ตุ๋นสนามกอล์ฟดัง-9ล้าน แลกเปลี่ยนเส้นทางถนน
ปฏิบัติการบุกตรวจค้น-จับกุมนายช่างโยธา กทม.ของตำรวจ ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเพียงก้าวแรกของการทลาย ‘แก๊ง สด 1%’ เครือข่ายข้าราชการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่คอยหากินกับโครงการก่อสร้างของกทม. เฉพาะการก่อสร้างโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ ที่มีวงเงินนับร้อยนับพันล้าน เพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าโครงการที่จ่ายให้ตามน้ำก็แบ่งกันกินจนเปรมแล้ว
แต่สำหรับนายช่างโยธา กทม.กับพวกที่ถูกจับเป็นรายแรกนี้ มีแผนการแยบยลสลับซับซ้อนกว่าเยอะ กว่าผู้เสียหายจะรู้ว่าถูกหลอกก็ล่วงเลยมากว่า 6 ปี
ตร.จับนายช่างโยธา กทม.
เช้ามืดวันที่ 20 พ.ค. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. บูรณาการกำลังร่วมกับ พ.ต.ท. สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ ‘ทลายแก๊ง สด 1%’ โดยเจ้าหน้าที่กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวนรวม 5 จุด ในพื้นที่ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี และจ.นครราชสีมา เพื่อจับกุมขบวนการเจ้าหน้าที่ทุจริตเรียกรับสินบนจำนวน 9 ล้านบาท เพื่อแลกกับการช่วยแก้ไขแบบแนวเขตโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมถนนเลียบวารี ถนนสุวินทวงศ์ และถนนคุ้มเกล้า ไม่ให้เข้าไปในเขตสนามกอล์ฟชื่อดัง
โดยเป้าหมายสำคัญจุดแรกอยู่ที่บ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านหรู ซอยติวานนท์-แจ้งวัฒนะ 2 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายภีมพงษ์ หิรัญพฤกษ์ อายุ 46 ปี นายช่างโยธาชำนาญงาน กลุ่มงานสำรวจและแผนที่ 1 กองสำรวจและแผนที่ที่ดิน สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร กับภรรยา ผู้ต้องหาคนสำคัญของขบวนการ
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึง พบนายภีมพงษ์กับภรรยากำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น พร้อมกับแสดงหมายจับเข้าทำการจับกุม ทั้งนี้จากการตรวจค้นภายในบ้าน พบรถยนต์หรูยี่ห้อ เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น C250 คูเป้ 1 คัน รถยนต์โตโยต้า คัมรี่ 1 คัน พร้อมกับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน จำนวน 5 คัน
ต่อมาที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ประทุมราช ผกก.1 บก.ปปป. ร่วมกับนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการสำนักงานป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 แถลงผลการปฏิบัติการ โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาร่วมขบวนการทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย นายภีมพงษ์ หิรัญพฤกษ์ อายุ 46 ปี, น.ส.อรนุช เดชดาด อายุ 38 ปี ภรรยา, นายปองพล ถาวรวงศ์ อายุ 52 ปี และน.ส.ลินดา กำลังเลิศ อายุ 43 ปี โดยจับกุมนายภีมพงษ์กับน.ส.อรนุช ภรรยา ได้ที่บ้านพัก ในซอยติวานนท์-แจ้งวัฒนะ 2 ส่วนนายปองพลจับกุมได้ที่ บ้านพักในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ขณะที่น.ส.ลินดาจับกุมตัวได้ที่ บ้านพักย่านสวนหลวง กทม.
พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินของกลาง รถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น C250 คูเป้ สีดำ, รถยนต์โตโยต้า คัมรี่ สีดำ รถยนต์โตโยต้า อัลติส จักรยานยนต์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน 5 คัน พระเครื่อง 9 องค์ อาวุธปืน 4 กระบอก ตั๋วจำนำทองคำจำนวนมาก ตั๋วจำนำนาฬิกาโรเล็กซ์ สร้องคอทองคำ 2 เส้น โฉนดที่ดิน 2 แปลง บ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง รวมมูลค่า 42,975,000 บาท
แฉพฤติกรรมหลอกลวงเงินเหยื่อ
พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิให้รายละเอียดว่า เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการสนามกอล์ฟชื่อดังย่านหนองจอกเข้ามาร้องทุกข์บก.ปปป. ว่า เมื่อปี 2561 กทม.มีโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมถนนเลียบวารี ถนนสุวินทวงศ์ และถนนคุ้มเกล้า เมื่อถึงขั้นตอนในส่วนของโยธาสำรวจพื้นที่เวนคืนที่ดิน นายภีมพงษ์ ซึ่งขณะนั้นมีตำแหน่งช่างโยธาชำนาญงาน กองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักงานโยธา กทม. รับผิดชอบเกี่ยวกับในการจัดทำแผนที่รายละเอียดเพื่อประกอบการเสนอ พ.ร.ฎ.กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และพ.ร.บ. เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เข้าไปติดต่อสนามกอล์ฟของผู้เสียหาย ก่อนใช้แผนที่แนวก่อสร้างถนนที่ปลอมขึ้นมาหลอกว่าถนนล้ำผ่ากลางเข้าไปในสนามกอล์ฟ จากนั้นอ้างตัวว่าสามารถเปลี่ยนแบบแปลนถนนได้ แต่มีข้อแม้ว่าผู้เสียหายจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการจำนวน 9 ล้านบาท เพื่อปรับแผนที่ถนน
ที่จริงแล้วนายภีมพงษ์ไม่ได้มีอำนาจย้ายแนวถนน แต่เจ้าตัวอำพรางด้วยการเปิดบริษัทแอบอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับการเขียนแบบ แล้วให้นายปองพลเข้ามาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา เพื่อให้การจ่ายเงินก้อนแรก จำนวน 5 ล้านบาท เป็นการจ้างที่ปรึกษาแทน จากนั้นนายภีมพงษ์ออกอุบายหลอกผู้เสียหายว่าจะแก้แบบจากการทำถนนเป็นทางลอดกลางสนามกอล์ฟ เพื่อแลกกับเงิน 1 ล้าน 5 แสนบาท นอกจากนี้ยังเรียกรับค่าติดตามทวงถามอีก 2 ล้าน 5 แสนบาท รวมทั้งหมด 9 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อจ่ายให้ไป
แต่เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 5 ปี ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการก่อสร้างถนน ผู้เสียหายเกิดความสงสัยจึงเข้าไปทวงถามกับสำนักงานโยธา กทม. จึงทราบว่ามีการชะลอโครงการเอาไว้ แต่ที่สำคัญคือไม่เคยมีแผนวางแนวเขตการก่อสร้างผ่ากลางสนามกอล์ฟแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงคืนแนวเวนคืนอยู่เพียงแค่ขอบที่ดินที่ติดอยู่กับถนนเส้นเดิมเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น จึงทำให้ผู้เสียหายเข้า ร้องเรียนกับ ป.ป.ท. ปปป. ป.ป.ช. และ ปปป.เข้าปฏิบัติการในวันนี้
‘บิ๊กเต่า’แฉแก๊ง1%
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็น การบูรณาการกำลังร่วมกันหลายหน่วยงาน ในส่วนของคดีนี้เองก็ต้องขอขอบคุณ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ที่แสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาคอยประสานข้อมูลต่างๆ ให้ตำรวจ จนสามารถจับกุมเอาผิดกับผู้ต้องหาขบวนการนี้ได้ “ส่วนที่ต้องเรียกผู้ต้องหาขบวนการนี้ว่าเป็น ‘สด 1 เปอร์เซ็นต์’ เพราะเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มขบวนการที่มีการนำโครงการต่างๆ ของ กทม. นำเสนอให้ผู้ประกอบการต่างๆ หากผู้ประกอบการรายใดสนใจจะขอเรียกรับเงินสดคิดเป็นเงิน 1 เปอร์เซ็นต์ จากมูลค่าของโครงการ อีกทั้งจากแนวทางสืบสวนยังพบว่าทรัพย์สินของกลางที่ตรวจยึดมาได้กว่า 40 ล้านบาท เป็นเพียงทรัพย์สินในเบื้องต้นที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำผิด แต่ในส่วนของทรัพย์สินอื่นที่ยังไม่พบความเชื่อมโยง หรือเกี่ยวข้องการกระทำผิด พบว่ามีไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท อีกทั้งจากพฤติกรรมต่างๆ ที่สืบพบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่านายภีมพงษ์จะกระทำเพียงคนเดียว หลังจากนี้จะต้องขยายผลให้แน่ชัดว่ามีตัวการระดับใหญ่กว่า หนุนหลังอยู่ด้วยหรือไม่
มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายภีมพงษ์เหมือนรู้ล่วงหน้าว่าจะถูกตำรวจเข้าตรวจค้น เมื่อวันที่ 11 พ.ค.จึงนำทองรูปพรรณและทองคำแท่งกว่า 100 บาท ไปจำนำย่านปากเกร็ด เมื่อเดือนเม.ย.ก็เพิ่งขายรถปอร์เช่ที่ซื้อมาราคา 11 ล้านบาทให้เต็นท์รถราคาแค่ 7 ล้านบาท แต่เหลือเงินในบัญชีไม่มาก นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า นายภีมพงษ์โอนเงินถึง 30 ล้านบาท ไปให้หญิงคนสนิทอีกคน ทั้งระหว่างตรวจหาข้อมูลในโทรศัพท์มือถือและไอแพด นายภีมพงษ์ ยังแกล้งกดรหัสผิด คาดว่าน่าจะมีข้อมูลความลับสำคัญเชื่อมโยงไปหาผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมกระทำผิดอีกหลายราย
กทม.ส่งหลักฐานอีก 6 เคส
ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กทม.ทราบเรื่องและเริ่มดำเนินการร่วมกับปปป. ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว โดย กทม.มีหน้าที่ให้ข้อมูลแก่ ปปป.ไปดำเนินการสืบสวนจับกุม นอกจากการทุจริตดังกล่าวพบว่ายังมีกรณีแบบนี้อีก 6 ราย ยืนยันว่า กทม.ไม่อดทนต่อการทุจริต แต่ต้องเปิดโอกาสให้หน่วยงาน ที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และมีหลักฐาน ชัดเจน เพื่อมัดตัวคนที่กระทำผิด
ส่วนแนวทางป้องกันต่อจากนี้คือ 1.เมื่อมีการแจ้งปัญหาทุจริตแล้ว ต้องดำเนินการ ไม่ซุกใต้พรม โดยปัจจุบันมีประชาชนกล้า แจ้งเรื่องทุจริตแก่ กทม.มากขึ้น สะท้อนความไว้ใจว่าปัญหาได้รับการแก้ไข 2.การเปิดเผยข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างช่องทางออนไลน์ เพื่อความโปร่งใส ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสะดวกมากขึ้น 3.ลดการ ใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ลง เช่น การเปิดขออนุญาตก่อสร้างออนไลน์ตามขั้นตอนที่กำหนด เพื่อลดการเจอหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน
นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตอนนี้ทาง กทม.ได้ส่งหลักฐาน 6 เคสการทุจริตให้ทาง บก.ปปป. ป.ป.ท. ป.ป.ช. และ ปปง.ไปสืบสวนต่อ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับเคสของนายภีมพงษ์ แต่เป็นหน่วยงานอื่นๆ ของ กทม. เคสของนายภีมพงษ์ เป็นการคิกออฟ ปราบปรามทุจริตอย่างจริงจังของ กทม.
ด้านพล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า จากแนวทางสืบสวนยังเชื่อว่าขบวนการดังกล่าวไม่ได้มีเพียงเท่านี้ โดยเชื่อว่าน่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสูงกว่านายภีมพงษ์เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอีกด้วย เพราะลำพังแค่นายภีมพงษ์คนเดียวนั้นคงไม่สามารถดำเนินการได้ถึงเพียงนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่พอมีหลักฐานความเชื่อมโยงอยู่บ้าง แต่คงต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัด
หากเป็นตามที่ ‘บิ๊กเต่า’ มีข้อมูล การปราบปรามอย่างจริงจัง กระชากหน้ากากผู้อยู่เบื้องหลังนายช่างรายนี้ รวมทั้งอีก 6 เคส ที่กทม.ส่งข้อมูลให้ นำตัวออกมาลงโทษให้ได้ทั้งขบวนการ จึงนับเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุด
บรรยายใต้ภาพ
บิ๊กไบก์ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ที่ยึดเป็นของกลาง
ยึดรถหรูพร้อมทรัพย์สินอื่นๆ กว่า 42 ล้านบาท
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำทีมแถลงผลปฏิบัติการ
นาทีตร.บุกจับคาบ้าน
ตร.จับนายภีมพงษ์ หิรัญพฤกษ์ นายช่างโยธา กทม.
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 26 พ.ค. 2567 (กรอบบ่าย)