7 คนงานมหาชัยแคดเมียมยังสูง เจ้าของ รง.ขอเลื่อน ให้ปากคำ ตร.ดูเจตนาครอบครอง สอบนายหน้าติดต่อซื้อขาย พบโยงทุนจีนส่งกลับไป ‘ชัชชาติ’ยันยัง ไม่แพร่กระจาย
เจ้าของรง.ขอเลื่อนให้ปากคำ
เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนัดหมายให้ นายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด มาให้ปากคำที่ บก.ปทส.ว่า หลังจากวันที่ 5 เมษายน ที่อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ บริษัท เจ แอนด์ บีฯ เจ้าหน้าที่จึงรอการสอบสวนก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายเจษฎา และนัดหมายให้เข้ามาให้ปากคำ วันนี้ (11 เมษายน) แต่นายเจษฎาขอเลื่อนไปวันที่ 18 เมษายน เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด ต้องรอเอกสารเพื่อดูเหตุผลของการขอเลื่อนอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้อยู่ระหว่างการค้นหาแคดเมียม เจ้าหน้าที่พยายามติดต่อเพื่อขอทราบข้อมูลจากนายเจษฎา แต่ช่วงแรกยังไม่สามารถติดต่อได้ เริ่มติดต่อได้ภายหลัง นายเจษฎาอ้างว่าจะขอปรึกษาทนายเรื่องคำให้การก่อน การเชิญมาให้ปากคำตามกำหนดวันนี้เป็นเพียงแค่เชิญมาให้ปากคำ ยังไม่ได้ออกหมายเรียก แต่หากมาให้ถ้อยคำแล้วก็จะต้องพิจารณาในเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะตอนนี้ข้อกล่าวหายังไม่ครบถ้วน และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากการดำเนินคดีมีวัตถุอันตรายไว้ในครอบครองจะต้องประกอบด้วย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.แร่, พ.ร.บ.สาธารณสุข และ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษ จากนั้นจึงจะได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมกันทีเดียว
ดูเจตนาครอบครองแคดเมียม
พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า ส่วนเหตุผลยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาเหมือนกับรายอื่นๆ ที่เข้าไปตรวจค้นทั้งชลบุรีและสมุทรสาคร เพราะบริษัท เจ แอนด์ บีฯ ได้รับอนุญาตให้เป็นปลายทางที่ลงของกากแคดเมียม ดังนั้น การดำเนินการเรื่องครอบครองวัตถุอันตรายจึงต้องดูเจตนาก่อน เท่ากับว่าตอนนี้จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้แค่ผิด พ.ร.บ.โรงงานเท่านั้น รวมถึงรอเจ้าหน้าที่มาให้การเพิ่มเติมหลังจากพบแคดเมียมเพิ่มที่บริษัท เจ แอนด์ บีฯ เมื่อวันที่ 10 เมษายนด้วย อย่างไรนายเจษฎาก็ต้องถูกดำเนินคดี แต่รอการสอบสวน ก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และไม่มีคนใหญ่คนโต หรือเจ้าตัวก็ไม่ได้เป็น คนใหญ่โตตามที่เป็นกระแสข่าว เป็นแค่คนธรรมดาที่ไปกู้ยืมเงินมาซื้อสินค้าล็อตนี้โดยเฉพาะ
ส่วนการดำเนินคดีกับนางวรรณา เจ้าของโรงงานที่ถูกตรวจพบ จำนวน 150 ตัน ในเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร และนางวรรณา ภรรยาของนายเจษฎา จากการสอบปากคำนางวรรณาอ้างว่าไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกในการนำแคดเมียมมา และมีการทะเลาะกับสามี และน่าจะหาที่เก็บยังไม่ได้จึงเก็บไว้ที่โรงงานย่านบางซื่อ มีการนำเข้ามาฝากไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 และเป็นแคดเมียมที่เป็นของ กลางล็อตต้นๆ เคลื่อนย้ายมาจาก จ.ตาก หลังจากนี้เจ้าของโรงงานจะถูกดำเนินคดีในฐานเข้าข่ายความผิดมากกว่า 1 ข้อหาคือ ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต, พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.แร่
สอบนายหน้าติดต่อซื้อขาย
พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้นเมื่อวานนี้สืบเนื่องจากการตรวจสอบว่า ในบริษัท เจ แอนด์ บีฯ มีใครเป็นกรรมการบริษัทบ้าง พบชื่อนายเจษฎา มีบ้าน 3 จุดคือ ชลบุรี, สมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร และเมื่อวันที่ 10 เมษายน จะไปทำการส่งหมายเรียก แต่พอไปถึงปรากฏว่าไปเจอกากแคดเมียม เก็บไว้ จึงได้ประสานกรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้ามาตรวจสอบ
ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวนายหน้าชื่อนายกฤต หลังจากเข้าตรวจค้นโรงงานของนายจางที่สมุทรสาครเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2567 แล้วพบข้อมูลเอกสารว่ามีนายหน้าติดต่อซื้อขายด้วยอีกคนคือนายกฤตนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวนาย กฤตได้แล้ว สอบปากคำไว้เป็นพยานก่อน เบื้องต้นจากการสอบปากคำพบว่านาย กฤตเป็นพนักงานของบริษัท เจ แอนด์ บีฯ ดูแลพื้นที่ จ.ตาก แต่ถูกพักงานไปแล้ว และนายกฤตก็ได้รับเงินค่านายหน้าจากการซื้อขายกากแคดเมียม ติดต่อกับนายจางตันละ 200 บาท รับเงินไปแล้ว 200,000 บาท จากนายจาง เงินค่านายหน้าทั้งหมด 1,000,000 บาท จากการตรวจสอบพบว่านายกฤต เป็นนายหน้าให้กับเจ้าเดียว ยังไม่พบข้อมูลให้เจ้าอื่น
พบโยงทุนจีนส่งกลับไป
สำหรับแนวทางการสืบสวนขยายผลและตามหากากอุตสาหกรรมที่เหลือนั้น พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า จะเน้นการสอบสวน เพราะการสอบสวนจะสามารถใช้อำนาจพนักงานสอบสวนไปยึด ไปตรวจสอบ ทำให้ได้ข้อมูลหลักฐานเพิ่มขึ้น ส่วนฝ่ายสืบสวนก็ยังคงทำงานอีกส่วนเช่นกัน และการดำเนินการที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นสอบสืบสวนขยายผลจากพยานเอกสารเป็นหลัก พบว่าบริษัทรับซื้อแคดเมียมมีแต่ชื่อของคนจีน การขายอยู่ที่ 22,000 หยวนต่อตัน แสดงว่าการค้าขายใช้เงินสกุลจีน ทำให้เห็นความเชื่อมโยงว่าสุดท้ายก็มีการส่งออกไปที่จีน ส่วนตัวเลขกากแคดเมียมที่เหลือประมาณ 1,000 ตัน ขณะนี้ใกล้เคียงแล้ว หรืออาจจะครบแล้ว แต่ก็ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพราะก็อยู่ที่การขายซื้อทั้งหมด เนื่องจากได้กำหนดราคาขายที่ตันละ 8,250 บาท เมื่อมีการขายจึงต้องชั่งใหม่ทั้งหมด ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐส่วนไหนช่วยเหลือหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนเช่นกัน รวมถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตตั้งแต่การขนย้ายจาก จ.ตาก มา จ.สมุทรสาคร จะไม่มีเจ้าหน้าที่รับรู้เลยหรือไม่นั้นก็อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปริมาณกากตะกอนแคดเมียมที่ตรวจพบรวมทั้งหมด 1.บริษัท J&B (106/60) สมุทรสาคร ตรวจพบ 6,151 ตัน 2.บริษัท J&B (60) สมุทรสาคร ตรวจพบ 340.5 ตัน 3.ต.คลองกิ่ว จ.ชลบุรี 4,391.11 ตัน 4.บริษัท ซิน หงฯ จ.สมุทรสาคร ตรวจพบ 1,034 ตัน 5.โกดังคลองมะเดื่อ จ.สมุทรสาคร ตรวจพบ 468 ตัน 6.บริษัท ล้อโลหะไทยฯ แถวบางซื่อ กทม. ตรวจพบ 150 ตัน สรุป 12,534.61 ตัน
‘ชัชชาติ’ยันยังไม่แพร่กระจาย
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการพบกากแคดเมียมที่โรงงาน ของบริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด เขตบางซื่อ
นายชัชชาติกล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการหารือกันระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เพราะดูแล้วมีโอกาสเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯแน่นอน จึงสั่งการให้ตรวจสอบโรงหลอม 98 แห่ง โรงเคลือบ 154 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน ได้รับการรายงานว่าสารแคดเมียมที่ตรวจพบมีที่มาจากโรงงานในสมุทรสาครที่ตรวจพบไปก่อนหน้านี้ในลักษณะของการฝากเก็บ
