เชือดพักราชการ ‘ช่างโยธา’โฉ่ กทม.ฟันซ้ำวินัย

 แย้มมีนายหนุนหลัง เร่งไล่บี้ยึดทรัพย์เพิ่ม

“บิ๊กเต่า” แย้ม นายช่างโยธา กทม. รีดสินบนสนามกอล์ฟไม่น่าทำคนเดียวเชื่อมีนายหนุนหลัง ชวดประกันตัวนอนคุกต่อ หลังหัวหมอไม่ให้ความร่วมมือตำรวจ ส่วนเมีย-สมุนให้ประกันในชั้นพนักงานสอบสวน ตะลึง นายช่างใหญ่หัวโจก ซุกทรัพย์สินอีกเพียบไว้บ้านเล็กอีก 4 คน เล็งตามไล่ยึดให้เกลี้ยง ขณะที่ “กทม.” เชือดซ้ำสอบวินัยร้ายแรง-พักราชการ พร้อมเปิดให้ยื่นอุทธรณ์ใน 30 วัน

จากกรณีตำรวจและเจ้าหน้าที่หลายหน่วย บุกเข้าตรวจค้น 5 จุดใน จ.นนทบุรี, ปทุมธานี และ จ.นครราชสีมา เพื่อทลายขบวนการเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธา กรุงเทพ มหานคร หรือแก๊ง 1% รีดสินบน 9 ล้านบาท แลกกับการช่วยแก้ไขแบบแนว

เขตโครงการถนนเลียบวารี ไม่ให้เข้าไปในเขตสนามกอล์ฟวินด์เซอร์ปาร์ค แอนด์ กอล์ฟคลับ ถนนสุวินทวงศ์ ย่านหนอง จอก กรุงเทพมหานคร ทั้งที่จริงแล้วมีการรุกล้ำแนวเขตของสนามกอล์ฟเข้าไป เล็กน้อย แต่ผู้ต้องหาลักไก่แอบอ้างกับเจ้าของสนามกอล์ฟเพื่อเรียกเงิน ได้ ผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย 1.นาย ภีมพงษ์ หิรัญพฤกษ์ อายุ 46 ปี มี ตำแหน่งเป็นนายช่างโยธาชำนาญงาน กองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักงานโยธา กรุงเทพ มหานคร 2.น.ส.อรนุช เดชดาด อายุ 38 ปี ภรรยานายภีมพงษ์ 3.นายปองพล ถาวรวงศ์ อายุ 52 ปี และ 4.น.ส.ลินดา กำลังเลิศ อายุ 43 ปี ทั้งคู่เป็นผู้ร่วมขบวนการ พร้อมยึดทรัพย์สินได้จำนวนมาก ทั้งรถยนต์เบนซ์-รถ จยย.ฮาเล่ย์ เดวิดสันทองคำ-เครื่องประดับและตั๋วจำนำทองคำรวมมูลค่าหลายสิบล้านบาท ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง โดยมีโทษถึงขั้นปลดออกหรือไล่ออกจากราชการ และยอมรับรู้เบาะแสมีเจ้าหน้าที่โครงการประมูลงานของ กทม. คอร์รัปชัน 6 ราย ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น

ความคืบหน้าต่อมาเวลา 10.30 น. วันที่ 21 พ.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าคดี ว่า หลังสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. อนุญาตให้ น.ส.อรนุช เดชดาด นายปองพล ถาวรวงศ์ และ น.ส.ลินดา กำลังเลิศ ประกันตัวในชั้นสอบสวน ส่วนนายภีมพงษ์ หิรัญพฤกษ์ นายช่างโยธาชำนาญงาน กองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักงานโยธา กทม. มีพฤติกรรมไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน หลังจากนี้จะเร่งสอบสวนให้เสร็จสิ้น และนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝากขังตามขั้นตอนกฎหมาย ทั้งนี้ในทางสืบสวนเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ มีตำแหน่งสูงกว่านายภีมพงษ์ เกี่ยวข้องด้วยหรือคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เพราะลำพังนายภีมพงษ์คนเดียวไม่น่าจะดำเนินการได้ถึงเพียงนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีพอจะมีหลักฐานความเชื่อมโยงอยู่บ้าง แต่ต้องขอเวลาตรวจสอบก่อน ว่าร่วมกระทำผิดหรือรับผลประโยชน์จากการทุจริตด้วยหรือไม่

รายงานแจ้งว่าสำหรับนายภีมพงษ์มีภรรยาอีก 4 คน ซึ่งเชื่อว่ามีการนำทรัพย์สินอีกจำนวนมากไปซุกไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามยึดทรัพย์หากเรื่องแดงขึ้น

ขณะที่ นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษก กทม. เปิดเผยว่า นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผอ.สำนักการโยธา ได้ลงนามในคำสั่งสำนักการโยธา แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 มาตรา 52 (4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร และบุคลากรกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยมาตรา 93 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 พร้อมอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 มาตรา 52 (4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 ประกอบมาตรา 101 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2565 สั่งพักราชการ ข้าราชการรายดังกล่าวแล้ว ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 67 เป็นต้นไป

ทั้งนี้หากไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน สามารถโต้แย้งได้ โดยให้ทำคำร้องทุกข์เป็นหนังสือยื่นต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการกรุงเทพมหานคร และบุคลากรกรุงเทพมหานคร หรือ ก.พ.ค. ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทราบหรือถือว่าทราบเหตุแห่งการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์

ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตำรวจคุมตัวนายภีมพงษ์ ผู้ต้องหามายื่นคำร้องฝากขังเป็นเวลา 12 วัน โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ท้ายคำร้องคัดค้านประกันตัว เนื่องจากคดีมีโทษสูง เกรงหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ศาลพิเคราะห์แล้วไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง จึงคุมตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป.

 



ที่มา:  นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 22 พ.ค. 2567

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200