กรุงเทพฯ * กทม.เผยผลสอบโรงงานบางซื่อซุกแคดเมียม 150 ตัน พบดินในโรงงานอันตราย ส่วนอากาศ-น้ำนอกโรงงานปกติ ปภ.สมุทรสาครระบุผลตรวจฉี่ 16 คนค่าเกินมาตรฐาน! “พิมพ์ภัทรา” เล็งหารือแผนขนกลับอีกรอบ 13 เม.ย. ปลัดอุตฯ เชื่อแร่อันตรายตามครบหมดแล้ว ผบก.ปทส.ชี้มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมขบวนการขนส่ง
เมื่อวันศุกร์ที่ 12 เม.ย.2567 ยังคงมีความต่อเนื่องจากปัญหากากแคดเมียมซึ่งเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม โดยนายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงผลการตรวจสอบของกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับสำนักอนามัย กทม. ที่ได้เข้าตรวจสอบ กากแคดเมียมในบริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด เลขที่ 1532/1 ถนนประชาราษฎร์ 1 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ เมื่อช่วงวันที่ 11 เม.ย.ว่า 1.พบกองกากตะกอนแคดเมียมและสังกะสีภายในอาคารโรงงาน 99 ถุง คิดเป็นปริมาณ 150 ตัน ซึ่งกากตะกอนดังกล่าวถูกยึดไว้เป็นของกลางในการดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน
2.สุ่มเก็บตัวอย่างกากของเสีย 3 ตัวอย่าง ดินในโรงงาน 2 ตัวอย่าง และดินนอกโรงงานในเขตชุมชน ห่างจากโรงงานช่วงระยะ 50 เมตร 100 เมตร 150 เมตร 200 เมตร 250 เมตร และ 400 เมตร จำนวน 9 ตัวอย่าง และเมื่อตรวจวิเคราะห์ด้วยเครื่องเอกซเรย์ฟลูออเรสเซนซ์แบบกระจายพลังงาน พบว่ากากแร่มีปริมาณแคดเมียมสูงกว่าค่า TTLC (ถือเป็นของเสียอันตราย) โดยดินในโรงงาน พบการปนเปื้อนแคดเมียมสูง เกินเกณฑ์การปนเปื้อนในดินฯ ส่วนดินนอกโรงงานตรวจไม่พบการปนเปื้อนแคด เมียม 3.ตรวจวัดไอระเหยสารเคมี ในบรรยากาศ 3 จุด ได้แก่ บริเวณภายในโรงงาน หน้าโรงงาน และชุมชนห่างจากโรงงาน 250 เมตร ผลการตรวจไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศ และ 4.เก็บตัวอย่างน้ำทิ้งบริเวณลำรางภายในอาคาร 2 จุด และเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินบริเวณโดยรอบพื้นที่โรงงาน 3 จุด พบว่าคุณภาพน้ำเบื้องต้นทั้งสองพื้นที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ด้านกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร รายงานการปฏิบัติของแต่ละหน่วยงาน กรณีตรวจพบกากแคดเมียมในพื้นที่ โดยจุดที่พบทั้ง 3 จุด มีคำสั่งประกาศจากทางจังหวัดห้ามเข้าพื้นที่ ส่วนการตรวจสุขภาพประ ชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด จำนวน 34 ราย เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2567 พบว่ามีอาการผื่นคันบริเวณผิวหนัง 4 ราย จึงรักษาเบื้องต้น และให้คำแนะนำในการปฏิบัติดูแลสุขภาพตนเอง และตรวจปัสสาวะประชาชนทั้ง 34 คน ปัจจุบันผลตรวจออกมาแล้ว 33 คน พบค่าแคดเมียมอยู่ในเกณฑ์ปกติ 17 คน มีที่เกินค่ามาตรฐาน 16 คน ในรายที่พบผลตรวจเกินค่าอ้างอิง ทีมสอบสวนโรคดำเนินการสอบสวนโรคเพื่อยืนยันว่าการปนเปื้อนสารแคดเมียมมาจากแหล่งใด
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ โดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร ได้เก็บตัวอย่างดินและน้ำในโรงงานและบริเวณโดยรอบโรงงานไปตรวจสอบหาสารปนเปื้อน ปรากฏว่าค่าสารแคดเมียมในดินและอากาศ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด เจ้าหน้าที่ได้เก็บกากอุต สาหกรรมที่ยังไม่ได้ผ่านการหลอมมีปริ มาณแคดเมียม 19% เก็บตัวอย่างดินนอกโรงหลอมมีปริมาณแคดเมียม 17% เก็บตัวอย่างดินในโรงหลอม มีปริมาณแคดเมียม 21% ส่วนดินหน้ารั้วโรงงานมีปริมาณแคด เมียม 12% และดินบริเวณชุมชนเหนือลมและท้ายลมในระยะ 10 เมตร ไม่พบปริมาณแคดเมียม ได้ตรวจไม่พบไอระเหยสารเคมีในบรรยากาศ และเก็บตัวอย่างน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะบริ เวณใกล้เคียงโรงงานของบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ที่คลองบางหลวงเดิมบาง และคลองบางน้ำจืด รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง บริษัท ชิน หงส์ เฉิง อินเตอร์เทค (2008) จำกัด ที่คลองเทพกาญจนา พบว่า ค่าสารแคดเมียมเป็นไปตามมาตรฐานยังไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดการการตะกอนแคดเมียมว่า ได้รับข้อมูลร่างแผนนำกากแคดเมียมกลับโรงงานที่ตาก และปิดบ่อฝังกลบจาก บมจ.เบาด์ แอนด์ บียอนด์ฯ แล้ว ซึ่งเมื่อพิจารณาร่างแผนที่เสนอแล้ว ยังมีความกังวลในเรื่องวันที่สิ้นสุดการดำเนินงาน และจำนวนรถบรรทุก สภาพของบ่อฝังกลบ ระบบบำบัดน้ำเสีย กระบวนการปรับเสถียรกากแคดเมียม ขั้นตอนการเคลื่อนย้าย และการดำเนินงานตามมาตรการ EIA จึงได้นัดหมายผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ บมจ.เบาด์แอนด์ บียอนด์ฯ หารือในวันเสาร์ที่ 13 เม.ย. เวลา 14.00 น.
