กทม.เร่งสร้างเขื่อนปรับภูมิทัศน์-ทำระบบรวบรวมน้ำเสียคลองโอ่งอ่าง

นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบระบบท่อระบายน้ำเสียและฟื้นฟูคลองโอ่งอ่างว่า สนน.มีนโยบายพัฒนาคลองและปรับปรุงภูมิทัศน์ต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพด้านการระบายน้ำและด้านความปลอดภัย โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เป็นต้นแบบการจัดการเพื่อพัฒนาคลองต่าง ๆ อย่างยั่งยืน

โดยที่ผ่านมาได้พัฒนาปรับภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่างบริเวณช่วงสะพานดำรงสถิตถึงสะพานโอสถานนท์ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำคลองโอ่งอ่างและพัฒนาคลอง โดยก่อสร้างเขื่อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ มีระบบการรวบรวมน้ำเสียจากชุมชนตามแนวที่อยู่ริมคลองเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียก่อนที่จะปล่อยลงสู่คูคลอง มีการปรับภูมิทัศน์ริมคลองโอ่งอ่างให้สวยงาม เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวคลองโอ่งอ่างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ต่อยอดทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้คนในพื้นที่

ทั้งนี้ ปัจจุบัน สนน.ได้พัฒนาคลองรอบกรุง หรือคลองโอ่งอ่าง โดยการก่อสร้างเขื่อนและปรับภูมิทัศน์ริมคลอง พร้อมก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียคลองโอ่งอ่าง ช่วงที่ 1 จากบริเวณสะพานดำรงสถิต บริเวณถนนเจริญกรุงถึงแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งใต้บริเวณสะพานพระปกเกล้าความยาวคลองประมาณ 750 เมตร ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2562 และก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.พร้อมทางเดินคลองโอ่งอ่าง ช่วงที่ 2 จากสะพานผ่านฟ้าลีลาศถึงสะพานดำรงสถิตบริเวณถนนเจริญกรุง ความยาวคลองประมาณ 1,000 เมตร ได้รับงบประมาณ กทม.ปี 2563 อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดว่า การก่อสร้างจะแล้วเสร็จประมาณเดือน เม.ย.67

สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองรอบกรุง หรือคลองโอ่งอ่าง สนน.อยู่ระหว่างถ่ายเทและหมุนเวียนน้ำในคลองที่เริ่มเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น ขณะเดียวกันได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าจัดเก็บขยะและวัชพืชภายในคลองอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งตรวจสอบท่อระบายน้ำและท่อรวบรวมน้ำเสีย โดยล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ เพื่อให้น้ำระบายได้สะดวกอย่างต่อเนื่อง

กทม.เร่งผู้รับจ้างก่อสร้างสะพานข้ามแยกสะพานใหม่ให้แล้วเสร็จตามสัญญา

นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์ความล่าช้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยกบริเวณแยกสะพานใหม่ว่า สนย.ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงท้องถิ่นเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิตกับถนนพหลโยธิน แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 จากถนนนวิภาวดีรังสิตถึงคลองลาดพร้าว ช่วงที่ 2 จากคลองลาดพร้าวถึงถนนเทพรักษ์

ปัจจุบันความคืบหน้าการก่อสร้างผลงานทำได้ร้อยละ 68 ซึ่งการก่อสร้างที่ผ่านมาพบปัญหาบ้านรุกล้ำบริเวณริมคลองลาดพร้าว เป็นอุปสรรคทำให้ไม่สามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างสะพานข้ามคลองลาดพร้าวได้ ซึ่ง สนย.ได้เจรจากับผู้อยู่อาศัยและเข้ารื้อถอนแล้วเสร็จเมื่อเดือน พ.ย.66

ปัจจุบันผู้รับจ้างสามารถเข้าดำเนินการก่อสร้างได้แล้ว อีกทั้งยังพบปัญหาการแพร่ระบาดโรคระบาดโควิด 19 ซึ่งผู้รับจ้างได้รับมาตรการช่วยเหลืออัตราค่าปรับร้อยละ 0 ประกอบกับการก่อสร้างสะพานข้ามคลองลาดพร้าวต้องปรับแก้ไขรูปแบบสะพาน ไม่ให้มีการก่อสร้างฐานรากและเสาตอม่อในเขตคลอง เพื่อลดผลกระทบกับการระบายน้ำ

ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างงานฐานรากและตอม่อสะพาน คาดว่า จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค.67 โดยจะได้เร่งรัดให้ผู้รับจ้างก่อสร้างงานผิวจราจรระดับราบพร้อมให้ปรับแนวแบริเออร์ในพื้นที่ส่วนที่ก่อสร้างคันหินทางเท้าแล้วเสร็จ เพื่อเพิ่มพื้นที่การจราจรให้สะดวกยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ สนย.ได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการอย่างใกล้ชิดมาเป็นระยะ พร้อมทั้งเร่งรัดผู้รับจ้างงานก่อสร้างทุกโครงการดำเนินการให้แล้วเสร็จตามสัญญา ตลอดจนกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่ก่อสร้างไม่ให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะและความปลอดภัย รวมถึงลดผลกระทบจากการก่อสร้างที่อาจเกิดกับประชาชนด้วย

เขตจตุจักร-สน.บางซื่อกวดขันวินรถจักรยานยนต์รับจ้างเถื่อน-เข้มงวดจัดระเบียบทางเท้าหน้าสถานีขนส่งหมอชิต 2

นางสาวภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กทม.กล่าวกรณีมีข้อสังเกตพบวินรถจักรยานยนต์รับจ้างเถื่อนสร้างความเดือดร้อน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม รวมถึงรุกล้ำพื้นที่ทางเท้ารอบหมอชิต 2 ว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางซื่อ ลงพื้นที่ตรวจสอบ ตรวจตรา และกวดขันวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะที่ไม่ถูกต้องบริเวณหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือขนส่งหมอชิต 2 พร้อมประชาสัมพันธ์ไม่ให้ขับขี่รับ-ส่งผู้โดยสาร เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่เขตจตุจักร

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่เทศกิจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ กวดขัน และจัดระเบียบทางเท้าบริเวณหน้าสถานีขนส่งหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร 2 พร้อมประชาสัมพันธ์ไม่ให้มีการฝ่าฝืนตั้งวาง หรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535

ขณะเดียวกันได้ว่ากล่าวตักเตือนผู้กระทำความผิด โดยให้ผู้กระทำความผิดแก้ไขจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ ออกจากพื้นที่ทางเท้าสาธารณะและกำชับไม่ให้นำกลับมาตั้งวางอีกอย่างเด็ดขาด เพื่อสร้างความเป็นระเบียบในพื้นที่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบ กวดขัน เพื่อไม่ให้มีผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดอีก