“ตลาดคลองเตย” เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่หล่อเลี้ยงปากท้องคนในเมืองหลวง ตลาดแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบอาหาร พ่อค้าแม่ค้า และผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อหาสินค้าขวักไขว่ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังเป็นแหล่งแวะกินของอร่อยในย่านคลองเตยด้วยราคาสบายกระเป๋า เป็นอีกทางเลือกช่วยลดค่าครองชีพแทนที่จะไปช็อปปิ้งในห้างหรือซูเปอร์มาร์เก็ต
นอกจากแผงขายเนื้อสัตว์ทุกชนิด แผงขายอาหารทะเลสดๆ หมึก กุ้ง หอย ปู ปลาแล้ว ภายในตลาดคลองเตยยังมีแผงขายผักสดและผลไม้มากกว่า 300 ร้าน มีทั้งร้านผักที่บริการหั่นตัดแต่งให้พร้อมนำไปประกอบอาหาร ร้านขายผลไม้สดปอกสวยงามน่าอร่อย สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาปอกผลไม้เอง ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้บริโภคยุคนี้
จากความครบครันของวัตถุดิบอาหาร มีการลำเลียงสินค้าวัตถุดิบของสดเข้ามาขายในตลาดทุกเช้าค่ำ ในอีกมุมหนึ่ง ส่งผลให้ตลาดคลองเตยกลายเป็นแหล่งผลิตขยะอินทรีย์จำนวนมหาศาล เป็นภาระในการจัดการขยะ อีกทั้งเมื่อมีขยะตกค้างในตลาด เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเมือง
เหตุนี้ สำนักงานเขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร เริ่มคัดแยกขยะจากต้นทางในตลาดสดคลองเตย เมื่อปี 2560 จนเมื่อปี 2566 มีโครงการ “ไม่เทรวม” ซึ่งเป็นนโยบายจากผู้ว่าฯ ชัชชาติ จึงเพิ่มความเข้มข้นการคัดแยกขยะขยายผลทั่วพื้นที่ไปยังสถานประกอบการ โรงเรียน ร้านอาหาร โรงแรม ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจและเข้าร่วมโครงการในพื้นที่เกือบ 30 ราย
เฉพาะการคัดแยกขยะอินทรีย์ในตลาดคลองเตยได้รับความร่วมมือจากแผงร้านขายผักในตลาดกว่า 300 แผง ในการแยกเศษผักออกจากขยะทั่วไป โดยรถที่เก็บขยะอินทรีย์หรือขยะเศษผักผลไม้จะเข้าไปรับในช่วง 07.00-08.00 น. เป็นรถขยะขนาด 5 ตัน เพราะในช่วงเวลาที่รถเก็บขยะเข้าเก็บจะเป็นช่วงที่เปลี่ยนผลัดตลาด จากตลาดช่วงกลางคืนมาเป็นตลาดในช่วงเช้า แต่ถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาดังกล่าว ผู้ค้าตลอดจนเจ้าของแผงผักสามารถนำขยะอินทรีย์มาทิ้งได้ที่ตู้อัดขยะคอมแพคเตอร์ที่เขตจัดเตรียมไว้ให้ 3 ตู้ ในเวลา 10.00-06.00 น. ความจุประมาณ 8-10 ตัน
เศษผักออกจากตลาดคลองเตยแล้ว ปลายทางจะลำเลียงไปที่โรงหมักปุ๋ยอ่อนนุช ซึ่งขยะอินทรีย์ในพื้นที่เขตคลองเตยยังได้มาจากการคัดแยกขยะใบไม้จากการปฏิบัติงานของพนักงานกวาดและเปลือกผลไม้จากรถเข็นขายผลไม้ และยังมีคอกปุ๋ยหมักในพื้นที่ทั้งหมด 15 คอกอีกด้วย
เอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวในโอกาสมาเยี่ยมชมการบริหารจัดการขยะ บริเวณตลาดคลองเตย เขตคลองเตย เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เป็นการเยี่ยมชมการบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ที่ผ่านมา กทม.ใช้จ่ายเงินในการบริหารจัดการขยะจำนวนมากกว่า 16,000 ล้านบาทต่อปี การบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง จะสามารถลดงบประมาณในการบริหารจัดการขยะได้ ซึ่งจะนำงบประมาณส่วนนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ส่วนอื่นได้
