นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. เผยถึงทิศทางทำงาน 2 ปีหลังจากนี้ตามนโยบายนาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าจะขับเคลื่อนงานและพัฒนาเมืองภายใต้แนวทาง “ความร่วมมือภาคประชาชน” ผ่าน 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบที่ 1 คณะขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมภาคประชาชนเพื่อพัฒนาเขต ใน 50 เขต เพื่อทำงานให้ได้ตามบริบทที่วางไว้ โดยมี นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัด กทม. เป็นประธาน และแยกคณะขับเคลื่อนเป็น 5 ด้านย่อย ประกอบด้วย เศรษฐกิจ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณสุข
พร้อมยกตัวอย่าง เขตทุ่งครุ ที่ลงไปดูพื้นที่แก้ปัญหาจราจรให้ประชาชนเรียบร้อยแล้ว ส่วนรูปแบบที่ 2 วัดคู่เมือง เป็นอีกการขับเคลื่อนมิติการมีส่วนร่วมภาคประชาชน โดยจะขับเคลื่อนผ่านคณะไวยาวัจกรวัด มีคณะกรรมการชุดใหญ่ซึ่งเจ้าคณะหนกลางทั้งฝ่ายธรรมยุต และมหานิกาย และไวยาวัจกรวัดใหญ่มาช่วยดูแล มีคณะกรรมการชุดเล็กระดับเขต ดูแลวัดในแต่ละเขต เพื่อช่วยดูด้านกายภาพ ต่าง ๆ รวมถึงการเรียนรู้และการศึกษา
“โรงเรียนเราอยู่ในวัดครึ่งหนึ่งของโรงเรียนทั้งหมด เราจะทำงานร่วมกันกับ กทม. เช่น หากวัดมีพื้นที่และอนุญาตให้สามารถทำตลาดได้ พ่อค้าแม่ค้าก็จะมีพื้นที่ขายของเพิ่ม หรือโรงเรียนวันเสาร์อาทิตย์ที่มีเปิดสอนก็สามารถบูรณาการการเรียนการสอนร่วมกันได้ รวมถึงการคัดแยกขยะที่ กทม.สามารถทำร่วมกับวัดเพื่อพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่”
นายต่อศักดิ์ ย้ำว่า 2 ปีที่เหลือจากนี้จะเป็นการพัฒนาเมืองโดยการมีส่วนร่วมผ่าน 2 คณะกรรมการขับเคลื่อนดังกล่าว ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนชุดใหญ่ของกทม. ที่จะทำตามนโยบายที่วางไว้ควบคู่ไปกับการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ด้วยการลงพื้นที่ไปยังจุดต่าง ๆ เพื่อรับฟังปัญหาโดยตรง จะได้มีแนวทางและช่วยพัฒนาได้ตรงตามความต้องการของพื้นที่
ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับกิจกรรมผู้ว่าฯสัญจร ซีซั่น 2 ที่ผู้ว่าฯกทม.จะลงไปดูพื้นที่ใน 2 ส่วน คือ ชุมชน หมู่บ้าน คอนโดมิเนียม รับฟังแก้ไขปัญหา และการติดตามโครงการต่างๆทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ระบบระบายน้ำ เป็นต้น โดยคณะกรรมการทั้ง 2 รูปแบบจะนำเรื่องราวที่ได้จากการลงพื้นที่ไปเสนอประกอบการลงพื้นที่ผู้ว่าฯ สัญจรด้วย.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 10 เม.ย. 2567 (กรอบบ่าย)