โรงงานแห่งนี้พบกากแคดเมียม 98 ถุง น้ำหนักประมาณ 150 ตัน ยังไม่ได้มีผลกระทบ อันตรายรอบข้าง ไม่มีการแพร่กระจายทางอากาศ เพราะได้นำเครื่องมือไปตรวจเก็บตัวอย่างแหล่งน้ำ เก็บดิน ยังไม่พบการปนเป้อนสารแคดเมียม ไม่ใช่สารกัมมันตภาพรังสี
ผู้อำนวยการเขตบางซื่อจึงประกาศพื้นที่อันตรายเฉพาะพื้นที่โรงงานตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 รวมถึงได้แจ้งความเอาผิดในข้อหาเก็บวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต
สั่งตรวจเข้ม639โรงรีไซเคิล
นายชัชชาติกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากมีการสัมผัสแคดเมียมเป็นเวลานานก็จะเกิดอันตรายได้
“ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล ไม่ได้มีอันตรายกับคนรอบข้าง ได้สั่งการทุกเขตสำรวจโรงงานในลักษณะเดียวกัน โรงงานรีไซเคิล 639 แห่ง น่าจะใช้เวลา 2-3 วัน หากประชาชนพบถุงบิ๊กแบ๊กสีขาวมีตัวอักษร P เบอร์โทรศัพท์ วันที่ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน อย่าไปสัมผัส” นายชัชชาติกล่าว และว่า การดำเนินการหลังจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะเร่งดำเนินการหาวิธีเคลื่อนย้ายสารแคดเมียมพี่พบออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัยต่อไป ขณะนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักเทศกิจและสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเข้าประจำการในพื้นที่แล้ว
ส่วนเรื่องการตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดกับสารแคดเมียม หรือผู้มีความเสี่ยงสูง ร่วมกับกรมควบคุมโรคและกรมควบคุมมลพิษ ได้ร่วมกำหนดแนวทางแยกแยะผู้มีความเสี่ยงเป็นระดับ และในขั้นต้นจะมีการตรวจคนงาน ผู้สัมผัสโดยตรงประมาณ 20 คน
ชาวบางซื่อพบ22คนเสี่ยง
วันเดียวกัน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มอบหมายให้ นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่เฝ้าระวังสุขภาพประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากกากแคดเมียม กรณีตรวจพบกากแคดเมียมในโรงงานแห่งหนึ่งย่านบางซื่อ กรุงเทพมหานคร น้ำหนักประมาณ 150 ตัน มีคนงานทำงานในโรงงาน 22 คน อาจจะสัมผัสใกล้ชิด ขณะนี้สำนักงานเขตบางซื่อได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่อันตราย ห้ามอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการในพื้นที่ที่กำหนด เนื่องจากเป็นสารอันตรายส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
นพ.อภิชาตกล่าวว่า กรมควบคุมโรค โดยกองโรคจากการประกอบอาชีพและ สิ่งแวดล้อม และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) เร่งค้นหาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ตรวจคัดกรองสุขภาพ และตรวจหาสารแคดเมียมในปัสสาวะของประชาชนเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่ เช่น ความรู้ทั่วไป อันตราย และวิธีการป้องกัน รวมถึงการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมให้คำปรึกษาและศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ สารแคดเมียมเป็นแร่โลหะหนักชนิดหนึ่ง ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมหลากหลายด้าน เช่น ใช้ฉาบและเคลือบเงาผิวโลหะต่างๆ เพื่อความเงางาม ทนต่อการกัดกร่อน ผลิตแบตเตอรี่ขนาดเล็ก เป็นต้น สามารถพบแคดเมียมปนเป้อนได้ในอาหาร น้ำ รวมทั้งพบแคดเมียมในสีที่ผสมใช้กับบ้านหรืออาคาร เมื่อร่างกายได้รับสารแคดเมียมเข้าไป จะมีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง สามารถทำให้เกิดอาการแบบเฉียบพลัน ได้แก่ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ระคายเคืองหลอดลม จมูก และคอ เป็นต้น หลังจากการรับสัมผัสเป็นระยะเวลานานจะก่อให้เกิดพังผืดที่ปอด พิษต่อไต โรคกระดูก หรือที่รู้จักกันในโรคอิไต อิไต และก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
