ไม่กดมิเตอร์-นำร่องเซ็นทรัลเวิลด์ก่อนขยายผล
เมื่อวันที่ 9 พ.ค.67 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร แถลงข่าวความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนราชดำริ ตามโครงการ “ราชประสงค์โมเดล” โดย พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ย่านราชประสงค์มีปัญหาจราจรติดขัด เนื่องจากรถแท็กซี่และสามล้อส่วนหนึ่งที่จอดรถแช่บริเวณช่องซ้ายสุด ทั้งสองฝั่งของถนนราชดำริทำให้รถประจำทางเข้าป้ายไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีรถแท็กซี่เรียกราคาเหมาจ่ายไม่กดมิเตอร์ ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ดังนั้น กทม. จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยในอนาคต กทม.จะเพิ่มการติดกล้องเพื่อตรวจสอบรถรับจ้างที่จอดแช่หรือไม่กดมิเตอร์ และขยายผลไปยังจุดที่มีเรื่องร้องเรียน เช่น วัดโพธิ์ Central ตลาดนัดจตุจักร
ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ปรับปรุงกายภาพของพื้นที่ ได้แก่ ทำเครื่องหมายพื้นทาง Bus Stop ให้ชัดเจนขึ้น ปรับเปลี่ยนเกาะสีสมมติให้เป็นช่องจราจรอีก 1 ช่องจราจร ยุบรวมป้ายหยุดรถประจำทางให้เหลือ 1 ป้าย ติดตั้งอุปกรณ์แบ่งช่องจราจร (Lane Block) บนถนนราชดำริทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อให้รถโดยสารประจำทางเข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารสะดวกขึ้น ทั้งนี้ ก่อนติดตั้ง Lane Block มีรถที่ฝ่าฝืนจอดในช่องทางซ้าย 489 คัน/วัน และหลังติดตั้ง Lane Block พบรถที่กระทำผิดลดลง เหลือเพียง 45 คัน/วัน นอกจากนี้ได้ติดตั้งกล้อง CCTV ซึ่งประมวลผลด้วยระบบ AI หากพบรถที่จอดแช่เกินระยะเวลา จะรายงานผลแสดงวัน เวลา สถานที่ในการฝ่าฝืนและหมายเลขทะเบียนรถ ส่งไปยังสำนักการจราจรและขนส่งสำนักเทศกิจ สำนักงานเขต รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังพบว่า มีนักท่องเที่ยวบางส่วน ยังเรียกรถแท็กซี่หน้าศูนย์การค้าบนถนนราชดำริทั้งสองฝั่ง กทม.จึงจัดทำป้ายแจ้งจุดจอดให้บริการรถแท็กซี่ในพื้นที่ศูนย์การค้า ในรูปแบบ 3 ภาษา ไทย อังกฤษ จีน และติดตั้งป้ายให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปได้ ทราบว่า ช่องทางซ้ายรถทุกประเภทสามารถเข้าใช้ได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถจอดแช่ได้ โดยในส่วนของกอง บชน.จะเพิ่มความเข้มงวดในการกวดขันและลงโทษตามกฎหมาย และกรมการขนส่งทางบกได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทุกวัน นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันปักหมุดจุดจอดรับ-ส่ง ในพื้นที่บริเวณถนนราชดำริในจำนวนนี้ 4 บริษัท ได้แก่ Grab, Bolt, Bonku, และ Maxim เริ่มดำเนินการแล้ว.
ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 10 พ.ค. 2567
