กทม. มุ่งลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล แผนปี’67 แก้ไขจุดเสี่ยง 125 จุด – จำกัด ความเร็วนำร่องถนนชั้นใน 40 สาย ยกระดับ ความปลอดภัยทางถนนตามมาตรฐาน iRAP ผนึกกำลังภาคี ศปถ.กทม. รณรงค์ เดินทางปลอดภัยสงกรานต์นี้
นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการ สำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวถึงการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพมหานครตระหนักและให้ความสำคัญกับการลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้ง ช่วงปกติและในช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาว ด้วยการกวดขันวินัยจราจร และการแก้ไข ปรับปรุงกายภาพด้วยหลักวิศวกรรมจราจร ตลอดจนรณรงค์แก้ไขพฤติกรรมการขับขี่ให้ปลอดภัยด้วยการส่งเสริมสร้างวินัยจราจร ผ่านการดำเนินการของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.กทม.) และศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับเขต (ศปถ.เขต) โดยสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้พิจารณาข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุทั้งจาก บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัย จากรถ (ThaiRSC) ศูนย์ข้อมูลอัฉริยะไทย (iTIC) ศูนย์เอราวัณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งเรื่องร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue นำข้อมูลมาจัดลำดับความรุนแรงของอุบัติเหตุ วิเคราะห์หาสาเหตุและพิจารณากำหนดแนวทางแก้ไขจุดเสี่ยงบริเวณต่างๆ ในปี 2566 ดำเนินการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงไปแล้วไม่น้อยกว่า 115 จุด ในปี 2567 มีเป้าหมายแก้ไขจุดเสี่ยงอุบัติเหตุจราจร จำนวน 125 จุด และปีละ 100 จุดในปีต่อๆ ไป
“การแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ เป็นเป้าหมายและภารกิจหลักของ สจส. พื้นที่กรุงเทพฯเรามีปัญหาความเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งเรื่องของกายภาพถนน ไฟฟ้าแสงสว่าง เครื่องหมายเตือนผู้ขับขี่ ซึ่งเราได้ร่วมกับศูนย์วิชาการจุฬาฯ ทำโครงการประเมินและวิเคราะห์ความปลอดภัยทางถนนระดับสากล iRAP โดยเกี่ยวข้อง ผู้ใช้ถนน 4 กลุ่ม คือ คนเดินเท้า ขี่จักรยาน ขี่รถมอเตอร์ไซค์ และขับรถยนต์ เพื่อให้เกิด องค์ความรู้ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้วิธีคิด แนวทางปรับปรุงกายภาพถนนต่างๆ ของ กทม. ให้เกิดความปลอดภัย และนอกจาก ปรับกายภาพแล้ว เรื่องความปลอดภัย ยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมผู้ขับขี่ และยานพาหนะ ที่ต้องรณรงค์สร้างวินัยจราจร ให้ความรู้การใช้ และดูแลพาหนะ ซึ่งเราไม่สามารถทำได้สำเร็จ โดยลำพัง จำเป็นต้องอาศัยภาคีเครือข่าย ผ่าน ศปถ.กทม. โดย สจส.เป็นเลขาฯคอยขับเคลื่อนความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ เป้าหมายลดความเสี่ยงอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ และช่วงวันหยุดยาว” ผอ.สจส.กล่าว