เก็บในถุงมิดชิดไม่ฟุ้ง
“เนื่องจากกากแคดเมียมดังกล่าว ส่วนใหญ่เก็บไว้ในถุงขนาดใหญ่ในโรงงานมิดชิด ประชาชนทั่วไปจึงมีความเสี่ยงน้อยที่สัมผัสหากไม่ได้ทำงานในโรงงาน หรือเตาหลอมโลหะ แต่จะสัมผัสจากการฟุ้งกระจาย ไปติดตามพื้นบ้านที่อยู่อาศัย ฟุ้งไปไม่ไกล ประชาชนในพื้นที่สามารถป้องกันตัวเองได้ด้วยมาตรการ ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ใช้การดูดฝุ่น หรือผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดแทนการกวาดบ้าน และหมั่นล้างมือบ่อยๆ ก่อนรับประทานอาหารและดื่มน้ำ ประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงควรสังเกตอาการตนเองหรือหากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ระคายเคืองหลอดลม มีประวัติเข้าใกล้พื้นที่เสี่ยง ขอให้รีบพบแพทย์และแจ้งประวัติเสี่ยงทันที” นพ.อภิชาตกล่าว และว่า ทั้งนี้ หากเป็นคนงานที่ปฏิบัติงานในโรงงานที่มีกากแคดเมียมต้องสวมชุดและหน้ากากป้องกันตัวตามมาตรฐาน สำหรับประชาชนทั่วไปที่อยู่ในบริเวณพื้นที่รอบข้าง ควรปฏิบัติตัวดังนี้ 1.หลีกเลี่ยงการเข้าไปในเขตพื้นที่โรงงาน หรือพื้นที่ที่พบแคดเมียม 2.หากมีการสูดดมไอระเหยจากการหลอมเข้าไป ให้รีบไปอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง อากาศบริสุทธิ์ 3.หากผงฝุ่นเข้าตา รีบล้างด้วยน้ำสะอาดและพบจักษุแพทย์ 4.หากเผลอกลืนกิน รีบดื่มน้ำตามทันทีอย่างน้อย 2 แก้ว และ 5.หากมีอาการผิดปกติ รีบปรึกษาแพทย์ทันที ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทรศัพท์ 1422
7คนงานมหาชัยแคดเมียมสูง
นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ เปิดเผยให้ทราบถึง ผลการบำบัดรักษาคนงานของบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ที่เข้ารับการดูแลรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสมุทรสาคร ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมาว่า มีคนงานที่เข้ามาทั้งหมดรวม 21 คน แต่ละคนมีอาการปกติดีทุกอย่าง ขณะนี้ยังคงเหลืออีก 7 คนเท่านั้น ที่มีความเข้มข้นของสารแคดเมียมในเลือดสูง ต้องได้รับการดูแลรักษาต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับต้องใช้สารขับโลหะหนัก ส่วนที่เหลือ 14 คน จะจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลใน วันที่ 11 เมษายน เพื่อให้กลับไปยังที่พักอาศัยได้ แต่ก็ต้องมีความปลอดภัยจากการรับสารกากแคดเมียมด้วย หลังจากนี้ก็จะนัดหมายให้มาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสมุทรสาครเป็นระยะๆ เพื่อประเมินอาการโดยรวมอีกครั้ง
ก.ก.ห่วงแคดเมียมฟุ้งกระจาย
ที่โรงงานในซอยเรียงปรีชา ถ.ประชาราษฎร์ เขตบางซื่อ กทม. น.ส.ภัสริน รามวงศ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน ตนพร้อม น.ส.ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.บางซื่อ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่พบกากแคดเมียมในเขต กทม. จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ไม่พบการหลอมแคดเมียมและไม่พบการแพร่กระจายหรือการปนเป้อนออกภายนอกบริเวณโรงงาน เบื้องต้นพบว่าเป็นส่วนหนึ่งของกากแคดเมียมชุดเดียวกับที่ตรวจพบที่ จ.