มวยไทยขยายฐาน โครงการต้นกล้า!

“ซอฟต์ พาวเวอร์มวยไทย” ขยายฐานในประเทศเปิดตัวโครงการ MUAYTHAI FOR ALL หรือต้นกล้า มวยไทยอย่างเป็นทางการแห่งแรกที่โรงเรียนวัดธาตุทองผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เชื่อจะสอนให้นักเรียนได้เรียนรู้กีฬามวยไทยใน 23 โรงเรียนนำร่องได้กว่า 1,000 คน ขณะที่ชัชชาติสิทธิพันธุ์ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมที่จะช่วยขยายโครงการให้มีการเรียนการสอนใน 200 โรงเรียนต่อไปและเล็งเพิ่มเป็นหลักสูตรมวยไทยในอนาคตอีกด้วย

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬาพร้อมด้วยนายชัชชาติสิทธิพันธุ์ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครร่วมกันเปิดโครงการ MUAYTHAI FOR ALL หรือต้นกล้ามวยไทยที่โรงเรียนวัดธาตุทอง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567

โครงการ MUAYTHAI FOR ALL หรือต้นกล้ามวยไทย เป็นการส่งเสริมครูมวยไทยที่จบหลักสูตรมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬามวยไทยและผ่านการทดสอบสมรรถนะกีฬามวยไทย ให้ได้มีพื้นที่ในการฝึกสอนกีฬามวยไทยขั้นพื้นฐานในโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครอีกทั้งยังเป็นการพัฒนามาตรฐานทางด้านกีฬามวยไทยระดับพื้นฐานสู่เยาวชนของชาติอันเป็นหนึ่งในกระบวนการขับเคลื่อนกีฬามวยไทย “มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์” ของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬาที่กำลังเดินหน้าทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ กล่าวว่าโครงการต้นกล้ามวยไทยได้เริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่โรงเรียนวัดธาตุทองเป็นแห่งแรกแล้ว โดยได้นำมวยไทยที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์เข้าถึงเยาวชนโดยไม่ได้มีเพียงโรงเรียนวัดธาตุทอง แต่ยังมีอีก 22 โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครในโครงการที่จะนำครูมวยเข้าไปสอนซึ่งแต่ละโรงเรียนจะมีการสอนมวยไทยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 2 ชั่วโมง เป็นเวลา 1 เทอม ซึ่งหลังจบเทอมรวมทั้ง 23 โรงเรียนในโครงการนำร่องคาดว่าจะได้นักเรียนที่เรียนมวยไทยทั้งสิ้น 1,000 กว่าคน จากนั้นก็จะมาดูว่าต้องเพิ่มเติมอะไรบ้างและขยายวงให้กว้างขึ้นจนถึง 100 โรงเรียนต่อไป

“ในการสอนไม่ใช่แค่ช่วยให้ห่างไกลยาเสพติด,ออกกำลังกายหรือเป็นศิลปะป้องกันตัวแต่ยังสอนทั้งประวัติศาสตร์,ที่มาที่ไปหรือจริยธรรมของการเป็นนักมวยเพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริงอีกด้วย” ผศ.พิมลกล่าว

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่นำมวยไทยเข้ามาสอนในโรงเรียนกรุงเทพมหานครเพราะนี่เป็นการขับเคลื่อนด้านซอฟต์พาวเวอร์อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรมที่สุดภายใน 3 เดือนเท่านั้น การจะให้เด็กๆได้รู้จักมวยไทยต้องเริ่มจากโรงเรียนแบบนี้นอกจากนี้ยังฝึกให้นักเรียนมีระเบียบวินัย ความเข้าใจกันมีน้ำใจนักกีฬาซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเป็นพลเมืองที่ดี

“ในอนาคตอยากขยายให้ได้ 200 โรงเรียนจาก 400 โรงเรียน ที่อยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานคร โดยเราพร้อมส่งเสริมการกีฬาอยู่แล้วที่ผ่านมาเราเรียนกีฬาที่มาจากต่างประเทศมาโดยตลอดครั้งนี้ก็จะเป็นการส่งเสริมกีฬาไทยด้วยนอกจากนี้ยังมองว่านี่จะเป็นตัวกระตุ้น เพื่อนำไปต่อยอดในการผลักดันเข้าสู่หลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนในอนาคตได้” นายชัชชาติกล่าว

 



ที่มา:  นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 30 พ.ค. 2567 (กรอบบ่าย)

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200