พบ “กากแคดเมียม” หลายจังหวัด กทม.เองก็ไม่รอด เพราะมีเล็ดลอดมาซุกไว้โกดังย่านบางซื่อ ทำผวากันไปทั่ว “รอบรั้วฯ” ฟังประชุมสภา กทม. ครั้งล่าสุด น.ส. ภัทรภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย สก.เขตบางซื่อ ยื่นกระทู้ถามสดฝ่ายบริหารปมแผนรับมือเน้น 3 ข้อ
1.จะขนย้ายเมื่อไหร่ และขนย้ายอย่างไร 2.กทม.มีอำนาจหน้าที่อย่างไรใน การจัดการปัญหาให้โปร่งใส และ 3.จะรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต ทั้งการสื่อสารและการบริหารอย่างไร…
งานนี้ น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งกำกับดูแลด้านสาธารณภัย ลุกขึ้นชี้แจงย้ำมีการวางแผนร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเตรียมขนย้ายออกจากพื้นที่ช่วงวันที่ 28-30 เม.ย.นี้ พร้อมแจกแจงวิธีขนโดยใช้ถุงซิล และกำหนดมาตรการในเส้นทางขน ตลอดจนการทำความสะอาดพื้นที่
ส่วนเรื่องขออนุญาตในการประกอบกิจการอันตรายนั้น ต้องมีการขออนุญาตและจดทะเบียน โดยต้องแนบแผนที่การกำกับควบคุมสถานที่ แผนและเครื่องมือในการทำความสะอาดสารเคมีกรณีเกิดการรั่วไหลในโรงงานและผ่านการตรวจสอบของสำนักงานเขต
ดังนั้น การตรวจสอบจะมีสำนักงานเขตและสำนักอนามัยดูแล ส่วนงานสิ่งแวดล้อมทำงานร่วมกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์อันตรายจะใช้แผนเผชิญเหตุของกทม.และชุดปฏิบัติการกู้ภัยสารเคมีและวัตถุอันตราย ของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ขณะที่การตรวจสอบพื้นที่ให้โปร่งใสจะเป็นการตรวจใบอนุญาตประกอบกิจการเป็นหลัก โดย กทม. ยังมีแผนสื่อสารภาวะวิกฤติเพื่อแจ้งข้อมูล เพียงแต่เจ้าหน้าที่ยังขาดความชำนาญในการใช้งานแผนยามเร่งด่วน ดังนั้น จากนี้จะมีการให้ข้อมูลประชาชนให้ถูกต้องและครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
ต้องรอดูกันยาว ๆ ว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ออกมา รวมถึงการปูพรมสำรวจโรงงานในลักษณะเดียวกัน 639 แห่งที่ “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” สั่งการไปก่อนหน้านี้ จะมีผลลัพธ์หรือสกัดไม่ให้ซ้ำรอยได้จริงหรือไม่ .
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 26 เม.ย. 2567