กรุงเทพฯ ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก หลังนิตยสารท่องเที่ยวชื่อดัง Destin Asian ประกาศให้กรุงเทพฯ คว้าอันดับ 1 เมืองที่ดีที่สุด (Best Cities 2024) ในประเภทเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว (Destination) ในเอเชียแปซิฟิก ตามมาด้วยกรุงโตเกียว สิงคโปร์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ฮ่องกง กรุงโซล นครซิดนีย์ นครเซี่ยงไฮ้ ไทเป และนครโฮจิมินห์ เวียดนาม
ใครที่กำลังมองหาที่เดินเที่ยว เดินเล่น ถ่ายรูปในกรุงเทพฯ แล้วยังจะได้ดื่มด่ำความเป็นย่านเมืองเก่า อยากแนะนำเส้นทางเดินเที่ยวย่านถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ เพราะเป็นย่านเก่าแก่ด้านการค้าขายมาตั้งแต่สมัยโบราณ อดีตถนนทรงวาดคึกคักไปด้วยผู้คนจากทุกสารทิศ
ปัจจุบัน บนถนนทรงวาด นอกจากจะมีตึกแถว อาคารโบราณ วัด ศาลเจ้า มัสยิด สถาปัตยกรรมสวยๆ ให้ชม ยังมีแกลเลอรี ผลงานศิลปะมากมาย ตลอดจนคาเฟ่ชิคๆ เอาใจคนเมือง จากถนนทรงวาดสามารถเดินลัดเลาะเชื่อมต่อเข้าสู่ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง หรืออดีตเรียกว่า “ย่านสะพานเหล็ก” ซึ่งมีงานสตรีทอาร์ตที่รังสรรค์ขึ้นบนกำแพงอาคาร ทำให้ทิวทัศน์ริมคลองชวนเดินมากขึ้น ไม่รวมอาหารการกินย่านเก่าที่น่าลิ้มลอง
ตอนนี้บนถนนทรงวาดมีสีสันสตรีทอาร์ตเพิ่มใหม่ ควรไปเช็กอิน โดยล่าสุด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเปิดภาพวาดฝาผนัง หรือ Street Art ผลงานสองศิลปิน นางสาวโจลีน คิดซูเน ศิลปินชาวเบลเยียม และนางสาววริศรา จันทะคัต ศิลปินชาวไทย โดยมีนางซีบีย์ เดอ การ์ตีเย ดีฟว์ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียมประจำประเทศไทย ร่วม ณ เพลย์ อาร์ต เฮาส์ แกลเลอรี่ เลขที่ 993 และลานจอดรถบริเวณอาคารเลขที่ 1390 ถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์
นอกจากงานศิลป์ที่สะดุดตาแล้ว อาร์ตสเปซ PLAY art house Gallery ก็เป็นอีกจุดเช็กอิน เพราะจากภัตตาคารจีนที่ตกแต่งสไตล์ตะวันตกประดับด้วยเสาโรมัน สู่โกดังเก็บสินค้าที่ปิดร้างไว้ 20 ปี ปัจจุบันอาคารพาณิชย์ 3 คูหาหลังนี้ได้รับการรีโนเวทใหม่ให้โดดเด่น พร้อมเสาโรมันตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า โดยเปิดเป็นแกลเลอรีเล็กๆ ที่จัดแสดงงานศิลปะแบบหมุนเวียนให้เหล่าอาร์ตเลิฟเวอร์เข้าชมฟรี
ชัชชาติกล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตเบลเยียมประจำประเทศไทย ได้แนะนำโครงการศิลปะนี้ในกรุงเทพมหานคร และซาบซึ้งใจในศิลปินชาวเบลเยียมและชาวไทย ที่ได้ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนในที่สุดได้นำงานศิลปะที่สวยงามมาฝากในมหานครแห่งนี้ Street Art เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีสถานทูตจากหลายประเทศเข้าร่วมมากมาย และยังเป็นนโยบายหลักของกรุงเทพมหานครอีกด้วย เนื่องจากศิลปะเป็นภาษาสากลที่ไร้อุปสรรค ไร้พรมแดน ทุกคนสามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ ซึ่งทาง กทม.เองได้ริเริ่มนโยบายศิลปะกลางแจ้งตามย่านต่างๆ ในกรุงเทพฯ
“การจัดนิทรรศการศิลปะกลางแจ้งและเปลี่ยนทุกมุมของเมืองให้เป็นฉากศิลปะ กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ชาวกรุงเทพฯ ได้ขยายจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ผ่านศิลปะรูปแบบต่างๆ ในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมให้ศิลปินมีพื้นที่สำหรับผลิตผลงานและแสดงฝีมือต่อสาธารณชนด้วย” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
