ยันผลตรวจบางซื่อ! ดิน-น้ำ-อากาศมีพิษ
“โฆษกกทม.-คพ.” เปิดผลตรวจโรงงานย่านบางซื่อ พบดินในโรงงานปริมาณแคดเมียมสูงเกินเกณฑ์ ขณะที่ดินนอกโรงงาน-แหล่งน้ำ-อากาศ ไม่พบการปนเปื้อน “บิ๊กก้อง” สั่งดำเนินคดีเด็ดขาดไม่ละเว้น หากพบ จนท.รัฐ เอี่ยวขบวนการขนกากแคดเมียม
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการที่กรมควบคุมมลพิษร่วมกับ สำนักอนามัย กทม. เข้าตรวจสอบกรณีตรวจพบกากแคดเมียมและสังกะสี ซึ่งถูกเก็บไว้ใน บริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด ผลการตรวจสอบพบกอง กากตะกอนแคดเมียมและสังกะสีภายในโรงงานจำนวน 99 ถุง คิดเป็นปริมาณ 150 ตัน และได้ตรวจยึดเป็นของกลาง ในการดำเนินคดี พร้อมสุ่มเก็บตัวอย่างกากของเสียจำนวน 3 ตัวอย่าง ดินในโรงงาน จำนวน 2 ตัวอย่าง และดินนอกโรงงาน ในเขตชุมชน ห่างจากโรงงานช่วงระยะ 50-400 เมตร และเมื่อตรวจวิเคราะห์ ด้วยเครื่องเอกซเรย์ฟลูออเรสเซนซ์แบบกระจายพลังงาน (Energy Dispersive X-Ray Fluorescence; EDXRF) พบว่ากากแร่มีปริมาณแคดเมียมสูงกว่าค่า TTLC (ถือเป็นของเสียอันตราย) โดย ดินในโรงงานพบการปนเปื้อนแคดเมียมสูงเกินเกณฑ์ ส่วนดินนอกโรงงานไม่พบการปนเปื้อนแคดเมียม อีกทั้งตรวจวัด ไอระเหยสารเคมีในบรรยากาศทั้งภายในภายนอกโรงงานและชุมชนใกล้เคียง ไม่พบสารอันตราย รวมทั้งจากการเก็บตัวอย่างน้ำพบว่าคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ เนื่องจากบริเวณเก็บกากแคดเมียมไม่มีกิจกรรมที่ใช้น้ำในการประกอบกิจการและไม่พบการประกอบกิจการ อย่างไรก็ตามการจัดการกับกากแคดเมียมที่พบ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่จะเป็นผู้วางแผนและวางแนวทาง รวมถึงมาตรการป้องกันความปลอดภัย ในการขนย้ายตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลาย ทาง และจัดเตรียมพื้นที่ ตลอดจนสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัยทั้งก่อนและหลังขนย้าย
สอดรับกับ น.ส.ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม ที่ระบุว่า ผลการตรวจวิเคราะห์ โดยห้องปฏิบัติการ คพ. พบว่า ดินนอกโรงงานบริเวณชุมชน รวมทั้งน้ำในคลองบางเขนและคลองบางเขนใหม่ที่อยู่ใกล้เคียงที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตรวจไม่พบสารแคดเมียม ทั้งนี้ในช่วงวันสงกรานต์ได้จัดเตรียมทีมตอบโต้เหตุฉุกเฉินของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.) พร้อมอุปกรณ์การตรวจวิเคราะห์มลพิษ ในภาคสนาม และห้องปฏิบัติการสิ่งแวด ล้อม ณ ที่ตั้ง กรมควบคุมมลพิษ (ส่วนกลาง) ศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1-16 ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมและให้คำแนะนำทางวิชาการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ที่ กองปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส.ร่วมกันแถลงความคืบหน้ากรณีตรวจยึดกากแคดเมียม โดยพล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. กล่าวว่า ทาง บก.ปทส. อยู่ระหว่างการ ขออนุญาตสอบสวนจากกองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ส่วนการที่ยัง ไม่แจ้งข้อกล่าวหา นายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด นั้น เพราะบริษัทดังกล่าวได้รับอนุญาตให้เป็นที่ปลายทางที่ลงของ ดังนั้นการดำเนินการเรื่องครอบครองวัตถุอันตรายฯ จึงต้องดูเจตนา เพราะต้องประกอบด้วย 4 พ.ร.บ. ได้แก่ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.แร่, พ.ร.บ.สาธารณสุข, พ.ร.บ.ส่งเสริมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดตาม พ.ร.บ. โรงงาน เท่านั้น
ผบก.ปทส.กล่าวว่า ทั้งนี้เชื่อว่า ในการขนย้ายต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐให้ความร่วมมือ มีการทำเป็นขบวนการ ซึ่งขั้นตอนจากนี้รอให้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษกับอุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งทางกระทรวงอุตสาหกรรมมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากผลเป็นเช่นใด ทางตำรวจก็จะขอนำมาดำเนินการตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่คนไหนบกพร่อง ก่อนมอบให้ บก.ปปป. ดำเนินคดีต่อไป ในส่วนกากแคดเมียมที่เหลือ ที่ยังตรวจไม่พบนั้น หากอิงจากข้อมูลการที่ระบุว่ามี 1.3 หมื่นตัน แต่ขณะนี้พบแล้วกว่า 1.25 หมื่นตัน ซึ่งถือว่าใกล้เคียงมากแล้ว เพราะการที่เข้าไปตรวจดู ก็เป็นการประมาณการณ์จากถุงที่บรรจุ ไม่ได้ชั่งจริง ดังนั้นจึงต้องรอให้มีการตรวจสอบตาชั่ง เพื่อความชัดเจน
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ได้สั่ง ให้สืบสวนสอบสวนขยายผล พร้อมจะดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่า จะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเอกชนหากพบการ กระทำผิด จะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกคนไม่มีละเว้น สำหรับแนวทางการทำงานของตำรวจ บก.ปทส. ต่อไปหลังจากนี้จะเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังจะเห็นว่า มีการไปจับบ่อขยะ ดูเรื่อง น้ำเสีย อากาศเสีย และเรื่องต่าง ๆ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา โดยต่อไปจะ มีการประสานร่วมกันกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 13 เม.ย. 2567