(25 มี.ค.67) เวลา 13.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตคันนายาว ประกอบด้วย

สำรวจสวน 15 นาที สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 38 บริเวณใต้ทางด่วนยกระดับบางนา-บางปะอิน เขตฯ มีสวน 15 นาที (สวนเดิม) โดยดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ดูแลรักษาให้มีความร่มรื่นสวยงาม จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ 1.สวนหย่อมริมคลองลำนุ่น ซอยเสรีไทย 73 ตั้งอยู่ริมคลองลำนุ่น ข้างแฟลตสน.บางชัน พื้นที่ 3 ไร่ 3 งาน 56.97 ตารางวา 2.สวนคันนายาวรมณีย์ ถนนสวนสยาม ตั้งอยู่ริมคลองลำรางบ้านเกาะ กึ่งกลางระหว่างหมู่บ้านเลิศอุบล และหมู่บ้านฐานทอง พื้นที่ 4 ไร่ 24 ตารางวา 3.สวนหย่อมริมคลองหลอแหล ซอยเสรีไทย 83 ตั้งอยู่ริมคลองหลอแหล ระหว่างซอยเสรีไทย 83 และนิคมอุตสาหกรรมบางชัน พื้นที่ 6 ไร่ 35.75 ตารางวา 4.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 38 ตั้งอยู่ริมบึงลำบึงกุ่ม ซอยเสรีไทย 38 ตรงข้ามหมู่บ้านนวธานี พื้นที่ 5 ไร่ 3 งาน 94.75 ตารางวา 5.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 50 ตั้งอยู่ริมบึงลำบึงกุ่มโซนฝั่งทิศเหนือ ซอยเสรีไทย 50 ข้างชุมชนหมู่ 3 ร่วมใจพัฒนา พื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน 19.50 ตารางวา 6.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 52 ตั้งอยู่ริมบึงลำบึงกุ่มโซนฝั่งทิศเหนือ ซอยเสรีไทย 52 พื้นที่ 3 ไร่ 4 ตารางวา สำหรับสวน 15 นาที (สวนใหม่) ที่ดำเนินการแล้วเสร็จคือ สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 38 แยก 14 พื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน 88.25 ตารางวา อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ ได้แก่ 1.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 38/1 จากสะพานเขียวข้ามบึงลำบึงกุ่ม พื้นที่ 1 ไร่ 3 งาน 2.50 ตารางวา 2.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ช่วงบริเวณใต้ทางด่วนยกระดับบางนา-บางปะอิน จากทางด่วนฝั่งทิศตะวันตก ถึงทางด่วนฝั่งทิศตะวันออก โซน 2 พื้นที่ 1 ไร่ 42.50 ตารางวา 3.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ช่วงบริเวณใต้ทางด่วนยกระดับบางนา-บางปะอิน จากทางด่วนฝั่งทิศตะวันตก ถึงทางด่วนฝั่งทิศตะวันออก โซน 3 พื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน 66.25 ตารางวา ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่ การออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในสวนให้ตรงกับความต้องการของชุมชนและประชาชนที่เข้ามาใช้บริการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ ในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเขตคันนายาว ได้ร่วมกันปลูกต้นตะเคียนทองและต้นจันทร์ เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียว สร้างกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง เพิ่มความร่มรื่นและสวยงามให้กับสวนดังกล่าว

ติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โครงการแลนด์มาร์คแอทแกรนด์สเตชั่น (Landmark @ Grand Station) ซอยรามอินทรา 64 ถนนรามอินทรา ซึ่งเป็นการก่อสร้างอาคารพักอาศัย ความสูง 23 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามวิธีและเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตในการก่อสร้างตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ.2526) และแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 67 (พ.ศ.2563) และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้ผู้ประกอบการตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องพ่นละอองน้ำ และเปิดใช้งานตลอดเวลาที่มีการก่อสร้าง ปรับปรุงพื้นดินด้านข้างทางเข้าออกโครงการ และเคลื่อนย้ายกองดินออกไปให่เรียบร้อย ติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศพร้อมจอแสดงผลด้านหน้าโครงการให้สามารถมองเห็นค่าฝุ่นได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ตามมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศและมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ประเภทสถานประกอบการ/โรงงาน 3 แห่ง ประเภทแพลนท์ปูน 2 แห่ง ประเภทสถานที่ก่อสร้าง 3 แห่ง ประเภทตรวจวัดควันดำสถานที่ต้นทาง 2 แห่ง พร้อมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 ควบคุมสถานประกอบการไม่ให้ปล่อยมลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน

เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด พื้นที่ 15 ไร่ มีบุคลากร 306 คน วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ ตั้งวางถังรองรับขยะเศษอาหารส่วนกลางและตามชั้นภายในอาคาร ประชาสัมพันธ์ให้พนักงานและลูกค้าไม่ทิ้งขยะเศษอาหาร เศษผัก เปลือกผลไม้รวมกับขยะทั่วไป เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการ คัดแยกขยะเศษอาหาร เศษผัก เปลือกผลไม้ เพื่อนำกลับไปใช้ประโยชน์ สาธิตการทำปุ๋ยหมักหรือน้ำหมักชีวภาพให้กับพนักงาน ปลูกพืชผักสวนครัว 2.ขยะรีไซเคิล ตั้งวางจุดรับขยะรีไซเคิลส่วนกลางของบริษัท เพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ โดยมีทีมงานผู้รับผิดชอบส่วนกลางทำการคัดแยกขยะ เพื่อนำไปจำหน่ายเพิ่มขึ้น 3.ขยะทั่วไป ประชาสัมพันธ์ให้พนักงานนำขยะมาตั้งวางรวมตามจุดและตามวันเวลาที่กำหนด เพื่อรอการจัดเก็บ ป้องกันปัญหาขยะตกค้าง ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ จัดเก็บ 2 ครั้ง/สัปดาห์ ในเวลา 04.00-05.00 น. 4.ขยะอันตราย ตั้งวางจุดทิ้งขยะอันตรายส่วนกลางภายในบริษัท บริเวณอาคารและฝ่ายซ่อมบำรุง ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่พนักงานและผู้มาใช้บริการ นอกจากนี้บริษัทยังได้จัดทำโครงการปลูกผักปลอดสารพิษและการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ที่จังหวัดลพบุรีและจังหวัดเพชรบูรณ์ สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 1,301.7 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 139.2กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 40.4 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 1,122.1 กิโลกรัม/เดือน

ตรวจความเป็นระเบียบพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน บริเวณถนนคู้บอน เขตฯ มีพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 5 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 60 ราย ดังนี้ 1.ถนนคู้บอน ตั้งแต่ปากซอยถนนคู้บอน จุดสิ้นสุดเลยปากซอยมา 100 เมตร ผู้ค้า 11 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 17.00-21.00 น. 2.ริมถนนหน้าสวนคันนายาวรมณีย์ ตั้งแต่หน้าร้าน 7-11 (แยกสวนสยาม 1) ถึงคลองลำราง (คลองลำเกร็ด) ผู้ค้า 21 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-07.00 น. 3.ถนนเสรีไทย ตั้งแต่ปากซอยเสรีไทย 61 จุดสิ้นสุดจากปากซอยเข้ามา 40 เมตร ผู้ค้า 11 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-15.00 น. 4.ริมถนนสวนสยาม ตั้งแต่หน้าสรรพากรพื้นที่ 19 ถึงตลาดสวนสยาม ผู้ค้า 9 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 09.00-15.00 น. 5.บริเวณแยกอมรพันธ์ถึงซอยสวนสยาม 30 ตั้งแต่ปากทางถนนสวนสยาม 20 เมตร ผู้ค้า 8 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 08.00-20.00 น. เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เขตฯ ได้ดำเนินการยกเลิกจุดทำการค้าถนนรามอินทรา บริเวณหน้าศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ผู้ค้า 14 ราย พร้อมทั้งได้จัดทำ Hawker Center บริเวณหน้าศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ สามารถรองรับผู้ค้าได้ 15 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 16.00-21.00 น. โดยใช้พื้นที่บางส่วนบริเวณด้านข้างแลมป์กลับรถ จัดทำเป็น Hawker Center ซึ่งศูนย์การค้าฯ ไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ จัดแบ่งพื้นที่ร้านค้าเป็นสัดส่วน ผู้ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนที่มาต่อรถโดยสารประจำทาง และพนักงานในศูนย์การค้าฯ โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการค้าให้จัดเก็บอุปกรณ์ทำการค้ากลับบ้าน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตะกร้า ร่ม รวมถึงทำความสะอาดพื้นที่หลังเลิกทำการค้าทุกวัน ไม่ให้มีขยะและคราบน้ำมันตกค้าง ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มอบหมายให้เขตฯ พิจารณายกเลิกจุดที่มีผู้ค้าจำนวนน้อยราย ซึ่งเขตฯ มีเป้าหมายยกเลิกจุดทำการค้า จำนวน 2 จุด ได้แก่ 1.ถนนคู้บอน ผู้ค้า 11 ราย 2.ถนนสวนสยาม ผู้ค้า 9 ราย กำหนดระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป จะไม่มีผู้ทำการค้าในพื้นที่ดังกล่าว โดยเขตฯ จะประชุมทำความเข้าใจกับผู้ค้าถึงการจัดระเบียบพื้นที่ ขอความร่วมมือให้ย้ายมาทำการค้าในจุดที่เขตฯ จัดเตรียมไว้รองรับ หรือจุดที่เขตฯ จัดทำเป็น Hawker Center ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เน้นจุดที่มีความต้องการของผู้บริโภค อยู่ใกล้กับพื้นที่ทำการค้าเดิม คำนึงถึงช่วงเวลาทำการค้าและความสะดวกในการเข้าถึงพื้นที่ทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป

ในการนี้มี นายนพ ชูสอน ผู้อำนวยการเขตคันนายาว พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตคันนายาว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล

#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี
—–  (จิรัฐคม…สปส. รายงาน)