ที่ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง น.ส.ทวิดา กมลเวช นายวิศณุ ทรัพย์สมพล นายจักกพันธุ์ ผิวงาม และ นาย ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. นำคณะผู้บริหาร แถลงการดำเนินงาน เมืองน่าอยู่ 9 ด้าน 9 ดี ก้าวสู่ปี 66 ส่งท้ายปี และทิศทางก้าวต่อไปใน ปี 66 โดย น.ส.ทวิดา เผยถึงด้านสุขภาพดีว่าปัจจุบันเปิดให้บริการ One stop service สำหรับผู้พิการให้สามารถขึ้นทะเบียนได้ที่รพ. สังกัด กทม. แทนการเดินทางไปกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานเขต เบื้องต้นเปิดให้บริการแล้ว 9 แห่ง
ขณะที่ Telemedicine ให้บริการ ปรึกษา ตรวจรักษาตรวจสอบสิทธิ นัดหมาย จองคิว และส่งต่อข้อมูล เปิดใช้แล้ว 9 แห่ง มีผู้รับบริการแล้ว 45,583 ราย ปีหน้าตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 2 แห่ง พร้อมเตรียมขยาย BKK Pride clinic อีก 5 แห่ง จากเดิม 11 แห่ง มีผู้ใช้บริการแล้ว 4,619 ราย ส่วนด้านปลอดภัยดีขณะนี้ได้ทำ BKK Risk Map แผนที่เสี่ยงภัยใน กทม. เสร็จสิ้นระยะที่ 1 ไปแล้ว
ด้านนายวิศณุ กล่าวถึงงานโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบด้วย การบริหารจัดการน้ำ ความปลอดภัยและการจราจร การปรับปรุงทางเท้า และการจัดระเบียบสายสื่อสาร การปรับปรุงทางเท้าและทางวิ่ง 500 กม. ขณะนี้แล้วเสร็จ 20 กม. ส่วนการจัดระเบียบสายสื่อสาร ดำเนินการเสร็จ 161.56 กม. ใน 37 เส้นทาง
ส่วนนายจักกพันธุ์กล่าวถึงนโยบายสวน 15 นาที ปัจจุบันมีการยืนยันให้เข้าใช้พื้นที่แล้ว 98 แห่ง และเปิดใช้งานแล้ว 13 แห่ง สำหรับจุดผ่อนผันการค้า 95 จุด แล้วเสร็จ 55 จุด กำลังดำเนินการ 31 จุด และขอทบทวน 9 จุด และเมื่อสำรวจแล้วพบมีร้านค้านอกจุดผ่อนผันทั้งหมด 618 จุด จาก 50 เขต มีจำนวนผู้ค้า 13,964 ราย สำหรับ การสำรวจพื้นที่เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์อาหาร Hawker Cenbbter 125 จุด ภายใต้หลักการสะดวก สะอาด สนุก กำหนดพื้นที่นำร่อง 2 จุด คือ เขตมีนบุรี และสวนลุมพินีประตู 5 คาดว่าภายใน 3 เดือน จะแล้วเสร็จทั้งสองจุด
ขณะที่นายศานนท์ เผยถึงการเปิดรับอาสาสมัครเทคโนโลยี (อสท.) ประจำชุมชน ปัจจุบันมีจำนวน 266 คน จาก 31 เขต มีการจัดทำ BKK food bank ใน 50 เขต โดยมี 10 เขตนำร่องที่เป็นการบริจาคให้กลุ่มคนไร้บ้านแบบประจำ และมีการส่งเสริมอาชีพสร้างแรงงานให้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานและสร้างผู้ประกอบการ รวมถึงส่งเสริมการให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนขายในออนไลน์ 93 ร้านค้า ใน 1 เดือน มียอดขาย 1.85 ล้านบาท.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 23 ธ.ค. 2565 (กรอบบ่าย)