นายสุนทร สุนทรชาติ ผอ.สำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงการประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบจากการตรวจพบกากแคดเมียมในพื้นที่เขตบางซื่อ ว่า สนอ.มีแนวทางเฝ้าระวังสุขภาพผู้ปฏิบัติงานสัมผัสสารแคดเมียมและเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย กลุ่ม 1 กลุ่มคนงานที่สัมผัสแคดเมียม ได้ซักประวัติตามแบบสอบสวนโรค ตรวจสุขภาพ เลือด ปัสสาวะ ส่งห้องปฏิบัติการและกลุ่ม 2 การเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนแบ่งเป็น (1) กลุ่มผู้อยู่ในบ้านเดียวกันกับกลุ่ม1กรณีผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการผิดปกติให้ตรวจ 100% (2) กลุ่มผู้ที่มีโอกาสที่จะได้สัมผัสแคดเมียมอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน เช่น อยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตร มีการซักประวัติตามแบบสอบสวนโรค หากมีความเสี่ยงคะแนนมากกว่า 7 คะแนน ต้องพบแพทย์และเก็บปัสสาวะส่งห้องปฏิบัติการ (3) กลุ่มเปราะบางและมีโรคประจำตัวมีการซักประวัติตามแบบสอบสวนโรค หากมีความเสี่ยงคะแนนมากกว่า 1 ต้องพบแพทย์และเก็บปัสสาวะส่งห้องปฏิบัติการ
ขณะเดียวกันกทม.ยังได้ตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ผลิต หรือมีการใช้แร่และสารเคมีอันตรายอย่างเข้มงวด โดย สนอ. สั่งการให้สำนักงานเขตสำรวจสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทการถลุงแร่ การหลอมหรือหล่อโลหะทุกชนิด และให้ตรวจสอบว่ามีการลักลอบเก็บกากแคดเมียมกากสังกะสีหรือกากอุตสาหกรรมอันตรายอื่นใดหรือไม่และเมื่อวันที่ 11 เม.ย.67 ปลัดกทม. สั่งการให้สำนักงานเขตเร่งสำรวจสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทหลอม หรือหล่อโลหะทุกชนิดหากตรวจพบการลักลอบจัดเก็บกากแคดเมียม ขอให้สำนักงานเขตออกประกาศห้ามอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการในพื้นที่ที่กำหนดพร้อมอายัดกากแคดเมียม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 16 เม.ย. 2567