สมุทรสาครและชลบุรี กรณีที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่น่ากังวล แม้เจ้าหน้าที่จะรายงานว่ากากแคดเมียมไม่ได้กระจายหรือฟุ้งไปในอากาศ แต่เพื่อความปลอดภัย ขอสื่อสารให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงป้องกันตนเองไว้ก่อน หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่เขตบางซื่อจะตรวจสุขภาพประชาชนในระยะ 500 เมตรต่อไป กรณีดังกล่าวนี้ ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่ประเทศไทยควรจะมีกฎหมาย PRTR (กฎหมายรายงานการปลดปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม) พรรค ก้าวไกลเคยเสนอมาตั้งแต่สภาสมัยที่แล้วได้แล้ว แต่เนื่องจากตอนนั้นกฎหมายถูกจัดเป็นร่างการเงิน ต้องได้รับคำรับรองจากนายกฯก่อนเข้าสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขณะนั้นใช้ดุลพินิจปัดตก สภาไม่มีแม้แต่โอกาสได้พิจารณา
ดันกม.ปล่อยสารพิษเข้าสภา
น.ส.ภัสรินกล่าวว่า กรณีกากแคดเมียมที่เกิดขึ้นรวมถึงกรณีอื่นๆ ก่อนหน้านี้สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตประชาชน เช่น โรงงานและโกดังพลุระเบิด คือผลโดยตรงจากการไม่มีกฎหมายใดในประเทศไทยบังคับใช้ให้ผู้ประกอบการต้องแจ้งประเภทและปริมาณของสารพิษที่อยู่ในครอบครอง หรือมีการเคลื่อนย้ายโดยผู้ประกอบการอุตสาหกรรม โดยในสภาชุดนี้ พรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าไปอีกครั้งตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว อยู่ในขั้นตอนรอบรรจุวาระ หวังว่าเมื่อสภาเปิดประชุม และกฎหมายเข้าสู่การพิจารณา จะได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส.ทุกพรรคการเมือง เพื่อรับรองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลและมีส่วนร่วมในการคุ้มครอง ส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เดิมๆ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถอดบทเรียนไม่รู้จบ แต่ไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างแท้จริง
ดร.เอ้ถามหาจนท.รับผิดชอบ
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแล กทม. โพสต์ เฟซบุ๊กส่วนตัว หลังทราบข่าว พบโรงงานเก็บกากแคดเมียมย่านบางซื่อ สร้างความตกใจให้กับประชาชนอย่างมาก ถึงกับตั้งคำถามแคดเมียมมรณะฝันร้ายกลาง กทม. มันมาได้อย่างไร? รัฐบาลต้องตอบคำถาม แคดเมียม คือ แร่โลหะหนัก เป็นของอันตราย หากสูดดมหรือเจือเข้าไปในน้ำ อาหาร ถ้าเข้าร่างกายแล้วมีโอกาสเป็นโรคไตและโรคมะเร็ง เสี่ยงตายอย่างมาก ขอเป็นตัวแทนถามรัฐบาล ดังนี้ 1.รัฐบาลต้องให้คำตอบทันที ทำไมกากแคดเมียมถูกสั่งให้ฝังกลบไปตลอดกาล ที่ตาก ถูกขุดออกมาและขนย้ายหายไปจำนวนมหาศาล ถาม: เจ้าหน้าที่รัฐผู้รับผิดชอบอยู่ที่ไหน เป็นไปได้อย่างไรไม่รู้ ไม่เห็น 2.รัฐบาลปล่อยให้แคดเมียม 15,000 ตัน หายลอยไป จากจังหวัดตาก ลองคำนวณง่ายๆ ต้องมีรถสิบล้อ บรรทุกคันละ 25 ตัน ต้องใช้ถึง 600 เที่ยว ระยะทางเกือบห้าร้อยกิโลเมตร เดินทางมาถึงสมุทรสาคร กรุงเทพฯ ชลบุรี ถาม: รถบรรทุก 600 เที่ยว ผ่านหู ผ่านตา ผ่านด่านตรวจ ได้อย่างไร?
“3.รัฐบาลจะมีท่าทีอย่างไร โดยเฉพาะโรงงานรีไซเคิลที่ชลบุรี กลายเป็นรัฐอิสระไปแล้ว และหน่วยงานรับผิดชอบบอกแค่ว่าไม่เคยอนุญาต แต่โรงงานเหล่านี้กลับดำเนินการโดยไม่สนใจอะไรเลย ถาม: ไม่รู้คำว่า ‘จีนเทา’ นี่คือเทาของอะไร ใช่สีเทาของธนบัตรหรือไม่? ขอส่งคำถามไปกระตุก ท่านนายกรัฐมนตรีอย่ามัวแต่สนใจเรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เรื่องแคดเมียมกระทบสุขภาพและความปลอดภัยสาธารณะรุนแรง ไม่อย่างนั้นคงต้องขอให้เพิ่มสิทธิประโยชน์เงินดิจิทัลที่จะแจกนี้ว่า ให้ใช้เป็นค่ารักษาโรคอิไตอิไต ใน รพ.รัฐทุกแห่งได้ด้วย หรือเราต้องรอ ให้คนไทยต้องร้อง ‘อีตาย อีตาย’ ก่อนถึงท่านนายกฯจะเริ่มทำงาน” นายสุชัชวีร์ระบุ
บรรยายใต้ภาพ
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 13 เม.ย. 2567 (กรอบบ่าย)