ด้านนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้สั่งให้ศูนย์ วิจัยและเตือนภัยมลพิษของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจสอบและคำนวณปริมาณน้ำหนักปัจจุบันของกากตะกอนแร่แคดเมียมที่สามารถตรวจยึดได้ เพื่อเปรียบเทียบกับน้ำหนักเดิมที่มีค่าความชื้นจากแหล่งฝังกลบในจังหวัดตาก เพื่อเตรียมการสำหรับวางแผนการขนย้ายกลับคืนบ่อคอนกรีตฝังกลบเดิม พบว่าจากการตรวจสอบตัวอย่างกากแร่แคดเมียมที่ต้นทางจาก จ.ตาก มีค่าความชื้นอยู่ที่ 33% และตัวอย่างกากตะกอนแร่แคดเมียมที่ตรวจยึดได้มีค่าความชื้นเหลือเพียง 18% ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ากากตะกอนแร่แคดเมียมที่พบตอนนี้ใกล้เคียงปริมาณเดิมที่ถูกขนย้ายออกมาแล้ว
“ได้กำกับให้ทีมเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดยังคงตรวจสอบและติดตามโรงงานและโกดังที่อยู่ในพื้นที่ต้องสงสัย ให้ค้นหากากตะกอนแร่แคดเมียมอย่างต่อเนื่องและครบถ้วน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่ากระทรวงอุตสาห กรรมใส่ใจในความปลอดภัยและตั้งใจคลายความกังวลในทุกๆ เรื่อง”
สำหรับปริมาณกากตะกอนแร่แคด เมียมที่พบจากการประเมินล่าสุด 12,535 ตันประกอบด้วย 1.บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอลจำกัด จ.สมุทรสาคร 6,492 ตัน 2.บริษัท ซินหงส์ เฉิง อินเตอร์ เทค (2008) จำกัด จ.สมุทรสาคร 1,034 ตัน 3.โกดังคลองมะเดื่อ จ.สมุทรสาคร 468 ตัน 4.โกดังคลองกิ่ว จ.ชลบุรี 4,391 ตัน และ 5. บริษัท ล้อโลหะไทยเมททอล จำกัด เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 150 ตัน
ส่วน พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีกากแคดเมียม ที่ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหานายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ว่า บริษัท เจ แอนด์ บีฯ ได้รับอนุญาตให้เป็นที่ปลายทางที่ลงของกากแคดเมียม ดังนั้นการดำเนินการเรื่องครอบครองวัตถุอันตรายฯ จึงต้องดูเจตนาก่อน เพราะต้องประกอบด้วย 4 พระราชบัญญัติ ได้แก่ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.แร่, พ.ร.บ. สาธารณสุข, พ.ร.บ.ส่งเสริมรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เท่ากับตอนนี้สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้แค่ผิด พ.ร.บ.โรงงานเท่านั้น
“การขนกากแคดเมียม เชื่อว่าต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐให้ความร่วมมือและทำเป็นขบวนการ โดยตอนนี้ต้องรอให้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษกับอุตสาหกรรมจังหวัดก่อน แต่ก่อนหน้านี้ทีมสอบสวนได้ลงพื้นที่ จ.ตาก เพื่อขอข้อมูลเอกสารต่างๆ แล้ว แต่กระทรวงอุตสาหกรรมประสงค์ที่จะตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดเอง โดยผ่านการตั้งคณะกรรม การตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งหากคณะกรรมการชุดนี้ได้รวบรวมเอกสารแล้ว ตำรวจก็จะขอนำมาดำเนินการตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่คนไหนบกพร่อง และจะประสาน บก.ปปป.ดำเนินคดีต่อไป” พล.ต.ต.วัชรินทร์ระบุ.
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 13 เม.ย. 2567