“ตลาดคลองเตยเป็นแบบอย่างจัดการขยะอินทรีย์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นและจุดท้ายที่สุดของการบริหารจัดการมูลฝอยประเภทเศษอาหารผ่านโครงการไม่เทรวม ปีที่แล้ว กทม.สามารถประหยัดงบประมาณไปได้มากกว่า 141 ล้านบาท งบประมาณส่วนนี้สามารถนำไปใช้ในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาและสาธารณสุขได้ อีกประการหนึ่ง โครงการไม่เทรวม ทำให้การคัดแยกขยะประเภทอื่นๆ ง่ายขึ้น เพราะมีการคัดแยกขยะเปียก จะทำให้ขยะประเภทอื่นปนเปื้อนน้อยลง ขอย้ำไปยังชาวกรุงเทพฯ เมื่อแต่ละคนคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง กทม.จะไม่เทรวมแน่นอน” เอกวรัญญูกล่าว
นางเบญญา อินทรวงศ์โชติ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย กล่าวว่า การบริหารจัดการขยะในตลาดคลองเตยเป็นรูปธรรม เพราะตลาดคลองเตยและภาคีเครือข่ายภาคเอกชนหลายเจ้าให้การสนับสนุนการจัดการขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง โดยขยะประเภทเศษผักที่เขตคลองเตยรวบรวมจากตลาดคลองเตยได้วันละประมาณ 15-18 ตัน จากรถขยะที่เข้าเก็บจะได้วันละ 5-6 ตัน และจากตู้อัดขยะคอมแพคเตอร์วันละ 8-10 ตัน จะนำไปผลิตปุ๋ยหมักที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช
“เศษผักผลไม้เมื่อผ่านกระบวนการทำปุ๋ยเรียบร้อยแล้ว จะไปนำปุ๋ยเหล่านั้นนำมาหมุนเวียนใช้และแจกจ่ายในสวนสาธารณะ ใช้ดูแลต้นไม้ในพื้นที่เขตคลองเตย ซึ่งเขตมีศูนย์การเรียนรู้การคัดแยกขยะอยู่ที่สวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า พระราม 3 สามารถเรียนรู้ได้ตั้งแต่กระบวนการการคัดแยกขยะ ไปจนถึงการเปลี่ยนขยะอินทรีย์ไปเป็นปุ๋ย และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านการเกษตร เพราะในสวนแห่งนี้มีแปลงพืชผักสวนครัวที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ได้ปลูกพืชผักไว้ ซึ่งพืชผักเหล่านี้ก็ได้รับสารอาหารจากปุ๋ยที่ได้มาจากขยะอินทรีย์ในพื้นที่เขตคลองเตย”
ตลาดคลองเตยวันนี้จึงไม่ใช่เพียงสถานที่จับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน แต่เป็นโมเดลคัดแยกขยะที่เกิดจากแรงสนับสนุนทุกภาคส่วนให้กับตลาดน้อยใหญ่ใกล้บ้าน เพื่อสร้างเมืองน่าอยู่ ลดปริมาณขยะกองโตที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตคนเมือง.
บรรยายใต้ภาพ
เศษผักจากตลาดสดคลองเตยคัดแยกไม่เทรวม
ตู้อัดขยะคอมแพคเตอร์เครื่องมือจัดการขยะอินทรีย์
ขยะเศษผัก 15 ตันต่อวัน รถขยะรวบรวมไปโรงหมักปุ๋ย
จัดการเศษขยะผลไม้ตั้งแต่ต้นทาง
ปุ๋ยจากเศษผักในตลาดคลองเตยนำมาใช้แปลงนา
เบญญา อินทรวงศ์โชติ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 19 พ.ค. 2567