เล็งหารายได้เพิ่ม-‘ป้ายโฆษณา-ร้านค้าบนสถานี’
กทม. – เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ซอยรามคำแหง 40 เขตบางกะปิ นายธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้บริหาร ร่วมแถลงข่าว 2 ปีการดำเนินงานของกรุงเทพธนาคม ภายใต้นโยบาย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.
โดยนายธงทองกล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้คณะกรรมการชุดปัจจุบัน ได้มุ่งเน้นการสร้างหลักธรรมาภิบาล และความโปร่งใส ควบคู่กับการร่วมพัฒนาเมืองสู่มหานครแห่งการเดินทางอัจฉริยะและพัฒนาเมืองอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเร่งแก้ไขปัญหาโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อกทม. เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ด้านนายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้อำนวยการกรุงเทพธนาคม กล่าวว่า ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ได้มีการชำระค่างานระบบเดินรถ (E&M) ของส่วนต่อขยาย 2 มูลค่า 23,312 ล้านบาท และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอสซี) ได้โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้ กทม. แล้ว เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2567 ส่วนที่บีทีเอสซีมีการฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถ (O&M) ส่วนต่อขยาย 1 และ 2 รวม 22,823 ล้านบาท เคทีได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาคดี
ขณะเดียวกันในระยะสั้น เคทีจะเร่งหารายได้เชิงพาณิชย์จากการให้สิทธิพื้นที่ป้ายโฆษณาและร้านค้าบนสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 1 และ 2 เพิ่มเติมภายในปี 2567 และแผนการดำเนินงานต่อไป เคทีจะเข้าร่วมแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในภาพรวมของรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งระบบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐและประชาชนผู้ใช้บริการ อีกทั้งยังเป็นธรรมกับ ผู้ประกอบการ สามารถสนองนโยบายภาครัฐในการสร้างระบบตั๋วร่วมและค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายให้สำเร็จได้
ส่วนโครงการใหม่ๆ ที่บริษัทกำลังพัฒนา ประกอบด้วย โครงการแอพพลิเคชั่นวินรถจักรยานยนต์ ขณะนี้ได้ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นหลักแล้ว คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในเดือนก.ค.นี้ ขณะที่โครงการเรือ Taxi EV Boat สร้างเส้นทางเดินเรือเพื่อการเดินทางทั่วไปและท่องเที่ยว เช่น คลองบางลำพู คลองลาดพร้าว เป็นเรือไฟฟ้า เพื่อช่วยในด้านสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะเริ่มโครงการนำร่องได้ใน ก.ค.นี้
นอกจากนี้ยังมีโครงการระบบโต้ตอบ BKK Chat AI ในการบริการสาธารณะที่หลากหลาย คาดว่าจะเริ่มนำระบบนี้มานำร่องทดสอบเบื้องต้นกับหน่วยงานภายใน กทม. ในเดือนส.ค.นี้
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 28 พ.ค. 2567
