กทม. เดินหน้าตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงป้ายโฆษณาในกรุงเทพฯ
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อป้องกันอุบัติภัยว่า ปัจจุบันป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีจำนวนทั้งหมด 794 ป้าย โดยเข้าข่ายยื่นรายงานการตรวจสอบอาคาร จำนวน 243 ป้าย ได้รับใบรับรองการตรวจสอบอาคาร (ร.1) จำนวน 143 ป้าย และยังไม่เคยยื่น หรือขาดการยื่นรายงานการตรวจสอบอาคาร จำนวน 100 อาคาร ทั้งนี้ ในการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของป้ายโฆษณาในพื้นที่กรุงเทพฯ จะดำเนินการตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ สำหรับป้ายบนดินที่มีความสูง 15 เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่ตั้งแต่ 50 ตารางเมตร และสำหรับป้ายบนอาคารที่มีพื้นที่ 25 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งต้องดำเนินการโดยสามัญวิศวกร สาขาวิศวกรรมโยธา ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบรายการคำนวณการออกแบบ จะดำเนินการในป้ายบนดินที่มีความสูง 10 เมตรขึ้นไป และป้ายที่มีพื้นที่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งต้องดำเนินการโดยวุฒิวิศวกร สาขาวิศวกรรมโยธา และหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะดำเนินการในป้ายบนดินที่มีความสูง 15 เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่ตั้งแต่ 50 ตารางเมตร และป้ายบนอาคารที่มีพื้นที่ 25 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งจะตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบอาคารที่ขึ้นทะเบียนกับกรมโยธาธิการและผังเมือง แล้วจัดทำรายงานการตรวจสอบอาคารให้กับเจ้าพนักงานท้องถิ่น เพื่อพิจารณาออกใบรับรองการตรวจสอบอาคาร (ใบ ร.1) ต่อไป
กทม. ร่วมพัฒนาชุมชนบ่อนไก่เป็นชุมชนต้นแบบ พร้อมปรับปรุงศูนย์พัฒนาเด็กฯ ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่
นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) กทม. กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ให้เป็นชุมชนต้นแบบ รวมถึงการปรับปรุงศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ว่า ชุมชนบ่อนไก่เป็นชุมชนผู้มีรายได้น้อยอาศัยอยู่บนที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ตั้งอยู่ในแขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 65 เกิดเหตุไฟไหม้ มีบ้านเรือนเสียหาย 69 ครัวเรือน และเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 65 เกิดเหตุเพลิงไหม้ชุมชนกุหลาบแดง มีบ้านเรือนเสียหาย 3 ครัวเรือน หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินฯ ได้สำรวจความเดือดร้อน รับรองสิทธิผู้เดือดร้อน และสนับสนุนงบประมาณโครงการที่อยู่อาศัยชั่วคราวกรณีไฟไหม้และจัดระบบองค์กรชุมชนและกลุ่มย่อย เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง เช่น จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อเป็นทุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดย พอช. เป็นผู้เช่าที่ดินและดำเนินโครงการในที่ดินเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ของสำนักงานทรัพย์สินฯ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากชุมชนเดิม
ส่วนการออกแบบโครงการบ่อนไก่ เป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวสูง “นวัตกรรมใหม่สร้างชุมชนบนตึกสูง-พื้นที่พาณิชยกรรม” จะเป็นอาคารที่อยู่อาศัยรวมผสมผสานพื้นที่พาณิชย์ ขนาดความสูง 6-7 ชั้น ออกแบบให้รองรับการอยู่อาศัยร่วมกันแบบชุมชน จำนวน 300 ครัวเรือน พื้นที่ส่วนกลางชุมชน และพื้นที่พาณิชย์ เพื่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและอาชีพของชุมชน ประกอบด้วย การออกแบบที่อยู่อาศัยทางสูงในรูปแบบชุมชน สร้างพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ เช่น พื้นที่สีเขียว สาธารณูปการในชุมชน ทั้งในแนวราบและแนวตั้งที่ส่งเสริมให้เกิดการอยู่อาศัยร่วมกัน มีระบบการบริหารจัดการพื้นที่และการดูแลร่วมกันโดยชุมชน ต่างจากโครงการที่อยู่อาศัยรวมในรูปแบบเดิมที่ออกแบบ เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย การออกแบบพื้นที่พาณิชย์กรรม สร้างพื้นที่ทางเศรษฐกิจทั้งระดับชุมชนและระดับย่าน ยกระดับและเชื่อมโยงเศรษฐกิจชุมชน อาชีพชุมชน ไปกับย่านบ่อนไก่ พร้อมกับโครงการ One Bangkok ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ระดับประเทศ ซึ่งนำรายได้ส่วนหนึ่งสนับสนุนการบริหารจัดการและบำรุงรักษาโครงการ การพัฒนาด้านสังคม เพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็งโดยองค์กรชุมชนเป็นหลักในการจัดการพัฒนาตามวิถีชีวิต เอกลักษณ์ สร้างความสัมพันธ์แบบชุมชนให้เกิดการดูแลช่วยเหลือกันผ่านกองทุนชุมชนในการจัดสวัสดิการ การดูแลสุขภาพ และการส่งเสริมอาชีพ เพื่อสร้างความสามารถการจ่ายของชุมชนในการพัฒนาและดูแลบำรุงรักษาอาคารที่อยู่อาศัย โดย กทม. ควรเป็นผู้มีบทบาทในการสร้างโครงสร้างทางสังคมให้เข้มแข็ง สร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเกิดเป็น cluster ในการดูแลกัน เช่น กลุ่มเด็กดูแลเด็ก กลุ่มผู้สูงอายุดูแลกัน พัฒนาอาชีพคนในชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ให้มั่นคงขึ้นจากความได้เปรียบของพื้นที่ทางเศรษฐกิจเชิงพาณิชย์ในที่อยู่อาศัย และการออกแบบแนวทางการบริหารโครงการร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินฯ จากรูปแบบโครงการที่มีความซับซ้อน ทั้งการออกแบบพื้นที่ชุมชน การออกแบบพื้นที่พาณิชย์ มูลค่าโครงการ การบริหารงานก่อสร้าง และการบริหารจัดการอาคารทั้งการอยู่อาศัยและการพาณิชย์
สำหรับการปรับปรุงศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ ศูนย์ดังกล่าวได้รับการดูแลจากประธานชุมชน มีเด็กในความดูแล 20 ราย มีครู 2 ราย จากกรณีน้ำท่วมขังช่วงฝนตก สำนักงานเขตพื้นที่ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องหลังคารั่วชุมชนได้รับเงินจากสำนักงานทรัพย์สินฯ ปรับปรุงซ่อมแซมในส่วนที่ชำรุด ปรับปรุงเสาค้ำอาคาร และปรับปรุงซ่อมแซมฝ้าเพดานเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ สพส. อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาวัสดุสำหรับส่งเสริมพัฒนาการเด็กในศูนย์ฯ ให้เพียงพอและครอบคลุมตามความต้องการของศูนย์ฯ ต่อไป
เขตสัมพันธวงศ์เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวย่านถนนทรงวาด มิ.ย.-ก.ค. นี้ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
นายวัลลภ เกียรติศรีวรกุล ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ กทม. กล่าวถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวย่านถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ว่า กรุงเทพมหานคร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประสานความร่วมมือด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ นโยบายเทศกาล 12 เดือน 50 อัตลักษณ์ 50 ย่าน เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่งเสริมธุรกิจกลางคืน ขณะเดียวกันสำนักงานเขตฯ ได้เตรียมความพร้อมประสาน ททท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยที่ผ่านมาสำนักงานเขตฯ และสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยี่ยม ประจำประเทศไทย ได้จัดงาน Street Art เนื่องในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ 155 ปีไทย-เบลเยี่ยม ณ แกลลอรี่ Play Art House ถนนทรงวาด โดย Jolene Kitsune ศิลปินชาวเบลเยี่ยม และคุณวริศรา จันทะคัต ศิลปินชาวไทย เพื่อเพิ่มสีสันความน่าสนใจของเมืองและสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนด้านงานศิลปะตามแนวคิด “Britghten your Street, Color your neighborhood” “ทำถนนให้สว่างไสว ระบายสีสันให้ย่านของคุณ”
นอกจากนั้น สำนักงานเขตฯ ยังได้ร่วมกับกลุ่ม Urban Action กลุ่มปั้นเมือง และกลุ่ม Made in Songwat ลงพื้นที่สำรวจ เพื่อจัดทำแนวทางการฟื้นฟูย่านเยาวราช สำเพ็ง ทรงวาด ตลาดน้อย จักรวรรดิ และพื้นที่ต่อเนื่อง โดยจะนำข้อมูลไปกำหนดนโยบาย แผนการฟื้นฟู แผนการดำเนินงาน รวมถึงออกแบบโครงการนำร่องพัฒนาตรอกโรงโคม ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ กำหนดจัดกิจกรรมพัฒนาย่านสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวชุมชนย่านทรงวาด ในเดือน มิ.ย. – ก.ค. 67 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ทิศทาง การพัฒนาย่านสร้างสรรค์ในกรุงเทพฯ ให้เป็นย่านที่มีอัตลักษณ์เฉพาะ โดดเด่น และสร้างการจดจำ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจและกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนอย่างต่อเนื่องต่อไป