การทำงานร่วมกันระหว่างศิลปินชาวเบลเยียมและไทยหนุนเสริมกรุงเทพฯ เมืองศิลปะครั้งนี้ เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมืออันแน่นแฟ้น ในฐานะความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเบลเยียมและไทยที่ยืนยาว ซึ่งถือเป็นวันครบรอบ 155 ปีในปี 2567 นี้ ชัชชาติกล่าวว่า งานศิลปะเหล่านี้จะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะเป้าหมายของโครงการคือ “Brighten your street, Color your neighborhood” หมายถึง ทำถนนให้สว่างไสว ระบายสีสันให้ย่านของคุณ ที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสีสันมากขึ้น กทม.เองพร้อมจะร่วมมือกับสถานทูตในการทำกิจกรรมอื่นๆ ในอนาคต
กิจกรรมดังกล่าว นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม, นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม., นายพิชิตศักดิ์ มีมาก ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์, นายวัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผอ.เขตสัมพันธวงศ์ ร่วมกิจกรรม โอกาสนี้ โจลีน คิดซูเน และวริศรา จันทะคัต ควงคู่พาชมงานศิลป์ บอกเล่าแรงบันดาลใจและกระบวนการรังสรรค์ภาพวาดบนผนังอาคารขนาดใหญ่
นอกจากนี้ เหล่านักเรียนนำเสนอกระเป๋าผ้าแคนวาส ซึ่งเพนต์โดยสีสเปรย์ธีม ‘ความสัมพันธ์ไทย-เบลเยียม’ โดยมีศิลปินเบลเยียมและศิลปินไทยเป็นพี่เลี้ยงแนะนำเทคนิคการใช้สีสเปรย์ให้แก่น้องๆ จากกิจกรรมศิลปะ Workshop ที่โรงเรียนวัดจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งมีนักเรียนจาก รร.วัดจักรวรรดิ, รร.วัดปทุมคงคา และ รร.วัดสัมพันธวงศ์ ร่วมกิจกรรมสนุกสนานกว่า 30 คน นำศิลปะร่วมสมัยเข้าสู่รั้วโรงเรียน เปิดโลกการเรียนรู้นอกตำราเรียน
ทั้งนี้ กทม.และสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยียมประจำประเทศไทย ดำเนินกิจกรรมวาดภาพฝาผนัง (Street Art) เพื่อเพิ่มสีสันความน่าสนใจของเมืองและสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนด้านงานศิลปะ ตามแนวคิด “Brighten your street, Color your neighborhood” โดยศิลปินชาวเบลเยียมและศิลปินชาวไทยร่วมทำกิจกรรมดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 6-29 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองหน่วยงาน และเป็นการส่งเสริมนโยบายจัดแสดงงานศิลปะกลางแจ้งทุกมุมเมืองเป็นพื้นที่ศิลปะตามแนวคิด “สร้างสรรค์ดี” ของ ผู้ว่าฯ กทม.
ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ กทม.จัดพิมพ์คู่มือท่องเที่ยวย่านประวัติศาสตร์เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย 8 พื้นที่ ได้แก่ ย่านหัวตะเข้, ย่านบางลำพู, ย่าน Little India, ย่านตลาดน้อย, ย่านรัตนโกสินทร์, ย่านเยาวราช-สำเพ็ง, ย่านตลาดพลู และย่านคลองบางหลวง พร้อมพัฒนาเว็บไซต์การท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร https://visit.bangkok.go.th/th เพื่อรองรับข้อมูลด้านการท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงข้อมูลกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงข้อมูลภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ รวมไม่น้อยกว่า 3 ภาษา
จัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อาคารส่วนการท่องเที่ยว ถนนพระอาทิตย์ เขตพระนคร จัดจุดให้บริการนักท่องเที่ยวใน กทม. 17 จุด กรณีนักท่องเที่ยวมีเรื่องร้องเรียน หรือแจ้งปัญหาความไม่ปลอดภัย โทร. 0-2225-7612
ส่วนการจัดเตรียมความพร้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เมืองมีความพร้อมในการเดินทาง โดยการพัฒนาเชิงกายภาพ ทางเท้า ทางเดิน ที่สะดวกต่อผู้คนทุกกลุ่ม และจัดกิจกรรมนำร่องท่องเที่ยวย่านพระนคร โดยกลุ่มผู้พิการ กลุ่มผู้ใช้วีลแชร์ ในแหล่งท่องเที่ยวบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ และพัฒนาระบบป้ายสื่อความหมายแนะนำแหล่งท่องเที่ยวให้เชื่อมต่อกับระบบออนไลน์ รองรับในฐานะเมืองปลายทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลก.
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 31 มี.ค. 2567