สำหรับการแก้ไขจุดเสี่ยงมีแผนดำเนินการปรับปรุงด้านกายภาพ โดย สจส. ได้ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มความชัดเจนขณะใช้ ทางข้าม และอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์ ช่วยเตือนการมองเห็นในเวลากลางคืน เช่น การใช้เส้นจราจรที่ชัดเจน การติดตั้งหลักล้มลุก การใช้แถบสะท้อนแสง การติดตั้งป้ายเตือน หัวเกาะแบบไฟกะพริบ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ทางให้แก่ประชาชน
ในส่วนการเพิ่มความปลอดภัยบริเวณทางข้าม มี 3 แนวทาง 1.ติดตั้ง ป้ายประกอบทางข้าม เป็นป้ายแนะนำ ทางข้ามและป้ายเตือนทางข้าม 2 ประเภท คือ ป้ายแนะนำทางข้าม พร้อมแสดงการเตือนด้วยสีสติ๊กเกอร์เขียว-เหลือง ฟลูออเรสเซ้นท์ที่กรอบป้าย และป้ายจำกัด ความเร็วพร้อมป้ายเตือนทางข้ามระบุเขต ทางข้ามและความเร็วที่ถูกจำกัด ดำเนินการ ในปีงบประมาณ 2567 และ 2568 การติดตั้ง สัญญาณไฟกะพริบเตือนทางข้าม 2.ติดตั้ง สัญญาณไฟกะพริบที่มีเสายืนอยู่ในระดับสูง เหนือผิวจราจร ติดตั้งไปแล้ว 1,094 แห่ง และ 3.ติดตั้งสัญญาณไฟจราจรทางข้ามชนิดกดปุ่ม มีสัญญาณไฟ สีเขียว เหลือง แดง พร้อมป้ายเตือนทางข้าม ติดตั้งไปแล้ว 353 แห่ง ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยการใช้ทางข้ามและการขับขี่ในเขตทางข้าม ให้การเดินทางของประชาชนมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ มีการจำกัดความเร็วจราจร ทำ Speed Limit Zone กำหนดพื้นที่จำกัดความเร็วบนถนน นโยบาย ผู้ว่าฯกทม. (นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์) เสนอให้พิจารณาลดความเร็วในเขตเมือง จาก 80 กม./ชม. เป็น 50 กม./ชม. นำร่องบนถนนชั้นใน 40 เส้นทาง ได้แก่ 1.ถนนอู่ทองนอก 2.ถนนมหาไชย 3.ถนนบำรุงเมือง 4.ถนนเยาวราช 5.ถนนมหาราช 6.ถนนนครปฐม 7.ถนนจันทน์ 8.ถนนอัษฎางค์ 9.ถนนนางลิ้นจี่ 10.ถนนข้าวหลาม 11.ถนนราชสีมา 12.ถนนบรรทัดทอง 13.ถนนสนามไชย 14.ถนนมเหสักข์ 15.ถนนหลวง 16.ถนนลูกหลวง 17.ถนนราชวงศ์ 18.ถนนตะนาว 19.ถนนไมตรีจิต 20.ถนนเพื่องนคร 21.ถนนพลับพลาไชย 22.ถนนจารุเมือง 23.ถนนรามบุตรี 24.ถนนรองเมือง 25.ถนนหน้าพระธาตุ 26.ถนนพิชัย 27.ถนนสุรวงศ์ 28.ถนนทรงวาด 29.ถนนเสือป่า 30.ถนนมิตรพันธ์ 31.ถนนศิริพงษ์ 32.ถนนพระสุเมรุ 33.ถนนพระอาทิตย์ 34.ถนนสุทธิสารวินิจฉัย 35.ถนนสุคันธาราม 36.ถนนท้ายวัง 37.ถนนกรุงเกษม 38.ถนน เจริญกรุง 39.ถนนสีลม 40.ถนนราชินี โดยเสนอกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พิจารณาออกข้อบังคับจราจร จำกัด ความเร็วดังกล่าว และ สจส.เร่งติดตั้งป้ายจำกัดความเร็ว พร้อมติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วตรวจจับผู้กระทำผิด ส่งข้อมูลให้ บช.น.เปรียบเทียบปรับสูงสุด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน
ทั้งนี้ จากที่ สจส.ได้ร่วมกับศูนย์ วิชาการจุฬาฯ นำผลการประเมินและวิเคราะห์ ความปลอดภัยทางถนนตามมาตรฐาน iRAP มาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา พร้อมปรับปรุงทางถนนให้มีความปลอดภัยตามข้อมูลที่ได้จากการประเมิน ผลดำเนินการ ทั้งหมดจะเป็นการยกระดับความปลอดภัย ในการใช้ทางข้ามการขับขี่บนถนนของ กรุงเทพฯ และเป็นการปฏิบัติตามมาตรฐาน iRAP ที่เป็นมาตรฐานนานาชาติทางถนนซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 25 มี.ค. 2567