกิจกรรมของโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร อาทิ นวดแผนไทย สอนสานตะกร้าจากวัสดุเหลือใช้ บริการตรวจดวงชะตา ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ การจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ผลิตภัณฑ์ Bangkok Brand ผลิตภัณฑ์ OTOP และบริการอาหาร น้ำดื่ม สำหรับผู้ร่วมงาน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา นายเศรษฐาดอดไปตรวจเยี่ยม สน.ลุมพินี ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพราะเป็น สน.ใหญ่ ที่ดูแลทั้งสถานทูต สถานที่ท่องเที่ยว และชุมชนแออัด
นอกจากจะมาดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องตำรวจแล้วยังได้กำชับให้ตำรวจดูแลปราบปรามหนี้นอกระบบให้เข้มขึ้น
“ที่ผ่านมาในต่างจังหวัดมีการจัดตลาดนัดแก้หนี้ อยากให้ในกทม.จัดตลาดนัดแก้หนี้ด้วย ซึ่งจะให้ สน.ลุมพินีเป็น สน.ต้นแบบ แล้วให้จัดทำตารางมาเลยว่าต่อไปจะเป็น สน.ไหน ทางรัฐบาลจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อ ลงไปซัพพอร์ต เช่น ธนาคารของรัฐ ให้เข้าไปช่วยด้วย”
สำหรับการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ที่ผ่านมาได้เปิดให้ประชาชนที่มีความประสงค์ให้ทางราชการช่วยแก้หนี้นอกระบบมาลงทะเบียน เพื่อเข้าสู่ระบบการแก้ไขหนี้ตามมาตรการของรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2566-31 พ.ค.2567 เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้อย่างครบถ้วน รวดเร็ว และเป็นธรรม รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกหนี้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้
ในส่วนของเจ้าหนี้ หากไม่มาลงทะเบียนภายในเวลาที่กำหนด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
หลังปิดลงทะเบียน สำนักการสอบสวนและนิติการ กรม การปกครอง รายงานว่า มีประชาชนมาลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น 153,400 ราย
ล่าสุดถึงวันที่ 3 มิ.ย. มีลูกหนี้ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 152,183 ราย มูลหนี้ลดลงรวม 1,202.908 ล้านบาท ยังคงเหลืออีก 1,217 ราย ที่อยู่ระหว่างการดำเนินกระบวนการไกล่เกลี่ย
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาพบปะพูดคุยกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประสบความสำเร็จ ครบทั้งกระบวนการต่อไป
นอกจากนี้ มีกรณีที่เจ้าหนี้-ลูกหนี้มีความประสงค์ให้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดี 464 คดี
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า แม้กระทรวงมหาดไทยจะให้ทุกจังหวัดดำเนินการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 พ.ค. แต่ยังมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออีกเป็นจำนวนมาก กระทรวงมหาดไทยจึงมุ่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างต่อเนื่องต่อไป เพียงขอให้ประชาชนเข้ามาแจ้งให้กับหน่วยงานของรัฐทราบ เราพร้อมยินดีให้การช่วยเหลือทุกเมื่อ
ประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบรวมถึงปัญหาอื่นๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองทุกเรื่อง และต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ สามารถติดต่อผ่านช่องทางศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ได้ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ หรือที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร.1567 ได้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง
จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 5 มิ.ย. 2567 (กรอบบ่าย)